เอเดน อาซาร์ เกิดวันที่ 7 มกราคม 1991 ในเมืองลาลูเวียร์ ประเทศเบลเยียม เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวเบลเยี่ยมที่มีชื่อเสียงในด้านทักษะการเลี้ยงบอล การเล่นความเร็ว และความเหนือชั้นหลายๆอย่างของเขาที่น่าตะลึง ในโลกของฟุตบอลอาชีพ อาซาร์ เป็นผู้เล่นที่น่าหวาดกลัวและเป็นไอดอลฟุตบอลสำหรับแฟนๆของเขา เนื่องจากทักษะและความคล่องแคล่วของเขาในเกม อาซาร์ จัดอยู่ในระดับเดียวกันกับ ลิโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ แกเร็ธ เบล ปัจจุบันเล่นอยู่ในสโมสร เรอัล มาดริด ฉายาคือ นักฟุตบอลที่เป็นฝันร้ายของกองหลัง เหตุผลที่ได้ฉายานี้ก็เป็นเพราะลีลาการเล่นที่ทำเอาคู่แข่งในสนามต้องหวาดเสียว
เอเดน อาซาร์ เริ่มเล่นฟุตบอลในช่วงปี 1995 เริ่มแรกที่สโมสรเยาวชน รัวยาลด สตาดแบรนัว และสิ้นสุดเมื่อปี 2003 มาต่อสัญญากับ สโมสรเยาวชนตูว์บีช จนถึงปี 2005 จึงเริ่มเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับ ลีลล์ ในปี 2007-2012 เขาลงเล่นไป 147 นัด ยิง 36 ประตู ก่อนที่จะย้ายไปยัง เชลซี ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ค้าแข้งอยู่ในทีมนี้เป็นเวลานาน และด้วยเหตุผลส่วนตัว เขาได้เซ็นสัญญาย้ายไปยัง เรอัล มาดริด จนถึง ณ ปัจจุบันนี้
ความเป็นมาของ อาซาร์
เอเดน อาซาร์ เริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกเมื่อปี 1998 ในสโมสร Royal Stade Brainois พ่อของเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวเบลเยียมเหมือนกัน ครอบครัวของเขารักการเล่นฟุตบอล จึงทำให้ อาซาร์ ได้รับเชื้อมาเต็มๆ และเมื่อได้เข้าร่วมสโมสร อาซาร์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนไปเข้าตาแมวมองของสโมสร ลีลล์ และได้ทำการยื่นข้อเสนอคว้าตัว อาซาร์ มาร่วมทีมในปี 2005
ทางสโมสร ลีลล์ พยายามปั้นเขาทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้ลงเล่นในชุดใหญ่ให้ได้ไวที่สุด แต่แล้วเขาก็ทำได้ เมื่อปี 2008 เขาได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ ในวัย 16 ปี ไม่นานก็ได้มาเป็นตัวจริงในปี 2008 และสร้างชื่อเสียงอย่างโด่งดังได้เพราะศึกที่พบกับ ลิเวอร์พูล อาซาร์ ระเบิดฟอร์มเก่ง โดยการปั่นป่วนแนวรับของคู่แข่งทั้งเกม ทำเอาหลายๆคนตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะทีมจากอังกฤษไม่ใช่ทีมที่จะยอมแพ้ใครง่ายๆ แต่ดันจนมุมเมื่อเจอลีลาการเล่นของ อาซาร์ เข้าไป จนเขาได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2009
หลังจากนั้น อินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด และ อาร์เซน่อล ต่างก็รุมแย่งเพราะความเนื้อหอม รวมทั้งยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจมากมายให้กับเขา แต่สุดท้าย อาซาร์ ก็เลือกที่จะปฏิเสธและตัดสินใจอยู่กับทีม ลีลล์ ต่อ จนมาถึงปี 2012 หลายทีมจากเกาะอังกฤษแย่งกันล่าลายเซ็นต์ของเขา แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ สุดท้ายเป็น เชลซี ที่เอาชนะใจและคว้าตัวเขาไปในราคา 32 ล้านยูโร ซึ่งเขาได้รับรางวัล ยูโรป้าลีก ในฤดูกาลแรก
ในปี 2016 อาซาร์ นำทีมของเขาไปครองตำแหน่ง EPL และ ลีกคัพ ทำให้เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี พร้อมกับผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี
ในปี 2017 อาซาร์ เป็นหนึ่งในลูกทีม เชลซี ที่พาทีมคว้าตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลแรกของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ ในฤดูกาลถัดไป อาซาร์ มีข่าวเชื่อมโยงกับ เรอัล มาดริด ประมาณสองฤดูกาลก่อนสิ้นสุดสัญญา และ อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีม เชลซี พยายามทำให้ทีมจบอันดับ 5 ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ คว้าถ้วยเอฟเอ ให้ได้ไวที่สุด ก่อนที่จะหมดสัญญา เพราะกลัวว่าเขาจะตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับลีก ลาลีกา สเปน
อย่างไรก็ตาม การที่เขาย้ายจาก เชลซี ไปยัง เรอัล มาดริด ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงแม้เขาจะบอกเหตุผลกับสื่อหลายสำนัก แต่แฟนบอลหลายคนที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคิดว่าเขาเห็นเงินสำคัญกว่าและอาจจะเกิดปัญหาภายในทีม จึงตัดสินใจย้ายโดยไม่แคร์อะไร อาซาร์ ย้ายไปยัง ลาลีกา สเปน ด้วยค่าตัว 124 ล้านปอนด์ ในขณะที่ สิงโตน้ำเงินคราม กำลังมีปัญหาในการเล่น ทำให้ดูเหมือนกับว่าเขาเลือกที่จะทิ้งทีมและเพื่อนไป
แต่การย้ายไปอยู่กับมาดริด ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เขามีปัญหาถาโถมเข้ามามากมาย ทั้งเรื่องแฟนคลับ ฟอร์มการเล่น ปัญหาความฟิต ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ ราชันชุดขาว มีปัญหาพอดี อาซาร์ จึงไม่ได้อยู่ในสายตาคนดูสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะแผนการเล่นที่เขาไม่คุ้นชิน ทำให้เพื่อนในทีมอย่าง โมดริช หรือ แกเร็ธ เบล โดดเด่นกว่าหลายเท่า บวกกับความหวังของหลายๆคนที่คาดหวังว่า อาซาร์ จะโชว์ฟอร์มได้ดีกว่านี้ กับต้องมาผิดหวัง และถูกนำไปเปรียบเทียบกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่สวมเสื้อหมายเลข 7 เหมือนกัน ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่แย่มาก แต่เขาคงจะผ่านไปได้ ถ้าหากปรับตัวได้ดีกว่านี้
รางวัลยอดเยี่ยมของ อาซาร์
ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ : 2013, 2014, 2015, 2017
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเชลซี : 2014,2015,2017,2019
รองอันดับ 1 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ : 2017
รองอันดับ 1 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเอฟดับบิวเอ : 2017
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเบลเยียม : 2017
เกียรติยศร่วมกับทีม
รองแชมป์ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ : 2012
ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2012 และ 2013
เอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ : 2012,2015 และ 2019
เอฟเอ คัพ : 2017
ลีก คัพ : 2019
