เดวิด มอยส์ กับอนาคตในทัพ ขุนค้อน

ขณะเดียวกัน มอยส์ เคยกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า ไรซ์ เป็นกองกลางที่ดี

“เดแคลน ไรซ์ จะเป็นกัปตันทีมของ เวสต์แฮม ในอนาคต และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องสงสัยเลย” เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวถึง เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นแม้ในฤดูกาลนี้พลพรรค “ขุนค้อน” จะมีฤดูกาลที่น่าผิดหวังก็ตาม

มอยส์ เป็นคนให้โอกาส ไรซ์ ลงสนามกับทีมชุดใหญ่ของ เวสต์แฮม เป็นครั้งแรกในสมัยที่เขายังคุมทีมเมื่อซีซั่น 2017-2018 และในเวลานี้ โค้ชชาวสก็อตแลนด์ กลับมาคุมทัพ “ขุนค้อน” เป็นคำรบที่ 2 ซึ่งเขาก็มอบโอกาสให้ดาวเตะวัย 21 ปี ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง ตามสถิติผลบอล 7m

มอยส์ กล่าวกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีต่อว่า “ผมสามารถเห็นพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมของ เดแคลน นับตั้งแต่ผมออกจากสโมสรไป และตอนนี้เขาเป็นคนที่มีร่างกายดีขึ้นมาก เขาเร็วกว่าเดิมขึ้นมาก และเขามีความเข้าใจเกมที่ดีขึ้น”

“ผมคิดว่า เขาเรียนรู้ภายใต้การลงเล่นร่วมกับ มาร์ค โนเบิ้ล ซึ่งมีความเป็นผู้นำอย่างเต็มเปี่ยม เขาเป็นเด็กเงียบๆ เมื่อผมมาที่สโมสรแห่งนี้เป็นครั้งแรก แต่เขาพัฒนาบุคลิกภาพได้ดีขึ้น เขาพัฒนาหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้ดีขึ้น แม้จะเป็นดาวรุ่ง แต่เขาก็ทำได้ดีมาก”

“ทุกวันนี้ดาวรุ่งหลายคนต่างก็รอคำแนะนำในการปรับปรุงการเล่นของตัวเองจากโค้ช แต่บ่อยครั้งที่คุณต้องทำมันด้วยตัวเอง ซึ่งในฐานะผู้เล่น คุณต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คุณต้องเข้าใจเกม คุณต้องตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว และไม่ใช้ทุกครั้งที่คุณต้องพึ่งพาโค้ชเพื่อให้มาแนะนำคุณ”

“ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมหลายคนเข้ามาในทีม และต้องหาหนทางของตัวเองในการทำสิ่งต่างๆ เดแคลน ทำสิ่งนั้นด้วยตัวเอง เขาพัฒนาตัวเอง และเขากำลังทำสิ่งต่างๆมากมาย ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า ทำไมเขาถึงได้เข้าไปอยู่ในทีมชาติอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต”

ขณะเดียวกัน มอยส์ เคยกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า ไรซ์ เป็นกองกลางที่ดีที่สุดในประเทศอังกฤษ และสถิติได้ต่างๆของเจ้าตัวได้แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ดีที่สุดในลีกสูงสุดแดนผู้ดีในฤดูกาลนี้อย่างแท้จริง

ในเรื่องการเล่นเกมรับนั้น มีเพียง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ กองกลางตัวรับทีมชาติไนจีเรีย ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีสถิติสกัดบอลคู่แข่งได้มากกว่า ไรซ์ และเรื่องการเข้าตัดบอลจากคู่แข่ง และประสบความสำเร็จมีเพียง เฟร็ด มิดฟิลด์ชาวบราซิล ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่ทำดีกว่าเขา นอกจากนี้ ในเรื่องการครอบครองบอล ไรซ์ มีสถิติเป็นอันดับ 1

มอยส์ กล่าวต่อว่า “มีบางส่วนของเกมที่เราหวังว่า เขาจะพัฒนาไปตามเวลา แต่ในขณะนี้เขามีบทบาทอย่างมากในสโมสร และกัปตันทีมอย่าง โนเบิล ก็เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเขา และไม่มีใครที่ดีไปกว่านี้แล้วสำหรับ ไรซ์ ที่จะได้เรียนรู้”

“มาร์ค จะให้ภาพสะท้อนที่แท้จริงแก่เขาว่าเขาเป็นอย่างไร และสโมสรเป็นอย่างไรบ้าง เขาเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องแบบนั้น มาร์ค เป็นตัวอย่างที่ดีที่คุณจะได้เรียนรู้ในหลายปีที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่คุณจะต้องมองหาหากคุณเป็นผู้เล่นดาวรุ่ง” นายใหญ่ เวสต์แฮม กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่อนาคตยังคงสดใสสำหรับ ไรซ์ แต่ความสำคัญลำดับแรกในตอนนี้คือ พา เวสต์แฮม ให้อยู่รอดในพรีเมียร์ลีก โดยเวลานี้ พลพรรค “ขุนค้อน” รั้งอยู่อันดับ 18 ในตารางคะแนน ซึ่งเป็นโซนตกชั้น และชะตากรรมของพวกเขาอาจถูกกำหนดด้วยผลงานของทีมอื่น

แต่ก่อนอื่น เวสต์แฮม จะต้องหาทางผ่านเกมที่ยากลำบากในการออกไปเยือน ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง ที่สนามแอนฟิลด์ จากนั้น พวกเขาต้องทำศึกหนักกับ เซาแธมป์ตัน, อาร์เซน่อล, วูล์ฟแฮมป์ตัน, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ เชลซี

มอยส์ เป็นคนให้โอกาส ไรซ์ ลงสนาม

การเดินทางไปที่แอนฟิลด์เพื่อพบกับ ลิเวอร์พูล นั้น เป็นภารกิจที่หนักหนาสาหัสของ เวสต์แฮม และแนวทางการคุมทีมของ มอยส์ ก็โดนแฟนบอลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากเกมลีกล่าสุดที่บุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม 2-0 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่โค้ชเลือดวิสกี้ ยืนยันว่าเขาจะยึดมั่นในสไตล์ของตัวเองต่อไป

มอยส์ กล่าวว่า “มีความคล้ายคลึงกันมากมายระหว่างการเผชิญหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล แต่เราต้องเล่นให้ดีขึ้นเมื่อเรามีบอล เรามีโอกาสที่จะเล่นได้ดีขึ้น แต่เราไม่ได้ใช้โอกาสที่พวกเรามีมากพอ และโอกาสที่จะตอบโต้พวกเขาก็ควรทำได้ดีกว่านี้ นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องพยายามมองหาเพื่อปรับปรุงต่อไป”

“แต่มันไม่ได้เกิดจากการขาดผู้เล่นหลัก มันเกิดจากที่เราไม่ได้พยายามทำตามแผน มันเป็นช่วงเวลาที่เรามีโอกาส และเราไม่ได้ใช้มันมากพอหรือใช้มันอย่างที่ควรจะเป็น” อดีตกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าว

อย่างน้อย มอยส์ ก็ได้เรียนรู้จากเกมล่าสุดที่ เวสต์แฮม เปิดรังลอนดอน สเตเดี้ยม พ่าย ลิเวอร์พูล 0-2 จากเกมลีกก่อนพักเบรกฤดูหนาว ซึ่งในเกมนั้น “ขุนค้อน” ก็มีโอกาสลุ้นประตูพอสมควร แต่ อลิสสัน เบ็คเกอร์ นายทวารชาวบราซิลของ “หงส์แดง” โชว์ฟอร์มเซฟไว้ได้หลายครั้ง

“เราเรียนรู้มากจากเกมนั้น ผมคิดว่าเรามีช่วงเวลาที่ดีจริงๆ และ อลิสสัน ก็มี 1-2 เซฟสำคัญ เราเสียประตูจากลูกเตะจากมุมเตะ และเรารู้สึกว่า เราน่าจะทำประตูได้ แต่ก็ถูกตัดสินว่าเป็นแฮนด์บอล แต่คุณจะต้องเล่นเกมรับให้ดี เพราะคุณภาพของผู้เล่นที่พวกเขามีนั้นมหาศาล เราตระหนักถึงความสามารถของพวกเขา และเราก็รู้ดีว่า การจะหยุดพวกเขานั้นเป็นเรื่องยาก” มอยส์ กล่าว

ขณะเดียวกัน จาร็อด โบเว่น กองหน้าดาวรุ่งชาวอังกฤษ ซึ่ง เวสต์แฮม คว้าตัวมาจาก “เดอะ ไทเกอร์ส” ฮัลล์ ซิตี้ ในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์นั้น ถูกคาดหมายว่า จะเข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับพลพรรค “ขุนค้อน” ในช่วงครึ่งซีซั่นที่เหลือ

มอยส์ กล่าวถึง โบเว่น ว่า “ผมหวังว่า เขาจะทำประตูได้มากมาย ในการฝึกซ้อมผมได้เห็นเขาซึ่งดูเฉียบคมมาก เขาดูมีความฟิต และพร้อมที่จะลงเล่น เราทุกคนต่างประทับใจในความเฉียบคมของเขา ผลงานของเขา และความสามารถในการทำประตูของเขาได้รับการจับตามองมานานแล้ว แต่สิ่งที่ผมไม่ต้องการทำคือกดดันเด็กหนุ่มที่มาจากศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ”

“ผมต้องทำให้แน่ใจว่า ผมใช้เขาอย่างถูกวิธีในเวลาที่เหมาะสมเมื่อผมรู้สึกว่ามันถูกต้อง แต่ผมต้องการบอกว่า เขาทำได้ดีในสนามซ้อม และนั่นเป็นเครดิตที่ดีสำหรับเขา” เทรนเนอร์เลือดวิสกี้ กล่าว

แทนที่จะเจาะจงเป็นผู้เล่นรายบุคคลไม่ว่าจะเป็น ไรซ์ หรือ โบเวน แต่ มอยส์ กล่าวว่ากุญแจสู่การอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกนั้น จะขึ้นอยู่กับทุกคนทั้งหมดที่สโมสร เวสต์แฮม และรวมไปถึง แฟน ๆ “ขุนค้อน” ที่ต้องคอยให้กำลังใจทีมด้วย

มอยส์ กล่าวว่า “จิตวิญญาณของทีม และความร่วมมือที่เรามีจากทุกคนนั้น เป็นองค์ประกอบสำคัญในการอยู่รอดของเรา ผมจำได้ว่า เราเคยมีช่วงเวลาที่น่าผิดหวัง เราไม่คิดว่า แฟนบอลจะอยู่กับเรา แต่เรากลับมาได้ เพราะพวกเขากระตุ้นเรา”

“ในที่สุดผมจำเกม 3 เกมสุดท้ายของเราที่เราเอาชนะ เลสเตอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเราชนะ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเราอาจต้องการอะไรแบบนี้อีกครั้งในปีนี้ แต่เราต้องการให้แฟนบอลสนับสนุนเรา และหวังว่าเราจะให้บางสิ่งแก่พวกเขาในการเชียร์” กุนซือ “ขุนค้อน” กล่าว

เดวิด มอยส์ กับอนาคตในทัพ ขุนค้อน