พรีเมียร์ลีก อันเป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของอังกฤษได้กลับมาเป็นประเด็นกับ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของสโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ นิวคาสเซิล ได้ออกมาโจมตีว่าฝ่ายบริหารของพรีเมียร์ลีกเป็นฝ่ายผิดในการสั่งเบรกการเทคโอเวอร์กิจการสโมสรจากกลุ่มนายทุนแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย กลุ่มนายทุนเงินหนาของประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้ถอนตัวจากการเสนอเงินมูลค่า 300 ล้านปอนด์เพื่อเทคโอเวอร์สโมสร นิวคาสเซิล จากมือของ แอชลีย์ ไปตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้วโดยอ้างถึงความล่าช้าและเหตุผลทางเศรษฐกิจที่มันยืดเยื้อกันยาวนานจนเกินไป
นิวคาสเซิล ได้ออกแถลงการณ์ไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมาซึ่งระบุว่าฝ่ายจัดการและบริหารของ พรีเมียร์ลีก เป็นฝั่งที่ “ปฏิเสธการเทคโอเวอร์ ตามการตรวจสอบแล้วจากเจ้าของและกรรมการบริหารสโมสร” พรีเมียร์ลีกนั้นเชื่อว่ารัฐบาลซาอุดิอาระเบียจะควบคุมสโมสรผ่าน PIF แต่ว่าทางกลุ่มนายทุนก็ยืนยันว่าจะไม่มีการคอนโทรลทุกอย่างผ่าน PIF และพวกเขาก็ไม่ได้ขึ้นตรงอยู่กับรัฐบาลซาอุดิอาระเบียด้วย แม้จะมีทั้งรัฐมนตรีของซาอุดีอาระเบีย 7 คนรวมทั้งมกุฎราชกุมาร “โมฮาเหม็ด บิน ซัลมาน” อยู่ในคณะกรรมการของกลุ่มก็ตาม
พรีเมียร์ลีกเองก็ได้กล่าวในแถลงการณ์วันนี้ว่า “พรีเมียร์ลีกรู้สึกผิดหวังและประหลาดใจกับคำแถลงของสโมสรฟุตบอล นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เกี่ยวกับการที่พวกเขากล่าวหาพวกเราว่า พวกเราจงใจปฏิเสธการปล่อยให้กลุ่มนายทุนกลุ่มใหม่เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการของสโมสรจากฝั่ง PCP Capital Partners, Reuben Brothers และกองทุนการลงทุนสาธารณะขอซาอุดิอาระเบีย (PIF) “การยืนยันของสโมสรที่ระบุว่า พรีเมียร์ลีก ได้เป็นคนปฏิเสธการเทคโอเวอร์นั้นไม่ถูกต้องเลย เราทำตามกฎหมายในด้านการเข้าซื้อกิจการของสโมสร และรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆแล้ว”
