โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ชของโรม่า ได้ออกมาอธิบายถึงการตัดสินใจย้ายออกจากอินเตอร์ มิลาน เพื่อไปคุมทีม เรอัล มาดริดในปี 2010 มูรินโญ่ ได้ลาออกจากงานผู้จัดการทีม อินเตอร์ ในทันทีหลังจากพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ โดยไปคุมทีม เรอัล มาดริด เป็นเวลา 3 ปีด้วยกัน
เขาเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 13 ปีก่อน ให้กับทางสปอร์ต อิตาเลียได้ฟังว่า “ผมเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับคนอื่นๆ และกับตัวเองอยู่เสมอ ผมสามารถย้ายไปเรอัล มาดริดได้ทันทีหลังจากจบฤดูกาลแรกกับอินเตอร์ แต่ผมเซ็นสัญญากับอินเตอร์ไว้นานกว่าหนึ่งปี ผมมีความสัมพันธ์ที่น่าทึ่งกับอินเตอร์ ไม่เพียงแต่กับประธานเท่านั้น แต่ยังกับภรรยาและลูกๆ ของเขาด้วย ผมไปบ้านโมรัตติทันทีเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลแรก และเราก็ได้ข้อสรุปว่าผมจะอยู่ต่ออีกปีหนึ่ง”
“ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกไม่ใช่สิ่งที่ตัดสินชีวิตผม ผมรู้อยู่แล้วว่าผมจะต้องทำอะไร และผมอยากไปเรอัล มาดริด โอกาสมาถึงเป็นครั้งที่สองแล้ว และผมก็อยากไป มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งในอาชีพของผม ที่ผมบอกตัวเองว่าผมต้องทำ พวกเขาเป็นสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีประวัติศาสตร์ของทีมไหนจะเทียบเคียงมาดริดแล้ว แต่ผมยังยึดติดกับเรื่องที่ว่าผมอยากได้อะไรมากกว่าการคว้าแชมป์ เซเรียอา”
“นอกเหนือจากการคว้าแชมป์ หรือไม่ก็คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกแล้ว ยังมีงานพื้นฐานที่สำคัญคือผมต้องวางรากฐานของทีมเอาไว้ให้โค้ชคนต่อไปมาสานต่อจากผมได้ง่ายๆ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ มันคงจะสบายกว่าสำหรับผมที่จะอยู่ที่อินเตอร์ต่อไป แทนที่จะไปคุมทีมมาดริดแข่งขันกับบาร์เซโลน่า ผมจะได้แชมป์สคูเดตโต้ง่ายๆ อีกครั้ง ผมจะได้ชูถ้วยแชมป์ คลับ เวิลด์ คัพ แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับผมเลย”
“นักเตะที่ฉลาด จะรู้อยู่แล้วว่าผมจะตัดสินใจอะไรลงไป หลังจากรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกจบลง ผมไม่ได้กลับไปมิลาน เพราะผมกลัวว่าอารมณ์ในเวลานั้นจะทำให้การตัดสินใจของตัวเองเปลี่ยนไป และผมจะไม่มีวันไปเรอัล มาดริดอีก ผมปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญากับเรอัล มาดริดก่อนนัดชิงชนะเลิศกับบาเยิร์น มิวนิค แต่ผมกลัวที่จะกลับไปมิลานเพราะอารมณ์ความรู้สึกและความผูกพัน”
