เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังกัปตันทีมชาติฮอลแลนด์ของสโมสร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้ยอมรับว่าเขาเชื่ออย่างแท้จริงเลยว่าเขาจะได้รางวัลบัลลงดอร์ 2019 ที่เพิ่งจะประกาศไปเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว แต่สุดท้ายนั้นมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น และเป็นตัวของ ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์จอมทัพหมายเลข 10 ของบาร์เซโลนาที่ได้ไปครองแทน
กองหลังเชิงสูงวัย 28 ปีรายนี้ได้เผยให้เห็นถึงความผิดหวังที่เขาต้องเจอในปีนี้ โดยเขารู้สึกว่าตัวเองได้พ่ายแพ้ให้กับนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่คว้ารางวัลบัลลงดอร์ 2019 ไปนอนกอด แถมมันยังเป็นการคว้าบัลลงดอร์สมัยที่ 6 ของเมสซี่อีกด้วย ส่งผลให้เมสซี่เป็นนักเตะที่ได้รางวัลบัลลงดอร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์
ส่วนตัวของฟาน ไดค์ ก็ยังคงเป็นเพียงแค่พระรอง และยังไม่สามารถสร้างตำนานให้กับตัวเองในการเป็นแข้งกองหลังรายแรกในรอบ 13 ปีที่ได้บัลลงดอร์ต่อจากตัวของ ฟาบิโอ คันนาวาโร ได้เสียที “ผมเองก็ผิดหวังเล็กน้อย ผมตัดสินใจว่า ถึงแม้ผมจะไม่ได้ แต่ผมก็ยังคงไปร่วมพิธี – และท้ายที่สุดมันเป็นคืนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ” ฟาน ไดค์ กล่าวกับสื่อ
“ผมยังถือว่ามันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่ได้อยู่ร่วมเวทีกับไอคอนทางด้านฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ผมได้คุยกับเมสซี่ในตอนเย็น มันไม่ใช่การสนทนาที่ยาวเท่าไหร่นัก เพราะเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้มากนัก แต่ก็ยังเพียงพอที่จะทำให้ผมตระหนักได้ว่า ความเคารพระหว่างเราสองคนในขณะนั้นมันยอดเยี่ยมมาก เขาคือยอดนักเตะตัวจริง”
