ปอล ลาบิล ป็อกบา (เกิด 15 มีนาคม 1993) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทีมชาติฝรั่งเศส โดยปกติเขาลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่สามารถขยับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก ตัวรับและตัวทำเกมได้
เขาเกิดที่ ลาญี ซู มาร์น ที่ซึ่งเขาให้คำมั่นสัญญาในวัยเด็กว่าจะเข้าร่วมทีมเยาวชนท้องถิ่น และในท้ายที่สุดเขาได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของเลอ อาฟในลีกเอิง ก่อนที่จะถูกดึงตัวมายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2009 หลังจากนั้นอีกสองปี เขาเริ่มมีโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เนื่องด้วยโอกาสในการลงเล่นที่จำกัด เขาจึงย้ายไปยังอิตาลีเพื่อร่วมทีม ยูเวนตุส แบบไม่มีค่าตัวในปี 2012 โดยเขามีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เซเรีย อาถึง 4 สมัย โคปา อิตาเลีย 2 สมัยและอิตาเลียน ซูเปอร์คัพอีก 2 สมัย ในระหว่างค้าแข้งที่อิตาลี เขาพัฒนาตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในโลกและยังคว้ารางวัลโกลเด้น บอย 2013 รวมถึงบราโว อวอร์ด 2014 อีกด้วย ขณะที่ในปี 2016 เขามีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี 2015 ของยูฟ่าและของฟีฟ่า ฟิฟโปร 2015 หลังจากมีส่วนในการพา ยูเวนตุส เข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2015 เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี
จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ ป็อกบา ที่ ยูเวนตุส ส่งผลให้เขาถูกดึงตัวกลับมายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวการย้ายทีมที่เป็นสถิติโลก 105 ล้านยูโร (89.3 ล้านปอนด์) โดยค่าตัวดังกล่าวยังคงเป็นสถิติสูงสุดของสโมสรในประเทศอังกฤษจนกระทั่งปัจจุบัน และในฤดูกาลแรกที่เขากลับมา เขามีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีก คัพและยูโรป้า ลีกได้สำเร็จ
ในระดับนานาชาติ เขาเป็นกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ชุดทำศึกฟุตบอลเยาวชนโลก 2013 รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม และในอีกหนึ่งปีต่อมา เขาประเดิมสนามให้ทีมชาติชุดใหญ่และมีโอกาสลงเล่นในฟุตบอลโลก 2014 และสามารถคว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากฟอร์มอันโดดเด่นของเขา จากนั้นเขาได้รับใช้ทีมชาติในรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ซึ่งประเทศของเขาเป็นเจ้าภาพและจบลงด้วยการคว้ารองแชมป์ ก่อนที่จะพาทีมชาติของเขาคว้าแชมป์โลกในปี 2018 ซึ่งเขาทำประตูในนัดชิงชนะเลิศได้อีกด้วย
ชีวิตช่วงต้น
ป็อกบา เกิดที่ลาญี ซู มาร์น ในเมืองแซ เน มาร์น จากครอบครัวชาวกินี โดยเขาเป็นมุสลิมและมีพี่ชายฝาแฝดสองคน คือ ฟลอร็องแต็ง และ มาธีอัส ซึ่งเกิดที่กินี โดยพวกเขาเป็นนักฟุตบอลและลงเล่นให้กับทีมชาติกินี ในปัจจุบัน ฟลอร็องแต็ง ค้าแข้งอยู่กับ แอตแลนต้า ยูไนเต็ด ขณะที่ มาธีอัส เล่นอยู่กับตูส์ ส่วนชีวิตในวัยเด็ก ป็อกบา เป็นแฟนบอลของ อาร์เซน่อล
เส้นทางการค้าแข้ง
การค้าแข้งช่วงเริ่มต้น
ป็อกบา เริ่มต้นเส้นทางอาชีพการเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบด้วยการลงเล่นให้กับรัวซี-ออง-บรี ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเขาไปทางใต้ไม่กี่ไมล์ โดยเขาใช้เวลาอยู่ที่นั่น 7 ฤดูกาลก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ ตอร์ซี ซึ่งเขาได้เป็นกัปตันทีมชุดอายุไม่เกิน 13 ปีอีกด้วย
หลังจากเล่นกับ ตอร์ซี ได้เพียงหนึ่งซีซั่น ป็อกบา ย้ายมาอยู่กับสโมสรอาชีพอย่าง เลอ อาฟ โดยในฤดูกาลที่สองของเขากับทีม เขาได้รับมอบหมายให้เป็นกัปตันทีม รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีในการแข่งขันรอบสุดท้ายของรายการภายในประเทศ คือ รายการชิงแชมป์แห่งชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี โดยเขาพาทีมจบเป็นอันดับสองรองจาก ล็องส์ และมีอันดับสูงกว่า ลียง และ น็องซี่ นอกจากนี้ เขายังมีชื่อติดทีมชาติชุดเยาวชนอีกด้วย
“โรนัลโด้ เป็นแบบอย่างในการเล่นฟุตบอลของผม และเป็นผู้เล่นที่ทำให้ผมตกหลุมรักฟุตบอล เขาทำให้ผมรู้สึกติดใจในการเล่นเป็นศูนย์หน้าเมื่อครั้งยังเด็ก” ป็อกบา กล่าวถึง โรนัลโด้ อดีตกองหน้าทีมชาติบราซิล ผู้เป็นไอดอลในวัยเด็กของเขา
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
การย้ายทีม
วันที่ 31 กรกฎาคม 2009 ป็อกบา ประกาศว่าเขาจะย้ายออกจาก เลอ อาฟ ไปร่วมทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอังกฤษ โดยการย้ายทีมดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับต้นสังกัดของเขาเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการทำสัญญากับทีมที่ไม่เปิดเผยชื่อ โดยเป็นความยินยอมของทั้ง ป็อกบา และพ่อแม่ของเขาเองตั้งแต่ปี 2006 แม้ว่าสัญญาดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นในช่วงสิ้นสุดฤดูกาล 2009-2010 จะอนุญาตให้ เลอ อาฟ สามารถทำสัญญากับ ป็อกบา ให้เป็นนักเตะเยาวชนของทีมได้ เมื่อตัวนักเตะมีอายุถึงเกณฑ์และได้รับทุนการศึกษา แต่ต่อมาวันที่ 1 สิงหาคม เลอ อาฟ ได้ออกประกาศผ่านเว็บไซต์ทางการของสโมสรวิจารณ์การกระทำของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และครอบครัวของ ป็อกบา รวมทั้งร้องขอให้ฟีฟ่าเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์นี้
“ตัวนักเตะและพ่อแม่ของเขาปฏิเสธที่จะอยู่กับทีมต่อไปเพราะว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสนอเงินจำนวนมากให้กับพ่อแม่ของเขา ด้วยเป้าหมายที่จะเซ็นสัญญากับลูกชายของพวกเขา” เลอ อาฟ ตอบกลับ หลัง ป็อกบา ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
จากข้อกล่าวหาดังกล่าวจาก เลอ อาฟ ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกข่มขู่ว่าจะถูกฟ้องร้อง ขณะเดียวกันทาง ป็อกบา ได้ออกมาปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ย้ายออกจาก เลอ อาฟ เพื่อเงิน แต่ ฌอง-ปิแอร์ ลูแวล ประธานสโมสร เลอ อาฟ อ้างว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ซื้อบ้านและมอบเงินสดอีก 87,000 ปอนด์ให้ ป็อกบา ส่วนทาง ตอร์ซี อดีตต้นสังกัดของ ป็อกบา ได้ออกมากล่าวว่าทาง เลอ อาฟ ก็ใช้วิธีการเดียวกันกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นี้ ในการดึง ป็อกบา ออกจากทีมเยาวชนของพวกเขา ซึ่งในวันเดียวกันกับที่ ป็อกบา ประกาศว่าจะย้ายไปยังอังกฤษ ทาง ตอร์ซี ได้ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ทางการของสโมสรเพื่อวิจารณ์ เลอ อาฟ ว่า “พวกเราจะไม่ใช้คำว่าขโมย เพราะทีมงานสรรหานักเตะของ เลอ อาฟ ก็ได้ใช้วิธีการเดียวกันนี้กับ ตอร์ซี” และ ตอร์ซี ยังอ้างอีกว่าเอกสารตอบรับของ เลอ อาฟ ได้อนุญาตให้ ป็อกบา เซ็นสัญญาเป็นนักเตะฝึกหัดได้โดยไม่ต้องใส่เหตุผลเบื้องต้น จากนั้นในวันที่ 7 ตุลาคม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับการตัดสินโดยผู้พิพากษาที่ถูกแต่งตั้งโดยฟีฟ่า โดยผลสรุปออกมาว่า ป็อกบา ไม่ได้มีสัญญาเกี่ยวพันกับ เลอ อาฟ และแม้ว่าจะสามารถอุทธรณ์ผลได้ แต่ เลอ อาฟ ได้ออกมายืนยันว่าพวกเขาได้ทำข้อตกลงในการย้ายทีมของ ป็อกบา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2010 แล้ว และเรื่องราวเกี่ยวกับสัญญาทั้งหมดจึงสิ้นสุดลง
ทีมเยาวชนและการถูกเรียกตัวสู่ทีมชุดใหญ่
ป็อกบา เสร็จสิ้นการย้ายทีมไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 7 ตุลาคม 2009 และประเดิมสนามให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีในวันที่ 10 ตุลาคม โดยพ่ายต่อ ครูว์ อเล็กซานดร้า 2-1 จากนั้นเขาจบฤดูกาล 2009-10 ด้วยการทำไปทั้งสิ้น 7 ประตูจากการลงสนาม 21 นัด และพาทีมจบเป็นอันดับที่หนึ่งของกลุ่ม แต่จากนั้นพ่ายต่อ อาร์เซน่อล ในการดวลจุดโทษ 5-3 ในรอบรองชนะเลิศ นัดเพลย์ออฟ ต่อมาในเดือนเมษายน 2010 เขาเป็นส่วนหนึ่งในทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันแชมป์รายการ เคลาดิโอ ซาสซี่ เมมโมเรียล ที่ โบโลญญ่า ประเทศอิตาลี ขณะที่ฤดูกาล 2010-11 ป็อกบา ยังคงอยู่ในทีมเยาวชนลงแข่งขันในพรีเมียร์ลีก ระดับเยาวชนและได้ลงเล่นตลอดสามเดือนแรกของฤดูกาล จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2010 เขาถูกเรียกตัวขึ้นทีมสำรองและมีโอกาสลงเล่นนัดแรกเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2010 ในเกมที่เอาชนะ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 3-1 และในวันที่ 10 มกราคม 2011 ในรายการเอฟเอ ยูธ คัพ เขายิงไกลแบบ “ไพล์ไดรเวอร์” ให้ทีมเฉือนเอาชนะ พอร์ทสมัธ 3-2 ซึ่งชัยชนะดังกล่าวส่งผลให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบ 4 ได้สำเร็จ ส่วนในอีกหนึ่งเดือนต่อมา เขาทำประตูในลักษณะคล้ายเดิมอีกครั้งในเกมที่พ่ายต่อ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-2 ในเกมลีก
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2011 ป็อกบา เป็นหนึ่งใน 4 นักเตะของทีมเยาวชนที่ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่โดยผู้จัดการทีม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในเกมเอฟเอ คัพ รอบห้าซึ่งพบกับ ครอว์ลี่ย์ ทาวน์ โดยเขาได้สวมเสื้อหมายเลข 42 จากนั้นเขากลับไปเล่นให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีในช่วงที่เหลือของฤดูกาล และช่วยให้ทีมโลดแล่นอยู่ในรายการเอฟเอ ยูธ คัพ จนกระทั่งรอบรองชนะเลิศ นัดแรกกับ เชลซี เขาสามารถทำประตูได้ก่อนแพ้ไป 3-2 แต่ในนัดที่สองเขาสามารถแอสซิสต์ให้ทีมทำประตูขึ้นนำในชัยชนะ 4-0 ส่วนในรอบชิงชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ต่อ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์รวม 6-3 พลาดการคว้าแชมป์สมัยที่ 10 โดย ป็อกบา ได้ลงเล่นทั้งสองนัด
ฤดูกาล 2011-12 โอกาสอันจำกัดในการลงเล่นทีมชุดใหญ่
ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2011-12 เฟอร์กูสัน ยืนยันว่า ป็อกบา จะได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในระหว่างฤดูกาลนี้ โดยระบุว่า “ผมหมายถึงว่าถ้าเราจำกัดเขาไว้ จะเกิดอะไรขึ้นรู้ไหม? คุณรู้ไหม เขากำลังจะย้ายออกไป สัญญาของเขากำลังจะหมดในอีกไม่กี่ปี ดังนั้นเราต้องให้โอกาสเขาเพื่อดูว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้างในทีมชุดใหญ่ และเขาก็มีความสามารถที่ยอดเยี่ยม” ป็อกบา ถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมสำรองอย่างเต็มตัวในฤดูกาล 2011-12 และประเดิมสนามนัดแรกในวันที่ 15 สิงหาคม 2011 ในเกมนัดเปิดสนามพบกับทีมสำรองของ อาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีกของทีมสำรอง จากนั้นวันที่ 25 สิงหาคม ในเกมลีกนัดที่สอง เขาสามารถทำประตูที่สองของทีมได้ในชัยชนะ 6-0 เหนือทีมสำรองของ สวอนซี ซิตี้ ต่อมาวันที่ 19 กันยายน เขามีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่นัดที่พบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในการแข่งขันลีก คัพ โดย เฟอร์กูสัน กล่าวว่า “ผมตั้งใจจะส่งเขาลงเล่นในเกมกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด” โดย ป็อกบา ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในช่วงพักครึ่งเพื่อโอกาสในการสัมผัสเกมทีมชุดใหญ่นัดแรก และคว้าชัยชนะไปได้ 3-0 และเขายังได้รับโอกาสลงเล่นเป็นเกมที่สองพบกับ อัลเดอร์ช็อต ทาวน์ ในเกมรอบที่ 4 ของลีก คัพเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2011
ป็อกบา ประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในเกมกับ สโต๊ค ซิตี้ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2012 โดยลงสนามแทนที่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ในนาทีที่ 72 จากนั้นเขาได้ลงเป็นตัวสำรองอีกครั้งในเกมกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เมื่อวันที่ 11 มีนาคม หลังจากนั้น 4 วัน เขามีโอกาสลงเล่นเกมยุโรปครั้งแรก ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สองพบกับ แอธเลติก บิลเบา โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองแทนที่ ไมเคิล คาร์ริค ในนาทีที่ 63 และช่วยทีมบุกไปเอาชนะได้ 2-1 แต่ตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 5-3
ยูเวนตุส
ฤดูกาล 2012-13 แชมป์สคูเด็ตโต้แรก
วันที่ 3 กรกฎาคม 2012 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายืนยันว่า ป็อกบา จะย้ายออกจากทีมหลังไม่ยอมต่อสัญญาฉบับใหม่ เฟอร์กูสัน กล่าวอีกว่า ป็อกบา ได้เซ็นสัญญากับ ยูเวนตุส เป็นเวลานานมาแล้ว กว่าที่พวกเราจะทันรู้ตัว เฟอร์กูสัน อ้างต่อไปว่า ป็อกบา ไม่เคารพต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด “มันเป็นสิ่งน่าผิดหวัง ผมไม่คิดว่าเขาจะแสดงความเคารพต่อทีมแต่ประการใดด้วยความสัตย์จริง ผมค่อนข้างจะยินดีกับพวกนักฟุตบอลที่เลือกจะทำแบบนี้ พวกเขาอาจจะทำได้ดีขึ้นเมื่อย้ายออกจากเราไป” จากนั้นในวันที่ 27 กรกฎาคม ยูเวนตุส ออกมายืนยันผ่านทางเว็บไซต์ทางการของสโมสรว่า ป็อกบา ได้เข้าตรวจสภาพร่างกายกับทีมแล้วและการย้ายทีมจะเสร็จสิ้นในวันที่ 3 สิงหาคม โดยเป็นการเซ็นสัญญายาว 4 ปี และเขามีโอกาสประเดิมสนามนัดแรกให้กับ ยูเวนตุส ในเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลพบกับ เบนฟิก้า ที่เมืองเจนีวา ในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเขาลงเล่นเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 78 แทนที่ อันเดรีย ปิร์โล่
ป็อกบา ประเดิมสนามนัดแรกให้กับ ยูเวนตุส ในเซเรีย อาในเกมพบกับ คิเอโว่ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2012 โดยได้ลงเล่นครบ 90 นาที ต่อมาวันที่ 2 ตุลาคม เขาได้รับโอกาสลงเล่นนัดแรกในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในเกมเปิดบ้านเสมอกับ ชัคตาร์ โดเนทส์ ไป 1-1 จากนั้นในวันที่ 20 ตุลาคม เขายิงประตูขึ้นนำซึ่งเป็นประตูแรกของเขากับทีมในเกมเอาชนะ นาโปลี 2-0 และในวันที่ 31 ตุลาคม เขาลงสนามเป็นตัวจริงในเกมกับ โบโลญญ่า และเป็นผู้ทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะไปได้ 2-1 นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยให้ทีมขึ้นนำจากการยิงของ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ส่งผลให้เขาได้รับความชื่นชมอย่างมากโดยสื่อหลายสำนักของอิตาลีจากฟอร์มการเล่นของเขา เช่น รีพับบลิก้า, แมสซาจเจโร่ และ กัตเซตต้า เดลโล่ สปอร์ต
วันที่ 5 พฤษภาคม 2013 ป็อกบา ถูกไล่ออกจากสนามในเกมลีก เนื่องจากไปถ่มน้ำลายใส่คู่แข่งหลังโดนตบหน้า จากนั้นวันที่ 18 สิงหาคม 2013 เขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในการพาทีมเอาชนะ ลาซิโอ 4-0 ในนัดชิงชนะเลิศ อิตาเลีย ซูเปอร์คัพ 2013 โดยในระหว่างเกมดังกล่าว เขาได้ลงสนามแทนที่ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ และทำประตูขึ้นนำได้ และยังได้รับเลือกให้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์อีกด้วย ต่อมาในเดือนธันวาคม เขายังคว้ารางวัลโกลเด้น บอย 2013 ทำให้เขาเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่ดีที่สุดของยุโรป
ฤดูกาล 2014-16 ความยิ่งใหญ่ภายในประเทศและแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ
ในเดือนมกราคม 2014 ป็อกบา ถูกเสนอชื่อโดย เดอะ กาเดี้ยน ให้เป็น 1 ใน 10 ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของยุโรป ขณะที่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ป็อกบา ทำประตูแรกของเขาในรายการยุโรปให้กับ ยูเวนตุส ในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ แทร็บซอนสปอร์ 2-0 ในรายการยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก จากนั้นในวันที่ 14 เมษายน เขาทำแอสซิสต์ได้ในเกมเอาชนะ อูดิเนเซ่ 2-0 ซึ่งเป็นทีมเดียวกับที่เขาทำสองประตูสุดสวยได้ในฤดูกาลที่แล้ว และในสัปดาห์เดียวกัน เขายังทำประตูชัยในเกมที่เอาชนะ โบโลญญ่า 1-0 และยังคว้าแมนออฟเดอะแมตช์อีกด้วย ป็อกบา ยังพิสูจน์ตัวเองได้ด้วยว่าเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมในซีซั่นนี้ หลังยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จและลงสนามไปกว่า 51 นัด ซึ่งมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในทุกรายการและยังทำไปอีก 9 ประตูอีกด้วย เขาจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์เซเรีย อาภายใต้การคุมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ และพาทีมทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูโรป้า ลีกอีกด้วย
วันที่ 20 กันยายน 2014 ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่อย่าง มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ทำให้เขามีส่วนพาทีมบุกไปเอาชนะ เอซี มิลาน โดยเขาทำแอสซิสต์ให้กับ คาร์ลอส เตเวซ ทำประตูเดียวของเกม ในเดือนต่อมาวันที่ 18 ตุลาคม เขาทำประตูช่วยให้ทีมตีเสมอ ซัสซูโอโล่ และคว้าแมนออฟเดอะแมตช์ จากนั้นในวันที่ 24 ตุลาคม ป็อกบา ต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมออกไปจนถึงปี 2019 ขณะที่ในวันที่ 4 พฤศจิกายน เขาลงสนามนัดที่ 100 ให้กับสโมสรและทำประตูที่สามของเกมในนัดที่พบกับ โอลิมเปียกอส ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ รวมทั้งเป็นประตูแรกของเขาในรายการนี้อีกด้วย ต่อมาวันที่ 22 พฤศจิกายน เขาทำประตูแรกของฤดูกาลในลีกได้ในเกมเอาชนะ ลาซิโอ้ 3-0 ที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโกในกรุงโรม ส่วนเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เขาถูกเสนอชื่อให้ติดโผ 23 นักเตะลุ้นคว้าบัลลง ดอร์ 2014 ในวัยเพียง 21 ปี ซึ่งทำให้เขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในโผนั้นอีกด้วย และในปี 2014 เขาคว้ารางวัล บราโว่ อวอร์ด โดยนิตยสารกีฬากัวริน สปอร์ติโว่ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้นักเตะที่อายุไม่เกิน 23 ปีที่ดีที่สุด ที่ได้ลงเล่นรายการยุโรป
วันที่ 11 มกราคม 2015 เขาช่วยให้ทีมเอาชนะ นาโปลี ได้ที่สนามสตาดิโอ ซาน เปาโล เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี หลังวอลเลย์หนึ่งประตู ในชัยชนะ 1-3 จากนั้นวันที่ 15 มกราคม เขาทำประตูแรกของเขาได้ในรายการโคปา อิตาเลียในเกมที่ถล่ม เวโรน่า 6-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อมาในวันที่ 9 มีนาคม เขาทำประตูโทนของเกมในนัดที่เฉือนชนะ ซัสซูโอโล่ 1-0 ส่งผลให้ ยูเวนตุส มีคะแนนนำ โรม่า ทีมอันดับสองถึง 11 คะแนนในลีก ขณะที่ในเกมนัดที่สอง รอบ 16 ทีมสุดท้ายของรายการยุโรปนัดที่พบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาถูกเปลี่ยนออกจากสนามตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก เนื่องจากอาการบาดเจ็บแฮมสตริง ส่งผลให้เขาพลาดการลงสนามถึง 2 เดือน เขากลับมาลงเล่นได้อีกครั้งในวันที่ 9 พฤษภาคม และทำประตูได้ในเกมเปิดบ้านยันเสมอ กายารี่ 1-1 แต่ก็เพียงพอที่ทำให้ ยูเวนตุส คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อาเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2012
วันที่ 13 พฤษภาคม ป็อกบา จ่ายบอลให้ อัลบาโร่ โมราต้า ยิงประตูตีเสมอ เรอัล มาดริด ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง โดยประตูดังกล่าวเป็นประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 3-2 พาทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีได้สำเร็จ ต่อมาวันที่ 20 พฤษภาคม เขาทำประตูขึ้นนำได้ในเกมเฉือนชนะ ลาซิโอ้ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศโคปา อิตาเลีย 2015 ที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก จากนั้นวันที่ 6 มิถุนายน 2015 เขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2015 แต่พ่ายแพ้ต่อ บาร์เซโลน่า ที่สนามโอลิมเปียสตาดิโอน ในกรุงเบอร์ลินไป 3-1 พลาดแชมป์ไปในที่สุด
วันที่ 15 กรกฎาคม 2015 ป็อกบา ถูกเสนอชื่อให้อยู่ในโผ 10 นักเตะลุ้นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรป 2015 ต่อมาในฤดูกาล 2015-16 เขาได้รับเลือกให้สวมเสื้อหมายเลข 10 อันโด่งดังของ ยูเวนตุส ภายหลังการย้ายออกไปของ คาร์ลอส เตเวซ ซึ่งหมายเลขดังกล่าวเคยเป็นของ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, โรแบร์โต้ บาจโจ้ และ มิเชล พลาตินี จากนั้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เขาแอสซิสต์หนึ่งประตูในเกมเอาชนะ ลาซิโอ้ 2-1 ในอิตาเลีย ซูเปอร์คัพ 2015 ขณะที่วันที่ 12 สิงหาคม เขาถูกประกาศให้เป็นอันดับที่ 10 ในการลุ้นรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของยุโรป 2015 ต่อมาวันที่ 31 ตุลาคม เขาลงสนามนัดที่ 100 ในเซเรีย อา ในเกมดาร์บี้แมตช์เมืองตูริน ที่เปิดบ้านเอาชนะ โตริโน่ 2-1 โดยเขาเป็นผู้ทำประตูขึ้นนำจากการฮาล์ฟวอลเลย์นอกกรอบเขตโทษ นอกจากนี้เขายังติดโผมีลุ้นทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า 2015 และถูกประกาศให้มีชื่ออยู่ในทีมในวันที่ 8 มกราคม 2016 อีกด้วย ในอีกสามวันต่อมาเขายังมีชื่ออยู่ใน 11 ตัวจริงของฟีฟ่า ฟิฟโปร 2015 จากนั้นเขายังคงลงเล่นได้ดีขึ้นกับตำแหน่งใหม่ของเขาในทีมหลังถูกจับไปเล่นเป็นตัวทำเกม ทำให้เขาได้บอลมากขึ้นและช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ โดยเขาทำได้ถึง 8 ประตูซึ่งมากที่สุดที่เคยทำได้และยังเป็นผู้ทำแอสซิสต์สูงสุดในลีกฤดูกาลนั้น โดยเขาแอสซิสต์ไปทั้งสิ้น 12 ลูกเท่ากับ มิราเล็ม ปานิช
การกลับมาสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
2016-18 ชนะเลิศยูโรป้า ลีกและฟอร์มที่แกว่งไปมา
วันที่ 8 สิงหาคม 2016 ป็อกบา ย้ายกลับมายังต้นสังกัดเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง โดยเซ็นสัญญา 5 ปีพร้อมค่าตัวสูงสุดเป็นสถิติโลกที่ 105 ล้านยูโร (89.3 ล้านปอนด์) บวกโบนัสอีก 5 ล้านปอนด์ พร้อมกับทำลายสถิติโลกเดิมของ แกเร็ธ เบล ลงไป ทางด้าน มิโน่ ไรโอล่า เอเย่นต์ส่วนตัวของ ป็อกบา ได้รับเงินส่วนแบ่งกว่า 27 ล้านยูโรจาก ยูเวนตุส ในการย้ายทีมกลับไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในครั้งนี้ ส่วนทาง ยูเวนตุส เปิดเผยว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกว่า 26.154 ล้านยูโร ขณที่ทางด้านสมาคมฟุตบอลอังกฤษออกมาประกาศว่า ป็อกบา จะไม่สามารถลงสนามในเกมนัดเปิดฤดูกาล 2016-17 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พบกับ บอร์นมัธ ได้ เนื่องจากเขามีใบเหลืองสะสมอยู่ 2 ใบมาจากการลงเล่น ยูเวนตุส ในรายการโคปา อิตาเลียฤดูกาลก่อน ต่อมาวันที่ 19 สิงหาคม เขาประเดิมสนามนัดแรกให้ทีมใหม่ ในเกมเปิดบ้านเอาชนะ เซาแธมป์ตัน 2-0 ในพรีเมียร์ลีก
หลังจากพ่ายแพ้คาบ้าน 2-1 ในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์เมื่อวันที่ 10 กันยายน ทำให้ ป็อกบา ถูกวิจารณ์โดย เจมี่ คาร์ราเกอร์ ถึงวินัยในการครองพื้นที่ของตัวเอง อย่างไรก็ตามเขาสามารถดึงฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้งและทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกด้วยการโหม่งได้ ในเกมเปิดบ้านเอาชนะแชมป์เก่า เลสเตอร์ ซิตี้ 4-1 จากนั้นเขาทำอีกสองประตู โดยประตูแรกจากการสังหารจุดโทษและอีกลูกจากการยิงไกล ในเกมยูโรปา ลีกนัดพบกับ เฟเนร์บาห์เช่ โดย โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมกล่าวถึง ป็อกบา หลังเกมว่า การวิจารณ์จากพวก “ไอน์สไตน์ลูกหนัง” นั้น เร็วเกินไปที่จะตัดสินตัวนักเตะ
ในเดือนมกราคม 2017 ป็อกบา ทำประตูได้ในเกมบุกเอาชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 2-1 ในเกมอีเอฟแอล คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะด้วยสกอร์รวม 3-2 จากนั้นในวันที่ 24 พฤษภาคม 2017 เขาทำประตูออกนำได้ในนาทีที่ 18 ในเกมยูโรป้า ลีก นัดชิงชนะเลิศกับ อาแจ็กซ์ สโมสรจากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประตูที่ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะไปได้ 2-0 คว้าแชมป์รายการระดับทวีปได้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบฤดูกาล 2016-17 ด้วยการเป็นอันดับที่หกในลีก โดย ป็อกบา มีส่วนร่วมกับทีมมากถึง 30 นัดและทำไป 5 ประตูกับ 4 แอสซิสต์
ป็อกบา ทำประตูปิดท้ายได้ในชัยชนะ 4-0 เหนือ เวสต์แฮม ในเกมนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 207-18 และในระหว่างเกมที่เอาชนะ บาเซิ่ล 3-0 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2017-18 รอบแบ่งกลุ่ม เขาได้รับบาดเจ็บแฮมสตริงข้างซ้ายทำให้พลาดการลงสนามถึง 8 เกม จากนั้นเขากลับมาลงเล่นได้เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ในเกมเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-1 ด้วยการทำแอสซิสต์ให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จากการเปิดบอลทางด้านข้าง และทำประตูที่สามของเกมอีกด้วย ขณะที่เกมแรกของเขาในปี 2018 เมื่อวันที่ 1 มกราคม เขาทำสองแอสซิสต์ในเกมเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 แต่ตลอดระยะเวลาอีกไม่กี่เดือนต่อมา เขากลับถูกวิจารณ์อีกครั้งถึงความรับผิดชอบในสนามและการไม่ช่วยเล่นเกมรับ เขาถูกดร็อปไม่ให้ลงสนามหลายเกม โดยเป็น สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ได้ลงทำหน้าที่แทน รวมถึงเกมที่เฉือนเอาชนะคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง ลิเวอร์พูล นอกจากนี้เขาถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองคนสุดท้ายเพียงครั้งเดียวในเกมที่พ่ายต่อ เซบีย่า ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนมีนาคม
ขณะที่หนึ่งวันก่อนเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทางด้าน เป็ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อ้างว่า มิโน่ ไรโอล่า เอเย่นต์ของ ป็อกบา ได้เสนอขาย ป็อกบา ให้กับทีมของเขา แต่ ไรโอล่า ได้ออกมาปฏิเสธในเวลาต่อมา และในระหว่างเกมดังกล่าวเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ป็อกบา ทำสองประตูในช่วงเวลาห่างกันไม่นาน ให้ทีมแซงกลับมาเอาชนะไปได้ 3-2 หลังจากตามหลังในครึ่งแรก 2-0 โดยชัยชนะดังกล่าวเป็นการป้องกันไม่ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อหน้าพวกเขาอีกด้วย และในท้ายที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถจบฤดูกาลเป็นอันดับสองได้สำเร็จ ขณะที่เกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศกับ เชลซี พวกเขาพ่ายไป 1-0 แม้ว่า ป็อกบา จะมีโอกาสทองในการโขกตีเสมอในกรอบเขตโทษก็ตาม
2018 – ปัจจุบัน การกลับสู่ฟอร์มที่ดี
เนื่องจากการพักรักษาอาการบาดเจ็บของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย กัปตันทีม ส่งผลให้ ป็อกบา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชั่วคราวในช่วงต้นฤดูกาล 2018-19 โดย ป็อกบา เริ่มต้นด้วยฟอร์มที่ดีในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของฤดูกาล ด้วยการทำไป 4 ประตูและได้รับมอบหมายให้เป็นผู้สังหารจุดโทษ แต่อย่างไรก็ตาม จากผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังในหลายๆนัด ทำให้ มูรินโญ่ ออกมาประกาศว่า ป็อกบา จะไม่ได้เป็นกัปตันทีมอีกต่อไป จากนั้นในช่วงปลายเดือนกันยายน ตัวเขาและ มูรินโญ่ ถูกจับภาพได้ว่ามีปากเสียงกันในระหว่างการฝึกซ้อม ถึงแม้ว่า มูรินโญ่ จะออกมากล่าวว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกันระหว่างพวกเขาทั้งสองก็ตาม และ ป็อกบา ยังคงได้ลงเล่นต่อไป โดยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงและทำประตูได้ในเกมเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 แต่จากนั้น ด้วยฟอร์มการเล่นที่แย่ลงและความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับ มูรินโญ่ ทำให้ มูรินโญ่ ออกมากล่าวหาว่า ป็อกบา เปรียบเสมือนไวรัสในทีมที่ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นที่แย่ลงของทีม โดย ป็อกบา เป็นเพียงแค่ตัวสำรองในอีกหลายเกมต่อมา รวมทั้งในเกมแดงเดือดที่พ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล 3-1 อีกด้วย และหลังจบเกมดังกล่าวไม่กี่ชั่วโมง มูรินโญ่ ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็นทางด้าน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ถูกแต่งตั้งเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวจนกระทั่งจบฤดูกาล
ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่อย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำให้ ป็อกบา กลับมาสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้งด้วยการทำได้สองประตูทันทีทั้งในเกมกับ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ และ บอร์นมัธ ต่อมาในเดือนมกราคม 2019 เขาแอสซิสต์ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำประตูชัยในเกมกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รวมทั้งยังทำประตูได้อีกในเกมกับ ไบรท์ตัน และ เบิร์นลี่ย์ จากนั้นเขาทำอีกหนึ่งประตูในเกมบุกไปเอาชนะ ฟูแล่ม 3-0 และได้รางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ไปครอง โดยประตูที่เขาทำได้ เป็นประตูรวมทั้งสิ้น 11 ลูกในลีกและ 13 ลูกในทุกรายการ ซึ่งมากที่สุดที่เขาเคยทำได้ในหนึ่งซีซั่น จากนั้นเขายังทำประตูอีกครั้งในเกมที่เอาชนะ เชลซี 2-0 ในเกมเอฟเอ คัพ รอบห้า
เส้นทางทีมชาติ
ป็อกบา เริ่มต้นเส้นทางทีมชาติของเขาให้กับทีมชาติฝรั่งเศส และได้ลงเล่นให้กับทีมชาติทุกระดับ และก่อนที่จะมีโอกาสประเดิมสนามทีมชาติชุดใหญ่ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมชุดอายุไม่เกิน 16 ปีโดยผู้จัดการทีม กีย์ เฟร์ริเยร์ และลงเล่นให้กับทีมชาติชุดเยาวชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2008 ในเกมประเดิมสนามของทัวร์นาเมนต์พบกับเวลส์ ที่เมืองลานนีลลิ โดยเอาชนะไปได้ 4-2 และภายใต้การนำทีมของเขา สามารถพาทีมเอาชนะอุรุกวัยและอิตาลีได้อย่างน่าประทับใจในรายการที่เมืองวัล เด มาร์น แต่พ่ายแพ้ต่อสาธารณรัฐไอร์แลนด์ด้วยสกอร์รวม 8-2 ต่อมาวันที่ 31 มกราคม 2009 เขาทำประตูแรกในนามทีมชาติชุดเยาวชนได้ในรอบชิงชนะเลิศ รายการเอเจี้ยน คัพกับนอร์เวย์ ซึ่งประตูดังกล่าวเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนจบลงด้วยชัยชนะ 2-1 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
เขามีชื่อติดอยู่ในทีมชุดทำศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี โดยทำได้สองประตูในรายการนี้ ซึ่งประตูแรกเป็นประตูชัยพาทีมเอาชนะโปรตุเกสในรอบแบ่งกลุ่มและอีกหนึ่งลูกทำได้ในเกมที่พ่ายต่ออังกฤษ 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ ต่อมาเมื่อ เฟร์ริเยร์ ได้ลาออกจากการคุมทีมเยาวชน ป็อกบา ก็ยังได้เป็นกัปตันทีมต่อไปภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง ปิแอร์ มานโกวสกี้ ซึ่งตัวของ มานโกวสกี้ เคยเป็นผู้ช่วยของ เรย์มงด์ โดเมเนคช์ ในทีมชาติชุดใหญ่ ต่อมาเขาประเดิมสนามให้ทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 18 ปี เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2010 ในทัวร์นาเมนต์ที่ฝรั่งเศสและเอาชนะกรีซไปได้ 4-1 จากนั้นวันที่ 24 มีนาคม 2011 ป็อกบา ทำประตูแรกให้ทีมชุดนี้ได้สำเร็จ โดยเป็นประตูชัยในเกมชนะเยอรมัน 2-1 ซึ่งประตูดังกล่าวเป็นการยิงไกลกว่า 30 หลา
ป็อกบา ประเดิมสนามทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 19 ปีเป็นครั้งแรกในเกมกับอิตาลี เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2011 โดยเกมดังกล่าว เขาสามารถทำสองแอสซิสต์ให้กับ ฌอง-คริสตอฟ บาเฮเบ็ค และ อ็องโตนี่ คูร่า ได้ในชัยชนะ 3-1 จากนั้นในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012 เขาทำประตูแรกของตัวเองได้ในเกมชนะสเปน 2-1 ต่อมาในรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบคัดเลือกในปี 2012 เขาทำประตูที่ห้าให้ทีมในเกมถล่มเนเธอร์แลนด์ 6-0 ซึ่งชัยชนะดังกล่าวทำให้ฝรั่งเศสผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จ ต่อมาในวันที่ 11 มิถุนายน 2012 เขามีชื่ออยู่ในทีมชุดลงเล่นในรายการดังกล่าวและในเกมนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มกับ เซอร์เบีย เขาสังหารจุดโทษช่วยทีมเอาชนะไป 3-0 จากนั้นพาฝรั่งเศสเข้าถึงรอบรองชนะเลิศไปพบกับสเปน ในเกมดังกล่าวขณะที่ฝรั่งเศสตามหลังอยู่ 3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เขาเป็นผู้สังหารจุดโทษก่อนหมดเวลาเพียง 3 นาทีให้ทีมตีเสมอได้สำเร็จและได้ไปดวลจุดโทษต่อ แต่ในท้ายที่สุดฝรั่งเศสก็พ่ายไป 4-2 แม้ว่าเขาจะสามารถยิงเขาไปได้ในการดวลเป็นคนแรกก็ตาม และเนื่องจากการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ส่งผลให้ทีมชาติฝรั่งเศสสามารถตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี รอบ 20 ทีมสุดท้ายได้ทันที โดย ป็อกบา มีชื่ออยู่ทีมชุดนี้ด้วย และเป็นกรณีคล้ายคลึงกับสองฤดูกาลก่อน ป็อกบา ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมโดย มานโกวสกี้ และประเดิมสนามให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีเสมอกับจีน 0-0 ขณะที่ในเกมต่อมากับเกาหลีเหนือ เขาสามารถทำประตูที่สองให้ทีมในชัยชนะ 3-1 นอกจากนี้เขายังได้เป็นกัปตันทีมชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีอีกด้วย โดยในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวที่ประเทศตุรกี เขาได้ลงสนามครบทุกนาที ยกเว้นรอบชิงชนะเลิศกับสเปน โดยเขาเป็นเพียงตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน แต่ยังมีชื่อติดทีมทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
ทีมชาติชุดใหญ่
ช่วงเริ่มต้นและฟุตบอลโลก 2014
วันที่ 22 มีนาคม 2013 ป็อกบา ประเดิมสนามให้ทีมชาติชุดใหญ่นัดแรกในฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกพบกับจอร์เจีย เขาได้ลงเล่นเต็ม 90 นาทีและคว้าชัยชนะไปได้ 3-1 จากนั้นเขาทำประตูแรกให้ทีมชาติชุดใหญ่ได้ในเกมเอาชนะ เบลารุส 4-2 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2013 ซึ่งเป็นเกมรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลกเช่นกัน
วันที่ 6 มิถุนายน 2014 เขาติดโผรายชื่อนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 และในวันที่ 15 มิถุนายน เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางในเกมชนะ ฮอนดูรัส 3-0 แต่ได้รับบาดเจ็บจากการเขาปะทะของ วิลสัน ปาลาซิออส ซึ่งทำให้ ปาลาซิออส โดนใบแดงและยังทำให้ฝรั่งเศสได้จุดโทษ และเป็น คาริม เบนเซม่า ที่สังหารเข้าไปให้ทีมออกนำ จากนั้นเขาได้เป็นตัวสำรองในเกมที่สอง และถูกเปลี่ยนลงมาทำแอสซิสต์ให้ เบนเซม่า ทำประตูในเกมชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 5-2 ขณะที่ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เขาทำประตูได้ในนาทีที่ 79 ซึ่งเป็นประตูขึ้นนำให้ทีมเอาชนะไนจีเรียไปได้ 2-0 และคว้าตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ไปครอง ต่อมาฝรั่งเศสกระเด็นตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังพ่ายต่อเยอรมัน แชมป์โลกในครั้งนั้นไป 1-0 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่ง ป็อกบา เป็นผู้ทำเสียฟรีคิกและนำไปสู่การโดนยิงในเกมดังกล่าว และในท้ายที่สุด เขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
ยูโร 2016
ในเดือนพฤษภาคม 2016 ป็อกบา มีชื่อติดอยู่ในทีม 23 คนสุดท้ายของ ดิดิเยร์ เดชองส์ สำหรับลุยศึกยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ แม้ว่าจะมีคนตั้งความหวังกับเขาไว้มากในรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปดังกล่าว แต่ในเกมที่เฉือนชนะ โรมาเนีย 2-1 ในเกมนัดเปิดสนามเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เขากลับต้องอดทนต่อเสียงวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นที่ไม่ดีของเขา หลังจากที่เขาหลุดตำแหน่งบ่อยครั้งและยังส่งผลให้เขาเป็นเพียงตัวสำรองในเกมนัดที่สอง ก่อนจะที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในครึ่งเวลาหลัง ในเกมเอาชนะ อัลเบเนีย 2-0 ต่อมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เขาตกเป็นเป้าวิจารณ์ของสื่ออีกครั้ง หลังทำเสียจุดโทษตั้งแต่ต้นเกมในนัดที่พบกับไอร์แลนด์ ขณะเดียวกัน แกรี่ ลินิเกอร์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า “ป็อกบา เป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงเกินจริงที่สุดในโลกใช่ไหม?” แต่สุดท้ายฝรั่งเศสก็สามารถเอาชนะในนัดดังกล่าวได้ 2-1
ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายพบกับไอซ์แลนด์ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองส์ ป็อกบา สามารถคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง โดยเป็นการเค้นฟอร์มได้จากการลงเล่นในตำแหน่งใหม่ ซึ่งเขาสามารถทำประตูที่สองของตัวเองในนามทีมชาติได้จากการโขกลูกเตะมุมของ อองตวน กรีซมันน์ ซึ่งตัวเขาเองเป็นผู้ทำให้ทีมได้ลูกเตะมุมดังกล่าว จากนั้นเขายังมีส่วนกับการทำประตูของ กรีซมันน์ ส่งผลให้ทีมเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 5-2 พาทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ขณะที่ในรอบรองชนะเลิศกับเยอรมันในอีก 4 วันต่อมา เขาถูกขยับไปเล่นเป็นกองกลางตัวต่ำอยู่หน้าแผงกองหลังคู่กับ แบลส มาตุยดี้ ในระบบ 4-2-3-1 และจากการลงสนามของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ในช่วงครึ่งหลัง ทำให้เขาต้องขยับตำแหน่งอีกครั้งและมีอิสระในการเล่นมากขึ้น ซึ่งเขาก็สามารถสร้างโอกาสให้ กรีซมันน์ ทำประตูของเกมได้ทันที ส่งผลให้เจ้าภาพเอาชนะไปได้ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ แต่สุดท้ายก็พ่ายให้กับโปรตุเกส 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ชวดแชมป์ไปในที่สุด
ชัยชนะในฟุตบอลโลก 2018
วันที่ 17 พฤษภาคม 2018 ป็อกบา ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ต่อมาวันที่ 16 มิถุนายน 2018 เขายิงบอลแฉลบ อาซิซ เบฮิช เป็นประตูชัยให้ทีมเฉือนเอาชนะออสเตรเลีย 2-1 ในเกมนัดเปิดสนามในทัวร์นาเมนต์ โดยในตอนแรกประตูดังกล่าวเป็นเครดิตการทำประตูของเขา แต่ต่อมาฟีฟ่าได้ออกมาเปลี่ยนว่าเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ เบฮิช
ขณะที่ในนาทีที่ 59 ของรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ป็อกบา ทำประตูให้ทีมออกนำโครเอเชียไป 3-1 โดยเป็นการยิงซ้ำลูกจุดโทษของตัวเองที่ยิงไปติดเซฟในตอนแรก และท้ายที่สุดฝรั่งเศสสามารถเอาชนะไปได้ 4-2 คว้าแชมป์โลกไปครองได้สำเร็จ
รูปแบบการเล่น
เขาเริ่มต้นลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่ก็สามารถขยับไปเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงกองกลางไม่ว่าจะเป็นตัวริมเส้นด้านซ้าย ตัวครองบอล ตัวต่ำหน้าแผงกองหลัง ตัวไล่บอล และตัวรุก ป็อกบา ยังถูกกล่าวถึงโดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดของเขาว่าเป็นนักเตะประเภท “พละกำลังมาก, ทักษะสูง และมีความคิดสร้างสรรค์” และยังมี “ดวงตาที่เฝ้ามองการทำประตูและชื่นชอบการฉกฉวยโอกาส” ขณะที่ในอิตาลี เขาได้รับสมญานามว่า “อิล ป็อปโป้ ปอล แปลว่า ปอล เจ้าปลาหมึก” และ “ป็อกบูม” จากรูปแบบการเล่นที่บ้าคลั่งและทรงพลังในสนาม เขาเป็นผู้เล่นรูปร่างใหญ่และแข็งแรง มีความรวดเร็วและทำงานหนัก เขายังเก่งกาจในลูกกลางอากาศและมีจุดเด่นในเรื่องพละกำลัง รวมทั้งความสามารถในการยิงไกลที่แม่นยำและทรงพลัง อีกทั้งยังได้รับคำชื่นชมอย่างมากในแง่ของสภาพร่างกาย เทคนิค การตัดสินใจ การเลี้ยงบอลหลบคู่ต่อสู้ และการครองบอล จากคุณลักษณะเหล่านี้รวมถึงการลงเล่นในตำแหน่งกองกลางทำให้เขามักถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ปาทริค วิเอร่า อดีตนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส เมื่อครั้งเขายังเด็กอีกด้วย
ในระหว่างการลงเล่นในฤดูกาลสุดท้ายกับ ยูเวนตุส เขามักถูกจับไปเล่นเป็นกองกลางตัวสร้างสรรค์เกมมากกว่าตำแหน่งตัวไล่บอลที่เคยเล่น ซึ่งทำให้เขามีเวลากับลูกฟุตบอลมากขึ้นและสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นตัวทำเกมตัวหลักของทีม เนื่องจากวิสัยทัศน์และการจ่ายบอลที่ดีของเขา และจากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเขาทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะกองกลางดาวรุ่งที่ดีและสมบูรณ์แบบที่สุดในโลก และจากการย้ายออกจาก ยูเวนตุส ในปี 2016 ทำให้อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน เปรียบเทียบเขากับอดีตตัวทำเกมชื่อดังอย่าง มิเชล พลาตินี่ และ ซีเนดีน ซีดาน และยังชื่นชมถึงความสามารถ ความเป็นผู้นำ การทำงานหนักและทัศนคติทั้งในและนอกสนามของเขา และยังกล่าวอีกว่า “เขาเป็นดั่งนักรบที่เก่งกาจในสนามและยังมีพรสวรรค์มากมาย การคอนโทรลบอลของเขาและการเปลี่ยนบอลจากรับเป็นรุกนั้นวิเศษมาก”
สื่อและสปอนเซอร์
ป็อกบา เซ็นสัญญากับอดิดาส เพื่อเป็นสปอนเซอร์ด้านชุดและอุปกรณ์กีฬาให้กับตัวเขา โดยเขาสวมรองเท้าของอดิดาส รุ่นพรีเดเตอร์ซึ่งเขาเป็นพรีเซนเตอร์อีกด้วย เขายังปรากฏตัวในโฆษณาฟุตบอลโลก 2018 ของอดิดาสร่วมกับนักเตะชื่อดังคนอื่นๆเช่น เดวิด เบ๊คแฮม, ลิโอเนล เมสซี่ และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เช่นเดียวนักร้องชื่อดังชาวอเมริกัน ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์
เขายังปรากฏตัวในวิดีโอเกมฟีฟ่า โดยท่าดีใจ “แด็บ” ของเขายังปรากฏครั้งแรกในฟีฟ่า 17 อีกด้วย นอกจากนี้ ป็อกบา และพี่ชายของเขา คือ ฟลอร็องแต็ง และ มาธีอัส ยังเข้าร่วมงานประกาศรางวัลมิวสิค อวอร์ดของยุโรป 2017 ที่กรุงลอนดอน โดยตัวเขาและนาตาลี ดอเมอร์ นักแสดงสาวชาวอังกฤษ ได้รับหน้าที่ประกาศรางวัลเพลงยอดเยี่ยมคู่กัน ซึ่งรางวัลดังกล่าวตกเป็นของ ชอว์น เมนเดส นักร้องชาวแคนาดา
