โจเซป บาโตเมล ประธานสโมสรบาร์เซโลน่า ออกมาเปิดเผยว่าสโมสรของเขาเคยพยายามที่จะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อจะเซ็นสัญญาพอล ป๊อกบา จากยูเวนตุส ในปี 2016 แต่ทั้งนี้ ดาวเตะเลือดน้ำหอมเลือกที่จะเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวสถิติโลก 89 ล้านปอนด์ ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของยุคโจเซ่ มูรินโญ่ ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด บาร์เซโลน่า ให้ความสนใจป๊อกบามาโดยตลอด และจะมาพร้อมกับกระแสข่าวลือที่จะยื่นข้อเสนอดึงตัวมาร่วมถิ่นคัมป์ นู ในทุกๆช่วงตลาดซื้อขาย
หลังจากที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำการปลดโจเซ่ มูรินโญ่ พ้นตำแหน่งผู้จัดการทีมนั้น ยอดทีมจากคาตาลันหวังที่จะใช้โอกาสนี้ยื่นข้อเสนอเพื่อคว้าตัวดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทางด้าน ฟลอรองแต็ง ป๊อกบา พี่ชายของพอล เปิดเผยว่าพอลนั้นเป็นแฟนบอลการเล่นทิกิ ทากา และเขากำลังพิจารณาที่จะย้ายออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด และแน่นอนว่ามีบาร์เซโลน่า เป็นหนึ่งในตัวเลือกปลายทาง
บาโตเมว เปิดเผยว่าในเวลานั้น ช่วงปี 2016 พวกเขาไม่สามารถทุ่มเงินสู้ปีศาจแดงได้ สุดท้ายจึงตกไปอยู่กับปีศาจแดง บาโตเมว ให้สัมภาษณ์กับ ESPN ว่า “ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2015 พอล ป๊อกบา ลงเล่นให้กับยูเวนตุส และเราได้ทำการคุยกันว่า หากวันหนึ่งพวกตุรินต้องการขายนักเตะรายนี้ พวกเราพร้อมที่จะยื่นข้อเสนอ และเมื่อถึงเวลานั้นที่เขาตั้งใจจะขาย เขาก็บอกกับพวกเรา และได้คุยกันเรื่องข้อเสนอ แต่เราไม่สามารถทุ่มเงินจำนวนมากในเวลานั้นได้”
“ทำให้เขาไปยูไนเต็ดในที่สุด เขาทำให้ยูไนเต็ดเป็นทีมที่ดีกว่าเดิม เพราะว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะที่เยี่ยมที่สุดบนโลกของฟุตบอลเวลานี้” พอล ป๊อกบา เองจะลงสนามเพื่อสู้ศึกกับบาร์เซโลน่า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งในนัดแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดท่าพ่ายไปก่อน 0-1
