โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski) เจ้าของสถิติแฮตทริกที่เร็วที่สุด

ประวัติและความเป็นมา เลวานดอฟสกี้

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1988 ในเมือง วอร์ซอร์ ประเทศโปแลนด์ ปัจจุบันอายุ 32 ปี ค้าแข้งอยู่กับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ในตำแหน่งกองหน้า สวมเสื้อหมายเลข 9 เขาเป็นนักฟุตบอลที่แฟนๆบอลรู้จักกันดี เรียกว่าเป็นแข้งเทพมืออาชีพที่โด่งดังมาก เขามีพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็ก ก่อนจะมาถึงจุดนี้ เขามีเรื่องราวที่ดีและไม่ดีอีกมายมายที่หลายคนยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับประวัติของเขา เรามาดูกันดีกว่า

ประวัติและความเป็นมา

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ในย่านวาร์โซเวีย และถูก เดลต้า วอร์ซอว์ พาไปคัดเลือกเพื่อที่จะเข้าสู่นักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว เขาทำได้ยอดเยี่ยมมาก โดยการซัดไปถึง 4 ประตู ในเกมคัดเลือกนั้น ทำให้ส่งผลในปี 2006-2007 เขาได้ถูกเลือกให้เล่นกับทีม ซินซ์ พรัสซ์โกว์ ในลีก 3 ของโปแลนด์ และเป็นหนึ่งในนักเตะสำคัญที่พาทีมเลื่อนชั้นไปสู่ดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ และได้รับรางวัลดาวซัลโวจากการถล่มยิงประตู 15 แต้ม ในฤดูกาลเดียว ต่อมาก็ได้รับรางวัลดาวซัลโวอีกครั้งในฤดูกาลที่ 2 โดยซัดไปถึง 21 ลูก

เลช พอซนาน ฤดูกาลที่ 2008-2010

ณ ตอนนั้น เลวานดอฟสกี้ เป็นกองหน้าที่โด่งดังมาก จนแมวมองของ เลช พอซนาน ทีมยักษ์ใหญ่ในโปแลนด์ ก็คว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 1.5 ล้านยูโร (61 ล้านบาทไทย)

ในเดือนกรกฎาคม ปี 2008 เลวานดอฟสกี้ ได้เปิดตัวลงสนามเป็นเกมแรกในศึก ยูโรป้า ลีก ที่เจอกับทีม คาซาร์ เลนโคเรน แต่อยู่ในตำแหน่งตัวสำรอง และไม่นานเขาก็ทำประตูได้ในเกมถัดไปที่พบกับ เบลชาโตว์ และเขาใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น พาทีมจบฤดูกาลแรกด้วยการคว้าแชมป์ลีก ทำประตูไปทั้งหมด 18 คะแนน ในระหว่างที่ เลวานดอฟสกี้ ได้ค้าแข้งกับ เลช พอชนาน เขาทำคะแนนไปทั้งหมด 32 ประตู รวม 58 แมตซ์ ไม่นานเขาก็ได้ย้ายไปยังทีมยักษ์ใหญ่ของ เยอรมัน บุนเดสลีก้า

เลวานดอฟสกี้ ที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ฤดูกาลที่ 2010-2014

หลังจากที่ย้ายมายัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเดือนมิถุนายน ปี 2010 เขาแสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขาเป็นกองหน้าที่มีฝีเท้าขั้นเทพมากแค่ไหน ทำให้ตัวเองมาถึงจุดสูงสุดและสร้างชื่อเสียงได้อย่างโด่งดัง ดอร์ทมุนด์ คว้าตัวเขามาด้วยค่าตัว 4.5 ล้านยูโร (183 ล้านบาทไทย) สัญญาอยู่กับทีมถึง 4 ปี และสร้างมาสเตอร์พีซให้แฟนบอลตะลึงด้วยการพาทีมชนะ ชาลเก้ 04 ไป 3-1 ประตู

ฤดูกาลที่ 2011-2012 เป็นฝันร้ายของ เลวานดอฟสกี้ เขาเกิดอาการบาดเจ็บที่ขา และใช้เวลาพักตัวไปนานพอสมควร จึงทำให้ ลูคัส บาร์ริออส ได้เข้ามาทำหน้าที่แทน ต่อมาในวันที่ 20 สิงหาคม 2011 เลวานดอฟสกี้ กลับมาลงสนามและทำประตูได้อีกครั้ง โดยรับลูกต่อจาก มาริโอ เกิทเซ่ เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากในฤดูกาลนั้น ผลงานที่โดดเด่นคือการทำแฮตทริกเอาชนะ เอาส์บวร์ก ไป 4-0 และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมไปครองได้สำเร็จ

ฤดูกาลที่ 2012-2013 เลวานดอฟสกี้ ได้ลงสนามพบกับ อาแจ็กซ์ ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก และเขาก็ทำประตูได้ในนาทีที่ 87 ทำให้ทีมชนะ อาแจ็กซ์ ด้วยสกอร์ 1-0 ต่อมาเขาก็ได้สร้างสถิติใหม่คนเดียวในทีม ดอร์ทมุนด์ จากการยิงประตูได้ยาวถึง 12 นัดติดต่อกัน จนทำลายสถิติเก่าของ ไฟรด์เฮล์ม โคเนียตซ์ก้า แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รับรางวัลดาวซัลโว เพราะยิงน้อยกว่า สเตฟาน คริสลิ้ง ไปเพียงประตูเดียวเท่านั้น

ในวันที่ 24 เมษายน 2013 เลวานดอฟสกี้ ยิงอัดใส่ เรอัล มาดริด ไป 4 ประตูในรอบรองชนะเลิศ และเป็นนักเตะในทีมคนเดียวที่ทำคะแนนให้ เสือเหลือง เอาชนะ ราชันชุดขาว ด้วยสกอร์ 4-1 ผลงานนี้ทำให้เขาได้รับความชื่นชมจากเหล่าแฟนบอลและเพื่อนๆในทีมเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายก็ต้องก็ต้องพากันเสียใจเพราะทีมดันไปเจอจ่าฝูงของลีกอย่าง บาเยิร์น มิวนิค และรับเกมบุกไม่ไหว เลยแพ้ให้ เสือใต้ ไป 1-2

ในฤดูกาลที่ 2013-2014 เลวานดอฟสกี้ ได้รับรางวัลดาวซัลโวได้อีกครั้ง โดยการทำคะแนนไปทั้งหมด 20 ประตู ในศึกบุนเดสลีกา และยังยิงถล่มในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก ไปอีก 6 ประตู ผลงานของเขายอดเยี่ยมมาก จนทำให้ บาเยิร์น มิวนิค สนใจและร่างสัญญาเพื่อดึงตัวเข้ามาร่วมทีม และ เลวานดอฟสกี้ พอใจกับข้อเสนอที่ เสือใต้ ยื่นมา จึงได้เซ็นสัญญาล่วงหน้าในทันที ก่อนสิ้นสุดสัญญาของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาได้ลงเล่นในเกมสุดท้ายด้วยอาการบาดเจ็บเล็กน้อย เขาสู้จนวินาทีสุดท้าย แต่ก็ดันแพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ไปด้วยสกอร์ 0-2 เลวานดอฟสกี้ อยู่กับ เสือเหลือง 3 ฤดูกาล ลงสนามไป 131 เกม ทำประตูได้ 74 คะแนน

เลวานดอฟสกี้ ที่บาเยิร์น มิวนิค

บาเยิร์น มิวนิค ฤดูกาลที่ 2014-ปัจจุบัน

เลวานดอฟสกี้ เซ็นสัญญาเข้ามาร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 มกราคม ปี 2014 และได้ลงสนามในเกมแรกเมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม เลวานดอฟสกี้ ทำปะตูได้อย่างต่อเนื่อง จนมาถึงวันที่ 13 สิงหาคม เขาได้กลับมาเจอทีมที่ค้าแข้งเก่าอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่กลับพลาดท่าแพ้ไป 2-0

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำประตูแรกให้กับ เสือใต้ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม โดยเสมอกับ ชาลเก้ 04 ไป 1-1 ต่อมา 4 เมษายน เขาพาทีมชนะด้วยการซัดประตูเอาชนะ เสือเหลือง ไป 1-0 ต่อมาในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เขาซัดคนเดียวไปหลายประตู ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค มีชัยเหนือ พาเดอร์บอร์น ด้วยสกอร์ 6-0 ฤดูกาลนั้น เขาโชว์ฟอร์มที่แข็งแกร่งมาก ทำคะแนนไป 17 แต้ม จากการลงเล่นไปทั้งหมด 31 แมตซ์

ฤดูกาลที่ 2015-2016 เขาลงประเดิมเกมแรกในศึกบุนเดสลีกา โดยซัดไป 2 ประตู คนเดียวจนเอาชนะ ฮัมบูร์ก ไป 5-0 และเกมที่สร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นที่รู้จักในปัจจุบันคือศึกที่เจอกับ โวล์ฟบวร์ก ในฐานะตัวสำรอง บาเยิร์น มิวนิค มีคะแนนตามหลังอยู่ 0-1 และ เลวาน เข้ามาเปลี่ยนชีวิต และใช้เวลาเพียง 8 นาที 59 วินาที ซัดไปคนเดียวถึง 5 ประตู ทำเกมพลิกเอาชนะ โวล์ฟบวร์ก ไป 5-1 ซึ่งเกมนั้นเป็นการทำลายสถิติการยิงแฮตทริกที่เร็วที่สุด เป็นตัวสำรองที่ยิงได้เยอะที่สุด และเป็นนักเตะที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการถล่มยิงไป 5 ประตู

เลวานดอฟสกี้ ที่ทีมชาติ

ทีมชาติ

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ติดทีมชาติ โปแลนด์ ตั้งแต่ชุดเยาวชนไม่เกิน 21 ปี เมื่อเขามีอายุ 20 ปี เขาก็ได้ลงเล่นกับทีมชาติ โปแลนด์ ชุดใหญ่ แต่ถูกส่งไปเป็นตัวสำรอง และสุดท้ายก็ลงสนามทำคะแนนช่วยให้ทีมชนะได้สำเร็จในรอบคัดเลือก เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ประสบความสำเร็จในทีมชาติชุดใหญ่

เกียรติประวัติ

รางวัลดาวซัลโว ดิวิชั่น 2 โปแลนด์ 2006-2007

รางวัลดาวซัลโว ดิวิชั่น 1 โปแลนด์ 2007-2008

รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ลีก โปแลนด์ 2009

รางวัลดาวซัลโว ลีก โปแลนด์ 2009-2010

บุคคลทรงอิทธิพลที่สุดใน โปแลนด์ 2008

รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ โปแลนด์ 2011,2012,2013,2014

รางวัลดาวซัลโว เดเอฟเบ โพลคาล 2011-2012

รางวัลดาวซัลโว บุนเดสลีก้า 2013-14

เกียรติประวัติ เลวานดอฟสกี้