1. โรเมลู ลูกากู (97.5 ล้านปอนด์)
เชลซี เพิ่งจะตัดสินใจทุ่มเงินสุดตัว ในการไล่ล่าลายเซ็นของกองหน้าคนใหม่ (แต่หน้าเก่า) มาร่วมทัพ และแน่นอนว่าการดึงตัวเด็กเก่าอย่าง ลูกากู กลับมาร่วมทีมอีกครั้งในรอบ 7 ปี มันดันกลายเป็นการทุ่มเงินทำลายสถิติการซื้อนักเตะครั้งใหญ่สำหรับพวกเขาเลยทีเดียว เมื่อตัวของโรเมลู ลูกากู ย้ายกลับสู่บ้านเก่าด้วยค่าตัว 97.5 ล้านปอนด์ด้วยกันนักเตะชาวเบลเยี่ยม ได้ย้ายกลับมาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจากที่เมื่อ 10 ปีก่อน เขาได้ย้ายมาเข้าร่วมทีมเชลซีเป็นครั้งแรก และนักเตะรายนี้ อาจจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ทีมขาดหายไปมาโดยตลอดเขาทำประตูได้ 24 ประตูในฤดูกาลสุดท้ายของเขาในเซเรียอา แต่ตอนนี้เขากลับมาอังกฤษแล้ว แต่เขาจะยิงได้กี่ประตูกันนะ?
2. เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (71.6 ล้านปอนด์)
จากการที่ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ได้ย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ในปี 2018 ด้วยความตื่นตระหนกเกี่ยวกับเรื่องการขาดหายไปของนายด่านมือ 1 ที่ช่วยทีมมานาน มันเลยทำให้ เชลซี ได้เลือกที่จะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อปิดดีลกับตัวของ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า จากทีมบิลเบามาเล่นกับเชลซีด้วยค่าตัว 71.6 ล้านปอนด์ในปี 2018 และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นผู้รักษาประตูที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรในฤดูกาลเปิดตัวของเขา เกป้า โชว์ความดราม่าด้วยการทะเลาะกับ เมาริซิโอ ซาร์รี่ อดีตผู้จัดการทีมเชลซี แถมฟอร์มของเกป้าก็ดิ่งลงต่ำอย่างเลวร้ายสุดๆเลยในฤดูกาล 2019-20 แถมยังทำสถิติเป็นผู้รักษาประตูที่มีสถิติการเซฟประตูที่แย่ที่สุด เท่าที่พรีเมียร์ลีกเคยมีมาด้วยและสุดท้ายในปี 2020 เชลซีก็แก้ปัญหาด้วยการไปเอาตัวของ เอดูอาร์ด เมนดี้ มาเล่นกับทีม และทิ้งเกป้าไว้เป็นตัวสำรองที่ม้านั่งแทน
3. ไค ฮาแวร์ตซ์ (71 ล้านปอนด์)
ฮาแวร์ตซ์ ดันย้ายมาเล่นในลีกอังกฤษในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด โดยนักเตะเยอรมันรายนี้ถูกมองว่าเป็นดาวเด่นคนต่อไปของพรีเมียร์ลีก แต่ว่าเขาเองก็ต้องใช้เวลาสักพักในการตั้งรกรากในประเทศใหม่ แถมยังมีติดเชื้อโควิด-19 เป็นการประเดิมชีวิตบนเกาะอังกฤษด้วยอีก ซึ่งทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากใจสุดๆเป็นเวลาหลายเดือน และหลายเดือนที่ว่านี้เขาเองก็ทำผลงานได้ไม่ดีพอเท่าไหร่ผลงานโดยรวมของปีกทีมชาติเยอรมันในฤดูกาลเดบิวต์ของเขาในพรีเมียร์ลีก มันดูเหมือนว่าจะไม่สวย … แต่ทันทีที่เขาทำประตูชัยให้กับทีมในการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จเหนือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันก็เติมเต็มความมั่นใจในตัวของเขาได้มากเลยทีเดียวแฟนบอลเชลซีรู้ดีว่า ยังมีช่องว่างให้นักเตะรายนี้พัฒนาได้อีกมาก และด้วยอายุแค่ 22 ปีของเขา มีเวลาอีกมากอย่างที่บอกแน่นอน
4. อัลบาโร่ โมราต้า (60 ล้านปอนด์)
อันโตนิโอ คอนเต้ ต้องการกองหน้าคนใหม่มาเติมเต็มในทีม หลังจากเขาตัดสินใจจะโละ ดีเอโก้ คอสต้า ออกจากทีมเพราะมีปัญหากระทบกระทั่งกันพอสมควร แม้ว่าจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 2016-17 ร่วมกันก็ตามและหลังจากที่ฝ่ายเทคนิคของเชลซี ล้มเหลวในการจะดึงตัว โรเมลู ลูกากู กลับมาอยู่กับทีม เขาก็เลยตัดสินใจเลือกอัลบาโร่ โมราต้า มาเล่นด้วยในที่สุดในช่วงสองสามเดือนแรก ทั้งจังหวะการจับบอล เลี้ยงบอล ก็ต้องยอมรับว่าการเล่นของโมราต้ามันคืออัจฉริยะจริงๆ เขามีสถิติยิง 6 ประตูใน 6 เกมแรกในลีกของเขา และยิงลูกที่ 10 ได้ในเดือนธันวาคมอีกด้วยแต่จากนั้น เขาจัดการยิงได้อีกเพียง 1 ตุงเท่านั้นจากในช่วงที่เหลือของฤดูกาล และอาการบาดเจ็บของเขา มันก็ทำให้ โมราต้า ขาดความมั่นใจในการเล่นไปมาก โดยเฉพาะกับการทำประตู และเชลซีก็ตัดสินใจว่าพวกเขาจะไม่เก็บกองหน้ารายนี้ไว้ และปล่อยให้แอตเลติโก มาดริด ยืมตัวไป
5. คริสเตียน พูลิซิช (58 ล้านปอนด์)
แม้ว่าเชลซี จะมีความมุ่งมั่นอย่างสุดใต ที่จะหานักเตะที่สามารถเป็นตัวแทนของ เอเด็น อาซาร์ มาอยู่กับทีมได้ แต่พวกเขาก็ได้เลือกที่จะไปเอาตัวขอคริสเตียน พูลิซิช มาจากดอร์ทมุนด์ ในปี 2019 ซึ่งแน่นอนว่ามันคือความกดดันที่ปีกมะกันรายนี้จะต้องรับมือให้ได้ กับการเป็นตัวแทนของอาซาร์แต่ว่าปีกรายนี้ ก็มีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง อีกทั้งยังขาดความสม่ำเสมอในการเล่นพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่าจนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าปีกรายนี้ จะยังไม่สามารถทำอะไรได้คุ้มค่ากับเงินทุกยูโรที่เชลซีจ่ายให้กับดอร์ทมุนด์ได้เลย
