มันมีเรื่องราวที่ว่ามีนักเตะบอลอาชีพหลายคน เริ่มเล่นบอลในตำแหน่งหนึ่ง แต่สุดท้ายก็มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาต้องไปเล่นอีกตำหน่งหนึ่งจนผลงานพีคสุดๆและกลายเป็นว่า เขาได้ยึดตัวเองลงเล่นในตำแหน่งใหม่ยันวันสุดท้ายที่ลงเล่นบอลอาชีพไปเลย และนี่คือเหล่านักเตะที่เปลี่ยนตำแหน่งในสนามจนเทพไปโดยปริยาย !
อาร์เยน ร็อบเบน
ตามปกตินั้นตัวของ อาร์เยน ร็อบเบน ถือได้ว่าเป็นนักเตะตัวรุกที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว โดยในสมัยที่เล่นในลีกฮอลแลนด์กับสโมสร โกรนิงเก้น และ PSV ไอนด์โฮเฟ่น เขาเป็นปีกที่ชอบเล่นทางฝั่งซ้ายเป็นหลัก ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ระบบการเล่นฟุตบอลยังคงเน้นให้นักเตะที่ถนัดเท้าข้างไหนก็เล่นฝั่งเดียวกับเท้าถนัด มันเลยทำให้ ร็อบเบน เป็นปีกที่เน้นในการกระชากทางฝั่งซ้ายและเปิดบอลแม่นๆเข้ามาในเขตโทษมากกว่าแต่ตอนสมัยที่ได้ย้ายไปเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค เขามีโอกาสได้ร่วมงานกับ หลุยส์ ฟาน กาล บรมกุนซือชาวดัตช์ที่ได้จับเขาลงเล่นในตำแหน่งใหม่ที่ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันจะทำให้ ร็อบเบน คลายพิษสงในตัวออกมา นั่นคือ “ปีกขวา”เขาสามารถลากบอลตัดเข้าในเพื่อปั่นโค้งไปเสาไกล จะตะบันยัดเสาแรก หรือทำอะไรกับลูกบอลก็ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมันก็ส่งผลให้ ร็อบเบน ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำและประสบความสำเร็จกับบาเยิร์นอย่างสุดๆ
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์
ในฤดูกาล 2009-10 ตัวของ หลุยส์ ฟาน กาล ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแค่ตำแหน่งของ อาร์เยน ร็อบเบน จากปีกซ้ายมาเป็นปีกขวาเท่านั้น แต่เขายังทำการดัดแปลงตำแหน่งของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ด้วยอีกคนหนึ่ง ฟาน กาล เล็งเห็นว่าทางฝั่งซ้ายนั้นเขาให้ ฟรองค์ ริเบรี่ ลงเล่นไปแล้ว และตัวของ “ชไวนี่” ที่ไม่มีสปีดในการเลี้ยงบอลเท่าไหร่นัก แต่ว่ามีความจัดจ้านมากในการผ่านบอล วิชั่นของนักเตะทีมชาติเยอรมันรายนี้กว้างไกลเกินกว่าจะให้เล่นเป็นปีก เขาจึงดัดแปลงตำแหน่งของ ชไวน์สไตเกอร์ ใหม่หมดเขาจับเอา ชไวน์สไตเกอร์ ไปเล่นตรงกลางในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลางที่คอยพักบอล กำหนดจังหวะของเกม คอยจ่ายบอลทะลุช่อง สั้นยาวให้เพื่อน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า ชไวน์สไตเกอร์ จะสามารถอีโวลูชั่นตัวเองให้กลายร่างจากปีกทักษะน้อยนิดมาเป็น “จอมทัพระดับเวิลด์คลาส” ได้ในทันที
เดคลัน ไรซ์
นี่เป็นนักเตะในยุคปัจจุบันที่เมื่อเปลี่ยนตำแหน่งแล้วนั้น ยิ่งเล่นยิ่งเทพมากขึ้น โดยตัวของ ไรซ์ เติบโตมากับการเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ หรือ กองหลังตัวกลางมากกว่า แต่ว่าเมื่อตัวของ เดวิด มอยส์ ได้กลับมาคุมทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด อีกครั้งหนึ่งนั้น สิ่งที่เขาเล็งเห็นจากนักเตะเกมรับชาวอังกฤษรายนี้ก็คือวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล การคอนโทรงบอลที่ยอดเยี่ยม และยังจ่ายบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เขาจึงจัดการผลักดันให้ ไรซ์ เลื่อนตัวเองขึ้นมาสูงกว่าแนวรับอีกสเตป นั่นคือให้เล่นเป็นกองกลางตัวรับ และการเล่นเป็นกองกลางตัวรับของ ไรซ์ มันเฉิดฉายอย่างมาก เขาบงการเกมได้ ตัดเกมเด็ดขาด และยังมีการผ่านบอลที่แม่นยำ หรือเติมขึ้นไปช่วยทำเกมรุกก็ยังได้
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
สำหรับตำนานแข้งดัตช์รายนี้ เป้นนักเตะที่มีการพัฒนาตัวเองในเรื่องการยืนตำแหน่งในสนามที่ชัดเจน และเป็นสเตปมากอีกคนเลยทีเดียว โดยในสมัยเป็นดาวรุ่งนั้น แข้งตีนซ้ายอำมหิตรายนี้ ลงเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายเป็นหลัก และจากนั้นเมื่อได้ย้ายมาเล่นให้กับ อาร์เซนอล ทางตัวของ อาร์เซน เวงเกอร์ ก็หมายมั่นจะทำให้ RVP เป็นตัวแทนของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ในบทบาทกองหน้าตัวต่ำที่คอยปั้นเกมอยู่หลังหน้าเป้า อีกทั้งตัวของ ฟาน เพอร์ซี่ ก็ค่อยๆพัฒนาสกิลในด้านการยิงประตูขึ้นมาด้วยในทุกๆปี มันเลยทำให้ในช่วงตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ฟาน เพอร์ซี่ ได้กลายร่างจากกองหน้าตัวต่ำ มาเป็นกองหน้าตัวเป้าที่เน้นปิดสกอร์อย่างเต็มตัว แถมนักเตะรายนี้ยังพัฒนาขีดความสามารถในการทำประตูด้วยเท้าขวาที่ไม่ถนัดขึ้นมาด้วยอีก มันเลยยิ่งทำให้ศูนย์หน้ารายนี้พัฒนาจนถึงจุดพีคได้สำเร็จ
