“แฮร์รี่ เคน เป็นผู้เล่นที่น่าเหลือเชื่อกับสิ่งที่เขาทำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และตลอดอาชีพของเขานั้นยอดเยี่ยม ดังนั้น แทมมี่ จึงต้องทำสิ่งนั้นให้ได้” แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจากที่ แทมมี่ อับราฮัม หัวหอกดาวรุ่งชาวอังกฤษ ซัดประตูที่ 10 ของตัวเองในเกมที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ เอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไป 2-0
ขณะเดียวกัน ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เคน ซึ่งเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ เคน กำลังดิ้นรนอย่างหนักในเกมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-1 โดยได้ประตูจาก ซอง ฮึง มิน หัวหอกทีมชาติเกาหลีใต้
อับราฮัม วัย 22 ปี ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษภายใต้การนำของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ในชุดที่จะทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ในสัปดาห์นี้ ที่จะพบกับ มอนเตเนโกร ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน และ โคโซโว ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน
ในขณะที่ เคน ยังคงเป็นตัวเลือกแรกของทีมชาติอังกฤษ แบบไม่มีข้อโต้แย้ง และสำหรับ อับราฮัม ก็ยังต้องพัฒนาตัวเองต่อไปตามที่ แลมพาร์ด เคยบอกเอาไว้ ซึ่งเขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีหลายส่วนในเกมที่ยังต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม กองหน้า เชลซี นั้น ทำได้ดีกว่า เคน ในเกือบทุกด้านหลังจากเกมพรีเมียร์ลีกผ่านไปแล้ว 12 เกม ในฤดูกาลนี้ โดยที่ อับราฮัม เป็นนักเตะชาวอังกฤษ ที่ทำประตูได้มากเป็นอันดับที่ 2 รองจาก เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกตัวเก่งของ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ประกาศอำลาทีมชาติไปแล้ว
ในบรรดากองหน้าทีมชาติอังกฤษชุดนี้ของ เซาธ์เกต นั้น อับราฮัม กำลังมีสถิติที่ยอดเยี่ยมที่สุด โดยหัวหอก เชลซี มีอัตราจังหวะการยิงประตูมากที่สุดในลีกถึง 38 ครั้ง แต่ก็ยังมีอัตราการเปลี่ยนโอกาสยิงเป็นประตูร่วมสูงสุดร่วมกับ คัลลัม วิลสัน กองหน้า ของ บอร์นมัธ
นอกจากนี้ อับราฮัม ยังสร้างสถิติด้วยการ เป็นผู้เล่นอายุน้อยเป็นอันดับ 2 ของ เชลซี ในการยิงประตู 10 ลูกขึ้นไปพรีเมียร์ลีก โดยใช้เวลาเร็วที่สุด รองจาก อาร์เยน ร็อบเบน อดีตปีกซ้ายทีมชาติฮอลแลนด์ แม้แต่อดีตยอดกองหน้าของ “สิงโตน้ำเงินคราม” อย่าง ดิเอโก คอสตา และ จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ ก็ยังใช้เวลามากกว่า อับราฮัม
สตีฟ ซิดเวลล์ อดีตกองกลางชาวอังกฤษ ของ เชลซี กล่าวว่า “ผมเคยเล่นกับ แทมมี่ เมื่อเขาอยู่ที่ บริสตอล ซิตี้ และคุณสามารถเห็นได้เลยว่า เขามีความสามารถทั้งหมดที่จะได้ขึ้นไปเป็นนักเตะระดับท็อปของวงการ”
“ผมประทับใจมากกับฟอร์มการเล่นของเขาในฤดูกาลนี้ และจนถึงตอนนี้เขาก็แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวที่ยอดเยี่ยมกับการเล่นในพรีเมียร์ลีก เขาก็แสดงให้เห็นถึงความนิ่งและความสงบ ในการยิงประตูทุกครั้ง” ซิดเวลล์ กล่าว
อับราฮัม กับ เชลซี กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ สเปอร์ส กับ เคน กลับผลงานตกต่ำอย่างน่าใจหาย โดยพลพรรค “ไก่เดือยทอง” ลงมาอยู่อันดับ 14 ในตารางคะแนน และ เคน ยิงได้เพียง 6 ลูก จาก 11 เกมที่เขาลงสนาม
มาร์ค ชวาร์เซอร์ อดีตผู้รักษาประตูของ ฟูแล่ม ซึ่งรับบทกูรูให้กับ “บีบีซี” กล่าวถึง เคน ว่า “ในเกมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มันเป็นหนึ่งในไม่กี่เกมที่ผมเคยเห็นเขาเล่นโดยที่เขาไม่ได้สร้างผลกระทบใดๆต่อทีมเลยเขาไม่ได้มีการเคลื่อนไหวมากนัก เขายังคงอยู่ตรงกลางมากไป และเมื่อ สเปอร์ส พยายามส่งบอลให้เขา เขาก็มักจะเข้าไปไม่ถึง และเขาทำบอลเสียบ่อยมาก”
ภารกิจของ เคน ที่ต้องเผชิญกับ อับราฮัม ของ เชลซี ตอนนี้คือความมั่นคง โดยบางสิ่งที่หัวหอก สเปอร์ส ได้ทำในฤดูกาลที่ผ่านๆมานั้น เขามีสถิติเป็นผู้ทำประตูติดอันดับต้นๆของ 5 ลีกยอดนิยมของวงการฟุตบอลยุโรป
ก่อนหน้านี้ เคน เคยมีเฉลี่ยการยิงประตูอยู่ที่ 1 ประตูต่อ 122.55 นาที ซึ่งมันเหนือกว่าสถิติของ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกชาวอุรุกวัยของ บาร์เซโลน่า ในศึกลา ลีกา สเปน และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกชาวโปรตุเกส ของ ยูเวนตุส ในกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เสียอีก
สำหรับทีมชาติอังกฤษ เคน ยังคงส่งมอบประตูให้ทีมได้อย่างต่อเนื่อง เขาซัดไป 8 ประตู ในการแข่งขันยูโร 2020 รอบคัดเลือกรอบ 6 นัดที่ผ่านมา และทำประตูรวมให้กับ “สิงโตคำราม” ถึง 28 ประตู ใน 43 นัด
เวย์น รูนีย์ อดีตกองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีมชาติอังกฤษ จาการซัดไป 53 ประตูใน 119 นัด และ เคน ยังอยู่ในเส้นทางของเขาที่จะสามารถแซงหน้า อดีตดาวยิง “ปีศาจแดง” ได้ในอนาคต
มันขึ้นอยู่กับการถกเถียงกันว่ากองหน้าคนอื่นเช่น อับราฮัม จะได้รับผลตอบแทนที่คล้ายคลึงกันในหรือไม่ แต่ เคน ได้พิสูจน์ตัวเองให้ เซาธ์เกต ได้เห็นมาโดยตลอดว่า เขาพร้อมกับการเล่นบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟุตบอล
ในตอนนี้ อับราฮัม ขึ้นมาเป็นรองดาวซัลโวต่อจาก วาร์ดี้ ที่ซัดไป 11 ประตู โดยมันเป็นฤดูกาลที่ 2 ของ หัวหอก เลสเตอร์ ที่เขาซัดได้ 10 ประตูเป็นคนแรกของลีก เหมือนกับในปี 2015-2016 ที่พลพรรค “สุนัขจิ้งจอก” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างเหลือเชื่อ
อย่างไรก็ตาม วาร์ดี้ ในวัย 32 ปี เลิกรับใช้ทีมชาติอังกฤษไปแล้ว โดยให้เหตุผลว่าต้องการมุ่งมั่นกับ เลสเตอร์ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และเพื่อให้ เซาธ์เกต มอบโอกาสให้กับบรรดาผู้เล่นอายุน้อยก้าวขึ้นมาสู่ทีมในระยะยาว
มันคงถึงเวลาของ อับราฮัม แล้วที่จะพิสูจน์ตัวเองว่า เขาจะเก็บเกี่ยวโอกาสไว้ได้ดีแค่ไหน หากได้รับโอกาสจาก เซาธ์เกต ให้ลงสนามในเกมต่อไป
