ประวัติ จอนนี่ อีแวนส์ เซ็นเตอร์แบ็ค [Jonny Evans]

ประวัติ จอนนี่ อีแวนส์ เซ็นเตอร์แบ็ค [Jonny Evans]

โจนาธาน แกรนท์ อีแวนส์ เป็นชื่อเต็มของ จอนนี่ อีแวนส์ นักฟุตบอลที่เรารู้จักกันดี จอนนี่ อีแวนส์เกิดวันที่ 3 ม.ค. 1988 เขาเป็นนักฟุตบอลสัญชาตินอร์ทเทิร์นไอริช (หรือชาวไอร์แลนด์เหนือ) ผู้เทิร์นโปรในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค หรือกองหลัง กับทีมดังอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันกำลังลงเล่นให้กับสโมสรชั้นนำของพรีเมียร์ลีกอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ และยังคงลงเล่นให้กับทีมชาติไอร์แลนด์เหนืออยู่ในปัจจุบัน

จอนนี่ อีแวนส์ เกิดที่เมืองเบลฟาสต์ และเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรอย่าง กรีนไอแลนด์ เอฟซี และแมวมองของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เห็นแววของเขาจากที่นั่น จากการที่ทีมดังจากเกาะอังกฤษ กำลังทัวร์ต่างประเทศในช่วงฤดูร้อนปี 2006 ซึ่งนั่นทำให้เขาถูกพามาทดสอบฝีเท้า และผ่านเข้าสู่อคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ในที่สุด ซึ่งหลังจากอคาเดมี่ของแมนยู ตอบรับจอนนี่อีแวนส์แล้ว ก็ได้ทำการส่งตัวเขาไปลงเล่นให้กับทีมรอยัล แอนต์เวิร์พ (Royal Antwerp) ทีมจากประเทศเบลเยี่ยม นอกจากนั้น ยังมีอีก 2 ช่วงที่ถูกส่งยืมตัวไปให้กับทีมแมวดำ ซันเดอร์แลน์ ในลีกประเทศเดียวกัน แต่ในที่สุดแล้ว จอนนี่ อีแวนส์ ก็ได้รับโอกาสในการลงเล่นให้กับชุดใหญ่ในฤดูกาล 2007-08 ซึ่งนัดแรกของเขาเป็นเกม ลีก คัพ ก่อนที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะเลือกให้อีแวนส์เป็นช้อยส์แรกในการลงเล่น ในฤดูกาลต่อมา โดยจอนนี่ อีแวนส์ เป็นผู้เล่นสัญชาติไอร์แลนด์เหนือที่ถูกเลือกลงเล่นเป็นตัวหลักให้กับสโมสรใดๆ คนที่ 2 ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าถ้วยรายวัลใหญ่ มาถึง 10 รายการด้วยกัน

วิถีการค้าแข้ง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จอนนี่ อีแวนส์ ถูกแมวมองของแมนยูให้ความสนใจ

จอนนี่ อีแวนส์ ถูกแมวมองของแมนยูให้ความสนใจขณะลงเล่นให้กับสโมสรกรีนแลนด์ เอฟซี (Greenisland FC) ซึ่งเป็นสโมสรเดียวกับคอร์รี่ (Corry) น้องชายของเขา และเครก เคธคาร์ท (Craig Cathcart) ลงเล่นก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับแมนยู ในวัยเพียงแค่ 9 ปี เขาก็ได้ถูกเชิญเข้าศูนย์ Manchester United Centre of Excellence ซึ่งเป็นศูนย์อคาเดมิกฝึกฝนของแมนยูที่เมืองเบลฟาสต์ ก่อนจะถูกเรียกตัวให้มาทดสอบผีเท้ากับทีมแมนยูในปีต่อมา ในตอนนั้น สมาคมฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกา นั่นคือเยาวชนในสโมสรใดๆ จะต้องมีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้ในระยะที่สามารถเดินทางได้ไม่เกินชั่วโมงครึ่งจากสนามเท่านั้น และแน่นอนว่ากฎดังกล่าวก็ต้องใช้กับจอนนี่ อีแวนส์ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของจอห์นนี่ อีแวนส์ ก็ได้ย้ายมาอยู่เมืองแมนเชสเตอร์ และนั่นทำให้ตัวของจอนนี่ สามารถลงฝึกซ้อมกับสโมสรได้อย่างเต็มเวลา อีแวนส์เข้ารับการฝึกกับทีมอคาเดมี่ของแมนยูอย่างเต็มที่ และเขาได้มีส่วนร่วมลงเล่นกับทีมใหญ่ ในช่วงปี 2006 ที่ทีมแมนยูทัวร์ประเทศแอฟริกาใต้ด้วย อีกทั้งยังได้รับเลือกให้ลงเล่นในนัดกระชับมิตรกับเซลติก และเปรสตัว นอร์ทเอนด์ จอนนี่ อีแวนส์ยังสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการได้รับเลือกให้ลงในทัวร์นาเม้นท์ที่พบกับอาแจ็กซ์ ในเมืองอัมส์เตอร์ดัมอีกด้วย จอนนี่ อีแวนส์ใช้เวลาในครึ่งฤดูกาลแรกของฤดูกาล 2006–07 ไปกับการถูกยืมตัวให้กับทีมของเบลเยียมอย่างรอยัล แอนต์เวิร์พ (Royal Antwerp) เคียงข้างเหล่านักเตะที่เด็กกว่าอย่าง ดาร์รอน กิบสัน แดนนี่ ซิมพ์สัน และเฟรย์เซอร์ แคมป์เบลล์

การยืมตัวไปเล่นที่ซันเดอร์แลนด์

จอนนี่ อีแวนส์ ตอบตกลงในการถูกยืมตัวไปร่วมทีมแมวดำ ซันเดอร์แลนด์

ในเดือน ธ.ค.2006 จอนนี่ อีแวนส์ ตอบตกลงในการถูกยืมตัวไปร่วมทีมแมวดำ ซันเดอร์แลนด์ จนจบฤดูกาล 2006–07 ซึ่งเป็นการยืมตัวไปลงเล่นพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมมาตั้งแต่สมัยสโมสร Antwerp นั่นคือแดรรี่ ซิมพ์สัน โดยยืมตัวในช่วงตลาดเปิดเดือย ม.ค. ทั้งคู่ช่วยซันเดอร์แลนด์คว้าแชมป์ลีกแชมเปี้ยนชิพได้สำเร็จ และจอนนี่ อีแวนส์ ก็คว้ารางวัล “ผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปี” ได้กับสโมสรในตอนจบฤดูกาล และแม้ว่ารอย คีน ผู้จัดการทีมซันเดอร์แลนด์ในขณะนั้นคาดหวังว่าจะสามารถยืมตัวจอนนี่ อีแวนส์ ได้อีกครั้ง แต่ก็มีข่าวออกมาว่า จอนนี่ อีแวนส์ จะกลับมาช่วยทีมแมนยู แต่คราวนี้จะเป็นในฐานะของ นักเตะทีมชุดใหญ่

อย่างไรก็ดี ในวันที่ 4 ม.ค.2008, อีแวนส์ก็กลับมาสมทบซันเดอร์แลนด์ด้วยการยืมตัวเป็นครั้งที่สองและถูกเกณฑ์เข้าทีมชุดใหญ่ในทันที อีแวนส์เล่นเต็ม 90 นาทีในเกมแรกของเขา ซึ่งพ่ายให้กับวีแกน แอธเลติก 3-0 ในเอฟเอคัพ อีแวนส์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพราะความผิดพลาดของเขาที่ปล่อยให้วีแกนทำประตูที่สองของเกมได้ โดยเขาเสียบอลบนในกรอบเขตโทษ ซึ่งเป็นผลมาจากการโดนพอลแมคเชนเบี่ยงเบนความสนใจ แต่อย่างไรก็ดี ครึ่งฤดูกาลของเขากับซันเดอร์แลนด์นั้นประสบความสำเร็จ และทีมก็รอดพ้นจากการตกชั้น

การกลับมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จอนนี่ อีแวนส์ กลับมาแมนยูและลงประเดิมสนามในทีมได้ในวันที่ 26 ก.ย.2007 โดยลงดวลกับทีมช้างกระทืบโรง โคเวนทรี ซิตี้ และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 2–0 เขาได้ลงเล่นอีกครั้งในการเปลี่ยนตัวลงแทนเกราร์เ ปีเก้ ในศึก UEFA Champions League นัดเปิดบ้านพบกับ Dynamo Kyiv เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2007 เพื่อการันตีการเข้ารอบแบ่งกลุ่มของทีมแมนยูในการผ่านเข้ารอบน็อคเอาร์ และเขาได้ลงเป็นตัวจริงในเกม UCL ในเวลาต่อมา คือวันที่ 12 ธ.ค.2007 โดยเจอกับโรม่า

จอนนี่ อีแวนส์ ลงเล่นในลีกให้กับแมนยูเป็นนัดแรกเมื่อ 21 ก.ย.2008 โดยพบกับทีมเชลซี โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาเพื่อเติมเกมรับหลังจากทีมแมนยูเสียเนมันย่า วีดิช ไปจากการถูกแบนห้ามลงสนาม เกมดังกล่าวจบลงที่การเสมอ 1–1 ในเดือน ธ.ค.2008 จอนนี่ อีแวนส์ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่น 2 ครั้งด้วยกันในรายการ FIFA Club World Cupโดยหนึ่งในสองครั้งเป็นการเปลี่ยนตัวมาแทนวีดิชที่ถูกใบแดงไล่ออก จอนนี่ อีแวนส์ ได้ลงเล่นอยู่อีกบางส่วนจนถึงจบฤดูกาล รวมถึง เกมลีกคัพนัดสุดท้าย

ในช่วงเริ่มฤดูกาล 2010–11 จอนนี่ อีแวนส์ ก็กลายมาเป็นตัวเลือกหลักในแนวรับของทีมยูไนเต็ด โดยลงเล่นคู่กับเนมันย่า วีดิช อันเนื่องมาจากตัวหลักอย่างริโอ เฟอร์ดินาน ได้รับบาดเจ็บต้องพักยาว เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2011 จอนนี่ อีแวนส์ ได้รับบาดเจ็บในนัดเจอกับ Bolton Wanderers จากการปะทะกับ Stuart Holdenส่งผลให้ Holden ลงเล่นไม่ได้ยาวนานถึง 6 เดือนด้วยกัน ก่อนที่เขาจะต้องอยู่ข้างสนามไปอย่างยาวนานถึง 22 เดือน โดยการปะทะครั้งนั้น อีแวนส์ได้รับใบแดงเป็นการตอบแทน และผลของนัดดังกล่าวจบลงที่ทีมยูไนเต็ดเอาชนะไปได้ 1–0 จากประตูของ Dimitar Berbatov

ฤดูกาลที่ 2011-12

อีแวนส์ก็ได้รับเสื้อหมายเลข 6

ก่อนที่จะเริ่มฤดูกาล 2011-12 อีแวนส์ก็ได้รับเสื้อหมายเลข 6 หลังจากที่เวสต์บราวน์ถูกดึงตัวย้ายไปซันเดอร์แลนด์ ในวันที่ 14 สิงหาคม เขาสวมเสื้อหมายเลขใหม่เป็นครั้งแรกในการนัดเปิดฤดูกาลของแมนยู ซึ่งเป็นการเอาชนะทีมนกขมิ้น เวสต์บรอมวิชไป 2-1 โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน Nemanja Vidić ที่บาดเจ็บในนาทีที่ 52 ในวันที่ 23 ตุลาคมเขาถูกไล่ออกในเกมที่แมนยูพ่ายแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ 6-1 หลังจากดึงมาริโอ บาโลเตลลี่ ล้มลงไปในการดวลหนึ่งต่อหนึ่งเป็นคนสุดท้าย อีแวนส์ลงเล่นในนัดที่ 100 สำหรับทีมปีศาจแดงเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยลงเล่นเต็ม 120 นาทีให้แมนยูก่อนพ่ายทีมคริสตัล พาเลส ไปศึกลีกคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ และเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2012 เขาก็ยิงประตูแรกของเขาให้กับทีมยูไนเต็ดได้ โดยเป็นการยิงเบิกร่องก่อนที่แมนยูจะเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตันไปได้ 5-0 อีแวนส์ไม่ได้ลงเล่นในสามเกมสุดท้ายของฤดูกาลด้วยอาการบาดเจ็บที่เท้า

ฤดูกาลที่ 2012-13

หลังจากที่จอนนี่ อีแวนส์ได้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่ผ่านมา ตัวอีแวนส์ก็ไม่สามารถเริ่มการฝึกซ้อมใดๆ ได้ก่อนฤดูจนถึงต้นเดือนสิงหาคม แต่มีการคาดเดาว่าเขาอาจจะเล่นเกมที่สองของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับฟูแล่ม อีแวนส์ทำประตูที่สองของเขาให้กับสโมสรในการชนะทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด โดยบวกสกอร์เพิ่มให้จบด้วยการเอาชนะไป 3-0 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2555 ซึ่งเป็นการโหม่งลูกเตะมุมจากจากเตะมุมของโรบินฟานเพอร์ซี่ และเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมอีแวนส์ก็ทำประตูแรกของเขาในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ และเป็นครั้งแรกที่โอลด์แทรฟฟอร์ดที่แมนยูเก็บชัยชนะเหนือบราก้า 3-2 โดยเขาเป็นคนยิงประตูให้เท่ากันที่ 2–2 จากการเตะลูกเตะมุม อีแวนส์ทำประตูที่สามของเขาในฤดูกาลเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2012 ที่จบลงด้วยการชนะ 3-1 โดยเขาเป็นคนโหม่งให้ทีมแมนยูตีเสมอควีนส์ปาร์คเรนเจอร์ส 1-1 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดจากลูกเตะมุม เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2555 อีแวนส์ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมยูไนเต็ด ซึ่งจะทำให้เขาอยู่ที่สโมสรจนถึงเดือนมิถุนายน 2559 อีแวนส์ทำประตูในลีกลูกที่สามของเขาในฤดูกาลที่สี่ได้ในวันบ็อกซิ่งเดย์ ในการเอาชนะในการแข่งขันกับนิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4-3 โดยเป็นการซ้ำลูกยิงของเจ้าถั่วน้อย Javier Hernandez ที่ถูกทิม ครูล ปัดเอาไว้ได้

ฤดูกาลที่ 2014–15

เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2015 อีแวนส์ตกเป็นข่าวอื้อฉาวว่าเขาถุยน้ำลายใส่นักเตะผิวสีอย่าง ปาปิส ซิสเซ่ ในนัดที่เขาเอาชนะทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไปได้ 1–0 ซึ่งเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ตามมาจาก FA และกล่าวว่า :”ผมต้องการพูดให้ชัดเจนว่าผมไม่ได้ถุยน้ำลายที่ปาปิส ซิสเซ่ ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าผมตกใจเมื่อได้ยินข่าวจากการแข่งขันเมื่อคืนนี้เป็นอย่างยิ่ง” อย่างไรก็ตามเขาก็ถูกแบน ไม่ได้รับอนุญาตให้เล่น ไปถึง 6 เกมด้วยกันตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม ส่วนซิสเซ่โดนไป 7 นัด

เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

ฤดูกาลที่ 2015–16

จอนนี่ อีแวนส์ เซ็นสัญญาร่วมทีมพรีเมียร์ลีกอย่างเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

จอนนี่ อีแวนส์ เซ็นสัญญาร่วมทีมพรีเมียร์ลีกอย่างเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัว เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2015 เขาลงเล่นกับสโมสรในนัดแรกเมื่อ 12 ก.ย.2015 และนัดดังกล่าวจบลงด้วยผลเสมอกันไปอย่างไม่มีสกอร์ 0–0 กับทีมนักบุญ เซาท์แธมป์ตัน เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2016 จอนนี่ อีแวนส์ ก็จัดประตูแรกให้เวสต์บรอมได้เป็นผลสำเร็จ ในนัดที่เอาชนะทีมช่างปั้นหม้อ สโต๊ก ซิตี้ ไป 2–1 และในวันที่ 15 พ.ค.2016 ก่อนที่จะลงเล่นในนัดสุดท้ายของฤดูกาล จอนนี่ อีแวนส์ก็ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร ประเดิมรางวัลแรกของเขาในนามสโมสรเวสต์บรอมวิชได้ในที่สุด

ฤดูกาลที่ 2016-17

จอนนี่ อีแวนส์ ต้องใช้เวลาในการรออย่างยาวนาน กว่าจะได้ประตูต่อมา ซึ่งเกิดขึ้นในนัดที่เอาชนะทีมแตนอาละวาด วัตฟอร์ด ไปได้ 3–1 เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2016 และยังทำได้อีกประตูในนัดแพ้หงส์ขาว สวอนซี 2–1 ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล

ฤดูกาลที่ 2017–18

ในเดือน ก.ค.2017 หลังจากที่ตัวสคิปเปอร์ของสโมสรอย่างดาร์เรน เฟลชเชอร์ ย้ายไปร่วมทีมช่างปั้นหม้อ สโต๊ก ซิตี้ จอนนี่ อีแวนส์ก็ได้รับการคอนเฟิร์มว่าจะได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีม โดยได้รับความไว้วางใจจากกุนซือทีม โทนี่ ฟูลิส เขาทำประตูแรกในฤดูกาลได้ในวันที่ 30 ก.ย.2017 โดยนัดดังกล่าวเป็นการเสมอกับทีมแตนอาละวาด วัตฟอร์ด ไป 2–2 ซึ่งวัตฟอร์ด ก็เป็นทีมเดียวกับที่จอนนี่ อีแวนส์ ทำประตูได้ในครั้งก่อนหน้า เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ประตูที่สองของจอนนี่ อีแวนส์เกิดขึ้นในนัดที่เจอกับไบร์ทตัน ในบ้านของตัวเอง เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2018 และนำมาซึ่งการที่สโมสรชนะเป็นครั้งแรกหลังจากไม่สามารถเอาชนะใครได้มากว่า 5 เดือน หรือ 20 เกมด้วยกัน

เลสเตอร์ ซิตี้

ทีมจิ้งจอกสยามเลสเตอร์ ซิตี้จัดการคว้าตัว จอนนี่ อีแวนส์

ในเดือน มิ.ย.2018 ทีมจิ้งจอกสยามเลสเตอร์ ซิตี้จัดการคว้าตัว จอนนี่ อีแวนส์ มาจากทีมเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่งตกชั้นไป ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ เขาเซ็นสัญญากับทีม 3 ปีด้วยกัน จอนนี่ อีแวนส์ลงเล่นนัดแรกกับเลสเตอร์ด้วยการเอาชนะวูล์ฟแฮมตัน วอนเดอร์เรอร์ส ไปได้ 2-0 ณ วันที่ 18 ส.ค. 2018

การลงเล่นในนามทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ

จอนนี่ อีแวนส์ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ

จอนนี่ อีแวนส์ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไอร์แลนด์เหนือเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ย.2006 ซึ่งในขณะนั้นตัวของจอนนี่ อีแวนส์เองยังไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของทีมปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยซ้ำ และในการลงสนามในนามทีมชาติของเขา ก็สร้างทั้งความน่าประทับใจและความน่าจดจำ เพราะในนัดดังกล่าวนั้น ไอร์แลนด์เหนือพบกับทีมดังอย่าง “กระทิงดุ” สเปน ซึ่งเหนือกว่าไอร์แลนด์เหนืออย่างเห็นได้ชัด แต่ก็เป็นทีมไอร์แลนด์เหนือ ที่เอาชนะสเปนไปได้ 3–2 จอนนี่ อีแวนส์ยืนระยะรักษาฟอร์มการเล่นไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้ลงเป็นตัวหลักของทีมชาติไอร์แลนด์เหนือมาตลอดจนถึงกว่า 60 นัด โดยเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2009 จอนนี่ อีแวนส์ก็จัดการซัดวอลเล่ย์ผ่านมือผู้รักษาประตู ทำประตูแรกในนามทีมชาติ ช่วยให้ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือเอาชนะโปแลนด์ไปได้ 3-2 ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป in the 2010

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2016 จอนนี่ อีแวนส์ มีชื่ออยู่ใน 1 ใน 23 ขุนพลชุดลุยศึกยูฟ่ายูโร 2016 จากการเรียกติดทีมชาติของกุนซือไมเคิล โอนีลล์ ผู้กุมบังเหียนทีมชาติไอร์แลนด์เหนือในขณะนั้น ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกของทีมชาติไอร์แลนด์เหนือที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในรายการดังกล่าว และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1986 ที่ได้เข้ารอบสุดท้ายรายการใหญ่ ซึ่งขณะนั้นคือฟุตบอลโลก 1986 และทีมชาติไอร์แลนด์เหนือก็ทำผลงานได้ไม่เลว เพราะสามารถเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ ก่อนที่จะพ่ายให้กับประเทศใกล้เคียงอย่าง “มังกรแดง” เวลส์ไป 1-0 กระเด็นตกรอบไปในที่สุด ซึ่งจอนนี่ อีแวนส์ ก็มีส่วนช่วยทีมลงสนามไปทั้งหมด 4 นัดด้วยกัน ตลอดทัวร์นาเม้นท์

จอนนี่ อีแวนส์ ทำประตูที่สองของเขาเองในนามทีมชาติได้ ห่างจากลูกแรกถึง 8 ปีด้วยกัน โดยในวันที่ 4 ก.ย.2017 จอนนี่ อีแวนส์ ช่วยทำประตูให้ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือเอาชนะสาธารณรัฐเชคไปได้ 2-0 และนั่นทำให้โอกาสในการเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2018 มีความหวังสูงมาก ไอร์แลนด์เหนือเข้าสู่รอบเพลย์ออฟของรอบคัดเลือกได้ และถ้าเข้ารอบได้จริง ก็จะเป็นการกลับมาทัวร์นาเม้นท์ฟุตบอลโลกได้อีกครั้งในรอบ 32 ปี แต่ทว่า โชคก็ไม่เป็นใจ เพราะในการเพลย์ออฟเลกแรก ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือก็โดนจุดโทษน่ากังขาจากกรรมการโอวิดิอู ฮาเตแกน (Ovidiu Hategan) ผู้ตัดสินสัญชาติโรมาเนียน จากการที่เขาบอกว่า คอร์รี่ น้องชายของอีแวนส์นั้น ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ซึ่งเขาได้ให้ใบเหลืองแก่คอร์รี่ ซึ่งจะทำให้คอร์รี่ไม่ได้ลงเล่นในเลกสองอีกด้วย ซึ่งภาพที่ออกมานั้น บอลโดนไหล่ของคอร์รี่อย่างชัดเจน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้กุนซืออย่างไมเคิล โอนีล ถึงกับเอ่ยปากให้สัมภาษณ์ว่า มันเป็นการตัดสินใจที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เขาเห็นมา เกมดังกล่าวจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทีมชาติไอร์แลนด์เหนือให้กับสวิตเซอร์แลนด์ไป 1–0 ตามด้วยการเสมอแบบไม่มีสกอร์ 0–0 ในเลกสอง ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย จอนนี่ อีแวนส์ เกือบจะทำประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งเป็นการโหม่งผ่านมือของยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูของสวิตเซอร์แลนด์ไปแล้ว แต่ถูกริคาร์โด โรดริเกซ เคลียร์บอลออกจากประตูได้สำเร็จ ประตูที่สามในนามทีมชาติของจอนนี่ อีแวนส์นั้น เกิดขึ้นในเกมเจอกับทีมชาติเบลารุส ในการแข่งขันศึกยูฟ่ายูโร 2020 รอบคัดเลือก

ชีวิตส่วนตัวของจอนนี่ อีแวนส์

จอนนี่ อีแวนส์ มีน้องชายชื่อ คอร์รี่ อีแวนส์ ซึ่งเป็นนักฟุตบอลเช่นเดียวกับจอนนี่ อีแวนส์ พี่ชายของเขา โดยคอร์รี่ อีแวนส์นั้น เล่นตำแหน่งกองกลางให้กับสโมสร แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส อดีตทีมดังพรัเมียร์ลีกที่ตกชั้นไป

ตัวจอนนี่ อีแวนส์ เกิดที่เมืองเบลฟาสต์ ณ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ตอนเด็กจอนนี่อีแวนส์เข้าเรียนที่เบลฟาสต์ ไฮสคูล (Belfast High School) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนิวทาวน์แอบเบ้ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ก่อนที่จะย้ายมาเรียนที่ แอชตัน-ออน-เมอร์เวย์ ไฮ สคูล (Ashton-on-Mersey High School) ในเมืองซาเล่ (Sale) และที่นี่เอง ก็เป็นที่ๆ แมวมองของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพบเจอจอนนี่ อีแวนส์ จนถูกดึงตัวเข้าทีมในที่สุด ซึ่งในการเรียนที่นี่นั้น เขาคว้า A ได้ทุกวิชา

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2007 จอนนี่ อีแวนส์ ถูกจับกุมฐานมีความเกี่ยวข้องกับการร่วมข่มขืน ณ โรงแรมแห่งหนึ่งที่ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่าสถานที่ในการจัดการคริสต์มาสปาร์ตี้ แต่อย่างไรก็ตาม มีผลสรุปออกมาในวันที่ 8 มี.ค.2008 ว่าจอนนี่ อีแวนส์ จะไม่ถูกฟ้องร้องในคดีใดๆ ทั้งสิ้น และจบเรื่องนี้ไปในที่สุด

ณ วันที่ 1 มิ.ย.2013 จอนนี่ อีแวนส์ ตกลงปลงใจที่จะแต่งงานกับเฮเลน แมคคอนเนลล์ สาวอันเป็นคนรักของเขา ซึ่งประกอบอาชีพเป็นผู้สื่อข่าวของ MUTV หรือช่องสถานีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรียกง่ายๆ ว่าได้กันเองในวงในนี่เอง โดยงานแต่งงานของทั้งคู่นั้นเกิดขึ้นที่โบสถ์ Clough Presbyterian Church หลังจากแต่งงานกันแล้ว ทั้งคู่ได้ให้กำเนิดลูกสาวหน้าตาน่ารัก และตั้งชื่อให้ว่า ลอตตี้ (Lottie) โดยลอตตี้เกิดวันที่ 15 พ.ค.2014