1. ภูมิหลังชีวิตของ ชินจิ คากาวะ
ดาวเตะเจ้าจของชื่อเล่น “ชินจัง” เกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคมในปี 1989 ที่เมืองโกเบ ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าสมาชิกในครอบครัวของ คากาวะประกอบด้วยใครบ้าง ใครเป็นใครเพราะเนื่องจากคากาวะ เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเขาให้สื่อฟังมากนัก นอกจากนี้ยังไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดด้วยซ้ำว่าเขามีพี่น้องหรือไม่
2. เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังตีนเท่าฝาหอย
ชินจิ มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาโดยตลอด แม้ว่าเขาจะยังเป็นเด็กอยู่ก็ตาม ตามความเป็นจริง เขาเริ่มเล่นให้กับทีม มาริโนะ ฟุตบอล คลับ ในปี 1994 เมื่อตอนเขาอายุเพียงห้าขวบ เขายังคงเล่นที่นั่นจนถึงปี 1999 ก่อนที่จะย้ายไปที่ โกเบ เอ็นเค 1999 ซึ่งเขาอยู่ที่นั่นจนถึงปี 2001ในที่สุดเขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับ FC มิยากิ บาร์เซโลน่า ทีมอยู่ในย่านเซ็นได ในปี 2001 และเล่นที่นั่นจนถึงปี 2005และด้วยความทีมนี้มีชื่ออิงมาจาก บาร์เซโลน่า โคตรทีมของลีกสเปน มันเลยทำให้ในเวลานั้น เขามีความฝันที่จะเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่าให้เป็นจริงในวันหนึ่งไปเลย
3. เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในระดับโปรที่ไหนกันแน่?
ในปี 2006 เมื่ออายุได้ 17 ปี ก่อนที่เขาจะจบมัธยมปลาย ชินจิ คากาวะ ได้เซ็นสัญญากับ เซเรโซ่ โอซาก้า สโมสรฟุตบอลชั้นนำของลีกญี่ปุ่นที่ติดตามสเกาต์ฝีเท้าเขามานาน การเซ็นสัญญาของเขาในครั้งนี้ ทำให้เขาเป็นผู้เล่นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับการเซ็นสัญญาจากสโมสรอาชีพก่อนที่จะจบชั้นมัธยมปลายคากาวะ ลงเล่นในฐานะผู้เล่นของ เซเรโซ่ โอซาก้า อยู่พักใหญ่ๆ ซึ่งเขาได้รับความสนใจอย่างมากจากทีมชั้นนำ หลังจากแสดงทักษะที่น่าทึ่งในสนามและกลายเป็นตัวทำประตูสูงสุดของ เจลีก 2 ในปี 2009
4. ชินจิ คากาวะ การย้ายสู่ทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ชินจิ คากาวะ ถูกทาบทามจากสโมสรต่างๆตั้งแต่เขาเริ่มต้นค้าแข้งอาชีพใหม่ๆ และในปี 2010 คากาวะ ย้ายออกจากเซเรโซ่และเซ็นสัญญากับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในลีกเยอรมนี เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะคนโปรดของแฟนบอลอย่างรวดเร็ว ด้วยการโชว์ทักษะทำประตูสวยๆได้หลายลูกติดต่อกันอย่างรวดเร็ว และเขายังได้รับการเสนอชื่อให้ติดเป็น 1 ใน 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกา เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2010–11 ซึ่งเขาได้แชมป์บุนเดสลีกากับทีมด้วยในฤดูกาล 2011-12 เขายังคงแสดงทักษะของตัวเองได้อย่างสุดยอด โดยเขาได้รับการยกย่องอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องความสามารถในการผ่านบอลคิลเลอร์พาสที่แม่นยำ และฤดูกาลนั้นเขายิงไปทั้งหมด 13 ประตูและทำอีก 8 แอสซิสต์ ได้แชมป์ลีก 2 สมัยติดต่อกัน
5. ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในปี 2012 หลังจากใช้เวลากับดอร์ทมุนด์ประมาณ 2 ปี คากาวะ ก้ย้ายออกจากสโมสรในเยอรมันและย้ายไปเข้าร่วมงานกับสโมสรดังของพรีเมียร์ลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการเซ็นสัญญาสี่ปี การย้ายทีมครั้งนี้ทำให้เขาเป็นผู้เล่นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้ย้ายมาเข้าร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คากาวะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลในพรีเมียร์ลีกด้วยการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม จ่ายบอลได้ชาญฉลาดสุดๆ เขาได้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก และเน้นป้อนบอลให้กองหน้าทำประตูในปี 2013 เขากลายเป็นนักฟุตบอลชาวเอเชียคนแรกที่ทำแฮตทริกในพรีเมียร์ลีกได้ โดยมันเกิดขึ้นในเกมที่พวกเขาเอาชนะนอริช ซิตี้ 4-0 หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลายเป็นนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในเดือนเมษายน 2013
6. เขาแต่งงานหรือยัง?
ตอนนี้ชินจิ คางาวะ ยังคงไม่ได้สละโสดแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม เขากำลังคบหากับสาวสวยนามว่า มาร์กาเร็ต นัตสึกิทั้งนี้ นัตสึกิ เป็นนางแบบลูกครึ่งญี่ปุ่น – แคนาดา ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้จัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ตามรายงานระบุว่าคากาวะและนัตสึกิพบกันครั้งแรกเมื่อครั้งที่นัตสึกิ ได้ไปสัมภาษณ์กับนักฟุตบอลรายนี้ในช่วงเวลาที่เขายังอยู่กับ “ดอร์ทมุนด์”
