ฟอร์มในช่วงพรีซีซั่นของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันของ “หงส์แดง” ต้องเป็นห่วงไหม? หลังจากที่ล่าสุดพวกเขา พ่าย นาโปลี จากศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี 3-0 ที่เมอร์เรย์ฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ในช่วงอุ่นเครื่อง 4 นัดหลังสุด ลิเวอร์พูล ไม่ชนะใครเลย และแพ้ไปถึง 3 เกม เริ่มจาก แพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-3, แพ้ เซบีย่า 1-2, เสมอ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-2 และล่าสุดโดน นาโปลี ถล่ม 3-0 ซึ่งพลพรรค “หงส์แดง” เหลือเวลาอีกเพียง 7 วันเท่านั้น ก่อนจะทำศึก Community Shield กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ชาวสเปน
ในขณะที่ความสนใจของพรีซีซั่น คือ เรื่องของการอุ่นเครื่อง และยุทธวิธีในฤดูร้อนนี้เป็นการต่อสู้ที่เข้าใจยากสำหรับ ลิเวอร์พูล ในแง่ของผลการแข่งขัน ด้านใดด้านหนึ่งจะพบว่า มันยากที่จะหาคนมาแทนที่ผู้เล่นตัวหลักในแรวรุกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกทีมชาติอิยิปต์, ซาดิโอ มาเน่ ตัวรุกทีมชาติเซเนกัล และ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน หัวหอกทีมชาติบราซิล
ในฤดูกาลที่ผ่านมา ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้ารองเท้าทองคำร่วมกับ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าทีมชาติกาบองของ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ขณะที่ เฟอร์มิโน ก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในแนวรุกของ “หงส์แดง”
อย่างไรก็ตาม เมื่อฤดูกาลที่แล้วและพรีซีซั่นก็ไม่เคยเป็นผู้ตัดสินที่ดีที่สุดเช่นกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ 2 ในช่วง 3 เกมของพวกเขาในช่วงอุ่นเครื่องซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ ลิเวอร์พูล ที่พึ่งคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 6 นั้น กำลังเจอบททดสอบครั้งยิ่งใหญ่
ลิเวอร์พูล มีอะไรผิดปกติ นับตั้งแต่การเอาชนะ แบรดฟอร์ด 3-1 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทัวร์ 3 เกมของ ลิเวอร์พูล ในสหรัฐอเมริกา กับ ดอร์ทมุนด์ และ เซบีญ่า รวมไปถึง สปอร์ติ้ง ลิสบอน บรรดานักเตะ“หงส์แดง” ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้
แต่หากมองตามความเป็นจริงผลการแข่งขันที่ไม่ดีนักของ ลิเวอร์พูล ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะผู้เล่นในแนวรุกไม่สามารถทดแทนตัวจริงได้ รวมถึงการที่ แซร์ดาน ชาคิรี่ ปีกทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับบาดเจ็บ และยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ทำให้ คล็อปป์ ต้องส่ง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม กองกลางชาวดัตช์ ขึ้นไปเล่นเป็นตัวรุกแทน
แต่มันเป็นเรื่องการป้องกันที่น่าประหลาดใจ เมื่อเทียบกับช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการเสีย 9 ประตูใน 4 เกมกับการมีนักเตะตัวหลักเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา อาทิ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวาดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์ อยู่ในสนาม
ในเกมกับ นาโปลี แผงหลัง ลิเวอร์พูล ปล่อยให้ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ปีกทีมชาติอิตาลี ของ “อัซซูรา” ทำเกมได้อย่างง่ายดาย ซึ่งน่าแปลกใจอย่างยิ่งกับการเสียเพียง 22 ประตูในลีกของ “หงส์แดง” ตลอดฤดูกาลลีกในปี 2018/19
ความรุนแรงของเกมของ คล็อปป์ ดูเหมือนจะหายไปในเมืองหลวงของสก็อตแลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ลิเวอร์พูล มีความสุขในการครอบครองบอล แต่ขาดจังหวะในการหาโอกาสทำประตู และถูกหยุดชะงักตามจังหวะของ นาโปลี
หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าในเกมกับ เซบีญ่า มันเป็นเรื่องที่คล้ายกันเมื่อ ฝ่ายตรงข้าม 10 คนของพวกเขาได้ประตูในการโจมตีตอบโต้ และลงพวกเขาด้วยประตูชัยในนาทีสุดท้าย นั่นทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล บางคนหัวเสียเป็นอย่างมาก
ทำไมพวกเขาถึงยังไม่กระเตื้อง คล็อปป์ มีคำตอบง่ายๆว่า ฤดูกาลของ “หงส์แดง” เริ่มเร็วกว่าคู่แข่งที่อุ่นเครื่องของพวกเขา ดังนั้นการฝึกซ้อมที่เข้มข้นขึ้น ทำให้พวกเขาเหนื่อยล้ามากขึ้น ก่อนเข้าค่ายฝึกซ้อมในประเทศฝรั่งเศสในสัปดาห์นี้ ซึ่งกุนซือชาวเยอรมัน จะเรียกฟอร์มของลูกทีมกลับมาอีกครั้ง
นายใหญ่ทัพ “หงส์แดง” กล่าวว่า “นาโปลี เริ่มเก็บตัวในเวลาเดียวกับที่เราทำในช่วงพรีซีซั่น แต่ฤดูกาลของพวกเขายังไม่เริ่มต้นจนถึงวันที่ 24 สิงหาคม ซึ่งมันเป็นสองสัปดาห์หลังจากเราแข่งขัน มันก็ดีและราบรื่น พวกเขาสามารถฝึกซ้อมได้ตลอดระยะเวลา เรามีเวลาสี่สัปดาห์ และต้องพร้อม ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
“เราต้องทำกิจกรรมที่เข้มข้นในช่วงสามสัปดาห์แรก เราเล่นเกมในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน มันชัดเจนอยู่เสมอว่า อาเวียง ในฝรั่งเศส จะเป็นสัปดาห์ที่สำคัญที่สุดของฤดูกาล และเรามีเวลาเตรียมพร้อมอีก 5 วัน ก่อนจะเจอกับ แมนฯซิตี้ และเล่นนักเปิดซีซั่นกับ นอริช” อดีตโค้ช โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าว
ฟอร์มของ ลิเวอร์พูล สำคัญหรือไม่ มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินว่า ผลกระทบใดบ้างที่เกิดขึ้นก่อนฤดูการแข่งขันจะมีอยู่ในทัพ “หงส์แดง” จนกว่าจะมีการลงสนามนัดแรกในศึกพรีเมียร์ลีกกับ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ในวันที่ 9 สิงหาคม
แม้แต่ Community Shield ในวันอาทิตย์ก็นี้กับ แมนฯซิตี้ คือเกมที่ใช่การแข่งขันจริงจังมากนัก และหากพวกเขาเอาชนะ นอริช ได้ในสัปดาห์ถัดไป ทุกสิ่งจะถูกลืมและลูกทีมของ คล็อปป์ คงจะมีความมั่นใจกลับคืนมามากขึ้น
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าผลการแข่งขันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงพรีซีซั่นฤดูกาลที่ผ่านมาของพวกเขา จะทำให้เท่าเทียมกันเกี่ยวกับการทำงานของ กวาร์ดิโอล่า และแฟนๆของ “เรือใยสีฟ้า” ก่อนที่จะเริ่มไล่ล่าความสำเร็จเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามแม้กระทั่ง คล็อปป์ เองก็ยอมรับว่าเขาต้องการเห็นลูกทีมของเขาเล่นในรูปแบบที่ดีขึ้นโดยกล่าวว่า “ผลลัพธ์ที่ดีในช่วงก่อนฤดูจะช่วยเสริมสร้างความมั่นให้กับเรา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณสร้างทักษะทางกายภาพสำหรับฤดูกาลที่ยาวนาน และยาวนานมากๆ เพราะเราต้องเตรียมความพร้อมสำหรับเกมอย่างมาก และไม่มีเวลาฝึกซ้อมมากนัก”
