อาเหม็ด มูซ่า เกิดวันที่ 14 ตุลาคม 1992 เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวไนจีเรีย เล่นตำแหน่งกองหน้าและปีกซ้าย ให้ทีม อัล นาสเซอร์ ในซาอุดิอาระเบีย ลีกและทีมชาติไนจีเรีย
มูซ่า เป็นนักฟุตบอลชาวไนจีเรียคนแรกที่เล่นในฟุตบอลโลกมากกว่าหนึ่งครั้ง หลังจากที่ยิงสองประตูให้ทีมเกมที่แข่งกับอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก และเขายังเป็นคนที่ยิงได้มากกว่าสองลูกในเกมเดียว หลังจากที่ยิงสองลูกเกมที่พบ ไอซ์แลนด์ ในฟุตบอลโลก 2018 ด้วย
ช่วงชีวิตวัยเด็ก
ปี 2018 มูซ่า ย้ายทีมสู่ ยูธ เอฟซี ขณะที่เขาลงสนามเพียงแค่ 18 เกมยิงได้ 4 ประตู ในฟุตบอลอาชีพสองฤดูกาลแรกที่เล่นให้ ฮีลลเอร์ ขณะที่ต่อมาเขาย้ายไปเล่นแบบยืมตัวให้ คาโน่ พิลล่าร์ เอฟซี ปี 2009-2010 เขายิงประตูให้ทีม พิลล่าร์ จบอันดับสองของลีกไนจีเรีย
มูซ่า ยิงประตูด้วยสถิติสูงสุดในหนึ่งฤดูกาลในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไนจีเรีย จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2011 เมื่อ จู๊ด อาเนเก้ ของทีม คาดูน่า ยูไนเต็ด เอฟซี ทำลายสถิติใหม่เมื่อยิงได้ 20 ประตู
วีวีวี เวนโล
มูซ่า เข้าสู่ทีมจากฮอลแลนด์ วีวีวี เวนโล เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2010 แต่ว่าเขาย้ายมาเล่นเมื่ออายุ 17 ปี และดังนั้นเขาจะยังไม่สามารถย้ายมาเล่นได้จนกว่าจะถึงอายุที่เล่นฟุตบอลลีกได้ ต้องรอจนกระทั่ง 14 ตุลาคม 2010 (จึงจะมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์) จึงจะเล่นฟุตบอลลีกของฮอลแลนด์ได้
หลังจากนั้นเมื่อมาถึงที่สโมสร มูซ่า ลงประเดิมสนามให้ วีวีวี เวนโล หลังจากที่แข่งกับ โกรนิงเก้น เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ซึ่งเกมนั้นเขาลงสนามให้ วีวีวี เวนโล เป็นเกมแรก และถูกทำฟาวล์นาที 50 และทำให้ทีมได้ลูกโทษด้วย
ได้รับการโหวตให้เป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุด 100 อันดับแรกที่น่าจับตามองในปี 2011 โลลาเด้ อเดวูยี่ ของ goal.com กล่าวว่าเขาเป็นนักเตะไนจีเรียที่เก่งที่สุดหนึ่งในสิบนับตั้งแต่ปี 2010 และยังได้รับการบันทึกจาก สถาบันสถิติ IFFHS ว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุด 140 อันดับแรกของโลก
วันที่ 8 มีนาคม 2011 อาเหม็ด มูซ่า ชนะเลิศฟุตบอล AIT ประจำปี และงานฉลองนี้จัดขึ้นที่โรงแรม เพรสซเดนเชียล , พอร์ต ฮาร์คอร์ท, ริเวอร์ สเตท ซึ่ง BBC ประกาศรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่ง อซาโมอาห์ กียาน ได้รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของแอฟริกาจากท่านประธาน อมินู ไมการี่
เดือนเมษายน ผู้อำนวยการฟุตบอลของ เวนโล มาริโอ คัปเทียน กล่าวว่า สเปอร์ส ได้มาเยี่ยมที่สโมสร และยังมีสเก๊าต์ของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทิยานี่ บาบันกิด้า กล่าวว่า อาแจ็กซ์ สนใจอยากได้ มูซ่า แต่ว่าก็ต้องรอผลกำไรช่วงท้ายฤดูกาลก่อนว่าเป็นอย่างไร
วันที่ 1 พฤษภาคม 2011 มูซ่า พาทีมชนะ เฟเยนูร์ด 3-2 และพาทีมรอดจากการตกชั้นจากเอเรดิวิซี่
เดือนสิงหาคม 2011 หลังจากที่กลับมาจาก ฟีฟ่า ยู20 ที่โคลอมเบีย มูซ่า ได้ลงสนามเกมแรกในฤดูกาล 2011/12 ในเกมที่แข่งกับ อาแจ็กซ์ และยิงได้สองประตู
เดือนกันยายน ประธานสโมสร วีวีวี เวนโล ไฮ เบอร์เด้น กล่าวว่า เวนโล ตั้งค่าตัวของ มูซ่า ที่ 10 ล้านยูโร ซึ่งมีข่าวว่าเขามีข่าวกับทีมในบุนเดสลีกา แต่ว่าทีมนั้นก็ไม่เปิดเผย
ซีเอสเคเอ มอสโก
วันที่ 7 มกราคม 2012 มูซ่า เซ็นสัญญากับทีมจากรัสเซีย ซีเอสเคเอ มอสโก ด้วยค่าตัวที่ไม่เปิดเผย
วันที่ 17 กันยายน 2014 เขายิงได้นาที 82 เกมที่ชนะในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 5-1 เกมที่ไปเยือน โรม่า , วันที่ 1 มิถุนายน 2015 มูซ่า เซ็นสัญญา 4 ปีกับ ซีเอสเคเอ จนกระทั่งจบฤดูกาล 2018/19 เขาจบฤดูกาล 2015/16 ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกรัสเซีย โดยยิงประตูเป็นลำดับที่ 5 ของลีก กลายเป็นนักเตะคนที่ 7 ที่อายุต่ำกว่า 23 ปีที่ยิงประตูได้ในรอบสองฤดูกาลในฟุตบอลท๊อป 7 ของลีกยุโรป
เลสเตอร์ ซิตี้
วันที่ 8 กรกฎาคม 2016 มูซ่า ย้ายมาที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติ 16.6 ล้านยูโร เขายิงประตูแรกให้ทีมนัดกระชับมิตรที่พบ บาร์เซโลน่า ในรายการอินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนคัพ ที่จบเกมทีมแพ้ 4-2, ต่อมาเขาลงสนามเกมแรกในพรีเมียร์ลีกวันที่ 13 สิงหาคม 2016 เกมนั้นทีมเปิดบ้านแพ้ ฮัลล์ ซิตี้ 2-1 เขายิงประตูเกมแรกเกมที่ชนะ คริสตัล พาเลซ วันที่ 22 ตุลาคม 2016
เดือนมกราคม 2017 มูซ่า ไม่ได้รับการต่อสัญญาต่อไป โดยเขามีค่าเฉลี่ยจ่ายบอลที่ 0.5 ครอสบอล 0.3 และเลี้ยงบอลสำเร็จที่ 1.2 ครั้งต่อเกม
ซีเอสเคเอ มอสโก (ยืมตัว)
วันที่ 30 มกราคม 2018 มูซ่า ย้ายทีมกลับสู่ ซีเอสเคเอ มอสโก ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงที่เหลือของฤดูกาล 2017/18
อัล นาสเซอร์
วันที่ 4 สิงหาคม 2018 มูซ่า ย้ายสู่ทีมในซาอุดิอาระเบีย อัล นาสเซอร์ ด้วยค่าตัว 14.5 ล้านยูโร
ระดับทีมชาติ
มูซ่า ได้ลงสนามให้ไนจีเรียเกมที่พบอาร์เจนตินา ในฟุตบอลโลก 2018 เดือนเมษายน 2010 ภายใต้โค้ช ลาร์ส ลาเกอร์บัค เรียกเขาไปติดทีมชาติไนจีเรียเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ หลังจากที่ช่วยไนจีเรียชนะในฟุตบอลเนชั่นส์ คัพและเขายิงประตูได้เกมที่พบเบนิน ในทัวร์นาเม้นต์เดียวกันเกมที่แข่งกับบูร์กินา ฟาโซ มูซ่า ได้ลงสนามในช่วงต่อเวลา เขาเป็นคนยิงประตูพาทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่อเบโอกูต้า ต่อมาเขาได้กลายเป็นหนึ่งใน 30 คนที่มีสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลกแต่ว่าต่อมาเขาถอนตัวเพราะเจ็บข้อเท้า
วันที่ 5 สิงหาคม 2010 ด้วยวัย 17 ปี มูซ่า ได้ลงสนามเกมแรกให้ทีมชาติไนจีเรียชุดใหญ่ ในเกมที่ลงสนามในฟุตบอลแอฟริกัน เนชันส์ คัพ 2012 รอบคัดเลือกเกมที่แข่งกับ มาดาร์กัสการ์ โดยเขาลงสนามมาเป็นตัวสำรองแทนที่ของ จอห์น โอบี มิเกล ในเกมที่ ไนจีเรีย ชนะ 2-0, มูซ่า ยิงประตูแรกให้ทีมอินทรีมรกต เมื่อเดือนมีนาคม 2011 เกมกระชับมิตรที่พบ เคนย่า
เดือนเมษายน 2011 อาเหม็ด มูซ่า ได้ลงสนามให้ไนจีเรียในฟุตบอล ยู20 โดยได้เป็นตัวแทนของทีมจากแอฟริกาไปเล่นฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก ในรอบคัดเลือก ถึงแม้ว่า วีวีวี เวนโล ประกาศว่าทีมชาติไม่มีสิทธิ์ดึงตัวเขาไปเล่น และต่อมาทีมชาติไนจีเรียตกลงกับสโมสรได้ ทำให้เขาได้กลับมาเล่นให้ทีมชาติได้ในเกมแอฟริกัน เนชันส์ คัพ ซึ่งไนจีเรียก็มาป้องกันแชมป์กับกานา มูซ่า ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของทัวร์นาเม้นต์ หลังจากกลับมาเล่นที่ฮอลแลนด์แล้ว (รางวัลได้ถูกส่งมาให้เขาในภายหลัง)
เดือนสิงหาคม 2011 มูซ่า ได้ลงเล่นไนจีเรีย ยู20 ในฟตุบอลโลก ยู20 ปี 2011 ที่จัดขึ้นที่โคลอมเบีย เขายิงได้ 3 ลูกใน 5 นัด มูซ่า ได้กลายเป็น 10 แคนดิเดตที่จะได้รางวัลโกลเด้น บู๊ตและจัดว่าเขาเป็นนักฟุตบอลที่โดดเด่นอีกคนหนึ่งในทัวร์นาเม้นต์ ฟีฟ่า ยู20 นั้น
วันที่ 7 ธันวาคม 2011 อาเหม็ด มูซ่า ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสี่ ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของแอฟริกา แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รางวัลเป็น คาลิดู คูลิบาลี่ จากไอวอรี่ โคสต์
มูซ่า มีชื่อติด 23 คนไปเล่นฟุตบอลแอฟริกัน เนชันส์ คัพปี 2013 เขายิงประตูได้เกมที่ชนะ มาลี 4-1 ในรอบรองชนะเลิศ และได้ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามเกมที่แข่งกับ บูร์กินา ฟาโซ ในนัดชิงชนะเลิศ และพาทีมอินทรีมรกต ชนะเลิศเป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ โดยเขาได้ลงสนาม 5 จาก 6 เกม และไนจีเรียได้ไปเล่นฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชันส์คัพ 2013 ที่บราซิล ซึ่งเขาได้ลงสนามทั้งสามนัดและทีมก็ตกรอบแรกเท่านั้น
ในฟุตบอลโลก 2014 เขาได้ลงสนามทุกนัด เขามีชื่อติดทีมของ สตีเฟ่น เคชี่ ในฟุตบอลโลก 2014 และยิงได้สองประตูเกมสุดท้ายของกลุ่ม F ที่แพ้ต่ออาร์เจนตินา 3-2
เดือนพฤษภาคม 2018 เขามีชื่อ 30 คนไปเล่นฟุตบอลโลก และต่อมาสุดท้ายเขาได้ไปเล่นฟุตบอลโลกที่รัสเซีย สมใจอยากเกมที่แข่งกับไอซ์แลนด์ เขาเล่นได้อย่างสุดยอด แต่ว่าสุดท้ายต้องแพ้ต่ออาร์เจนตินาตกรอบแรกในที่สุด วันที่ 22 มิถุนายน 2018 เขายิงได้สองประตูเกมที่ชนะไอซ์แลนด์แต่ก็ไม่เพียงพอจะผ่านเข้าไปเล่นรอบต่อไป
