เวอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลังของทีมลิเวอร์พูล ได้ออกมาพูดว่า ในจังหวะที่ตัวของ ดริส เมอเทนส์ กองหน้าทีมชาติเบลเยียมของนาโปลี สามารถยิงประตูได้นั้น ฟาน ไดค์ ได้กล่าวว่าเมอเทนส์จงใจทำฟาล์วของเขาก่อน ยักษ์ใหญ่จากลีกอิตาลี เป็นฝ่ายออกนำไปก่อนในครึ่งแรกเมื่อ ดริส เมอเทนส์ จัดการยิงสวนตัวของอลิสซอนเข้าไป
อย่างไรก็ตาม ฟาน ไดค์ ก็ได้บอกว่าหัวหอกของนาโปลี ได้จงใจเข้าทำฟาล์วกับ ฟาน ไดค์ ในจังหวะ 50-50 และทำให้ ฟาน ไดค์ ถึงกับลงไปนอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่เมอเทนส์ก็ควบบอลไปยิงให้นาโปลีออกนำได้สำเร็จ แต่หลังจากการตรวจสอบใน VAR ทางผู้ตัดสินใจก็ระบุว่าจังหวะดังกล่าวนั้นไม่ฟาล์ว และยังคงเป็นประตูเช่นเดิม
“ใช่ ผมจะไม่ลงไปนอนกับพื้นโดยไม่มีเหตุผลแน่นอน ผมปั๊มบอลชนะ และไม่คิดว่าเขาต้องการทำผมเจ็บขนาดนั้นนะครับ เขาหวดผม ผมคิดว่ามันน่ารังเกียจ ผมคิดว่าผู้ตัดสินไม่มีตาเลยในวันนี้ พวกเขาอาจจะดีที่สุดในวันนี้ แต่นั่นคือสิ่งที่มันเป็น นั่นคือพวกเขาไม่แคร์ไม่สนเลยว่าตัวเองจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บแค่ไหน” เซ็นเตอร์แบ็กลิเวอร์พูล ได้บอกกับสื่อ
กองหลังชาวดัตช์กล่าวเสริมอีกว่า “เรามาถึงตอนนี้ในฤดูกาลที่พวกเรามีประสบการณ์มากขึ้น เราไม่เคยตื่นตระหนก แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่จะต้องเสียประตู เราคิดว่าครึ่งหลังนั้นเราเล่นดี เรายังคงกดดันพวกเขาได้ แต่เสียดายที่เราไม่ชนะ”
