โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ … คำตอบสุดท้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริงหรือไม่

โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ... คำตอบสุดท้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริงหรือไม่

เบื่อกันบ้างหรือไม่ แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับช่วงเวลาที่พวกท่านต้องรอคอยแชมป์รายการใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีกมานานถึง 8 ปีแล้ว แล้วรู้สึกพอใจกับผลงานของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันบ้างหรือไม่แม้ว่าจะใช้เวลาเกือบ 3 ปีแล้วในการปรับปรุงทีม แต่จนแล้วจนรอด การจะได้สักถ้วยมาประดับโปรไฟล์ ก็ดูไม่มีความใกล้เคียงเลยว่าจะทำได้สำเร็จแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะมีจุดดีแค่เรื่องที่ว่า พวกเขาเป็นทีมฟุตบอลที่เห็นได้ชัดว่ามีการพัฒนาเรื่องความสามารถของนักเตะในทีมแบบโดยรวมได้อย่างต่อเนื่องที่สุดในทุกๆปี ยิ่งตั้งแต่ โซลชาร์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบตำแหน่งผู้จัดการทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อตอนปลายปี 2018 โดยในครั้งแรกเขาได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราว และจากนั้นก็ได้สัญญาคุมทีมถาวร ไม่มีใครกล้าเถียงแน่นอนว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูมีอะไรหลายอย่างดีขึ้นอย่างชัดเจน

ตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีม

ตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีม

กล่าวกันว่าตั้งแต่ที่ “ตำนานดาวยิงหน้าทารก” กลับมาคุมทีมนั้น เขาได้รื้อฟื้นวัฒนธรรมเดิมๆในสมัยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยปลูกฝังเอาไว้ให้กลับมา และยังทำการรีเซ็ตอะไรหลายๆอย่างในห้องล็อกเกอร์ใหม่ด้วย ทุกอย่างดูมีอนาคตมากขึ้น ผลงานในสนามก็ดีมากกว่าแย่ และนั่นก็ทำให้ผู้จัดการชาวนอร์เวย์ได้รับสัญญาคุมทีมฉบับใหม่ที่ทำให้ได้คุมทีมยาวขึ้นตั้งแต่ โซลชาร์ ได้คุมทีมลงเล่นในเกมแรกของเขาเมื่อเดือนธันวาคม 2018 พวกเขาก็ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในฤดูกาล 2018-19 พวกเขาจบที่อันดับ 6 , จากนั้นก็ได้อันดับที่ 3 และ 2 ในฤดูกาลถัดๆมา ยิ่งในฤดูกาล 2018-19 พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะในการแข่งขันรอบน็อคเอาท์ของถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2011 เลยด้วยซ้ำและในฤดูกาล 2019-20 พวกเขาไปถึงรอบรองชนะเลิศของฟุตบอลถ้วยได้ถึง 3 รายการ และในฤดูกาล 2020-21 พวกเขาไปถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลถ้วยในประเทศได้อีกครั้ง และยังได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศยูโรป้าลีกด้วยอีกมีผู้เล่นหน้าใหม่ย้ายมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ทั้งหมด 12 คนในยุคการทำทีมของ โซลชาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อนนี้ที่มันถูกมองว่า มันจะเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะของการพัฒนาตัวเองสู่การเป็นทีมเต็งแชมป์แบบเต็มตัว โดยพวกเขาได้ เจดอน ซานโช่ ปีกดาวรุ่งที่เป็นเป้าหมายในระยะยาวของพวกเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัวแพงถึง 73 ล้านปอนด์และพวกเขายังได้ 2 โคตรนักเตะที่พิสูจน์ตัวเองมาอย่างมากมาย ในเรื่องของการคว้าแชมป์นั่นคือ ราฟาเอล วาราน และรวมถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ได้ตบเท้า

เข้าร่วมงานกับสโมสร

เข้าร่วมงานกับสโมสร

และนอกจากนี้ มันก็มีผู้เล่นมากถึง 11 คนถูกโละออกไปอย่างถาวร เพื่อเป็นการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ และทำเงินเข้าสู่สโมสรอีกด้วยแต่จนถึงตอนนี้ มันก็น่าจะเหลือแค่ “ถ้วยแชมป์” เท่านั้น ที่เป็นสิ่งที่ยังขาดหายไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มุ่งมั่นที่จะคว้ามาประดับสโมสรให้ได้มากที่สุด ซึ่งถ้วยแชมรายการล่าสุดของสโมสรที่สามารถคว้ามาได้นั้น ก็คือตั้งแต่ในปี 2017 ซึ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ ลีก คัพ , ยูโรป้าลีก มาครองท่ามกลางยุคสมัยที่ ยูไนเต็ด ไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่ปี 2013 พวกเขาต้องเห็นทีมอื่นๆ เดินหน้าคว้าแชมป์รายใหญ่ได้มากมาย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมพรีเมียร์ลีก 3 สมัย , เอฟเอ คัพ และ อีเอฟแอล คัพ 4 สมัยลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีกเชลซี ได้ถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก ไปในปีล่าสุด แถมยังมีถ้วยเอฟเอ คัพ และยูโรป้าลีกเมื่อ 2 ปีก่อนเป็นตัวการันตีความสามารถ, และแม้แต่อาร์เซนอลก็ยังได้แชมป์เอฟเอคัพ.แล้วแบบนี้ เมื่อไหร่ล่ะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถคว้าแชมป์เหมือนกับเขาได้บ้าง โซลชาร์ จะมีบารมีมากพอที่จะพาทีมคว้าแชมป์ได้หรือไม่ริโอ เฟอร์ดินานด์ ตำนานแข้งผีแดง ได้อธิบายถึงประเด็นดังกล่าวกับทาง บีที สปอร์ต เอาไว้อย่างน่าสนใจ ในบรรดาผู้จัดการทีมทั้งหมดที่กำลังคุมทีมต่อสู้เพื่อลุ้นตำแหน่งท็อปโฟร์ในพรีเมียร์ลีก ผมคิดว่า โอเล่ ยังไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าเขาจะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ในระดับแชมเปี้ยนส์ลีกได้ จนถึงตอนนี้ ผมว่ามันเลยวันที่ทุกคนอยากจะลุ้นแล้ว” อดีตกองยูไนเต็ดและอดีตเพื่อนร่วมทีมของ โซลชาร์ กล่าวพาดพิงแบบไม่อ้อมค้อมมันคือทีมของเขา ได้รับการหล่อหลอมโดยตัวเขาเอง แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าเขายังไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้สักรายการ มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะยกย่อง”

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง