มีพรสวรรค์แต่ไม่ทำตัวให้ดี … ถ้าเราจะให้นึกถึงเหล่านักฟุตบอลชื่อดังที่ว่ากันว่ามีทักษะการเล่นในระดับที่น่าจับตามอง แต่กลับไปได้ไม่ไกลเพราะทัศนคติในการเล่น กับความเป็นมืออาชีพนั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดินเหลือเกินนั้นมีใครบ้าง เราก็คงจะนึกถึงเหล่าตัวรุกมากพรสวรรค์หลายๆคนเลยทีเดียว … อย่างเช่นรายชื่อดังต่อไปนี้
ซามีร์ นาสรี่
อดีตตัวรุกทีมชาติฝรั่งเศสที่ทุกวันนี้ไปเล่นในลีกรองอย่างประเทศตุรกีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่ในอดีตนั้นเขาถึงขั้นได้รับการยกย่องให้เป็น “นิวซีดาน” ว่ากันว่าเจ้าหมอนี่จะเป็นผู้ที่ก้าวขึ้นมาสานต่อตำนานเพลย์เมกเกอร์ในทีมชาติฝรั่งเศสหลังจากหมดยุคของ ซีเนอดีน ซีดาน เลยทีเดียวแต่ปรากฏว่า นาสรี่ ไม่เคยไปไกลถึงขั้นนั้น เขามักจะทำตัวมีปัญหากับเพื่อนร่วมทีม , โค้ช แม้กระทั่งแฟนบอลทีมตัวเอง หนักสุดคือมีเรื่องกับสื่อเลยทีเดียว และส่วนใหญ่นั้น นาสรี่ มักจะทำตัวทะนงสุดๆไม่สนใจเสียงวิจารณ์ และแคร์แต่สิ่งที่ตัวเองพอใจจะทำเท่านั้น มันเลยเป็นเหตุที่ทำให้มิดฟิลด์มากพรสวรรค์รายนี้ไม่ค่อยจะมีใครเอา และไม่ประสบความสำเร็จในการค้าแข้งระดับอาชีพมากเท่าที่ควร
มาริโอ บาโลเตลลี่
กองหน้าอดีตตัวทีมชาติอิตาลีรายนี้ เป็น 1 ในหลายๆตัวอย่างของนักเตะที่มีพรสสวรรค์ แต่กลับเอาเวลาไปทำเรื่องไร้สาระนอกสนามจนทำให้เจ้าตัวไม่เคยโฟกัสไปที่การพัฒนาตัวเองในเรื่องฟุตบอลเลยเขาเคยได้แชมป์มากมายกับอินเตอร์ มิลาน เคยอยู่ในทีมชุดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ 2009-10 ร่วมกับอินเตอร์ เป็นคนยิงประตูสำคัญช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2011-12 และยังยิงประตูใส่เยอรมันจนพาทีมชาติอิตาลีเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2012 มาแล้วแท้ๆ แต่กราฟชีวิตของเขาก็ดิ่งลงนับจากวันนั้น !เขามักจะก่อเรื่องมากมายทั้งในและนอกสนาม มีเรื่องมีราวให้คนติดตามในแง่แย่ๆมากกว่ามีผลงานในสนามในทางที่ดี และในปัจจุบัน เขาตกอับถึงขั้นลงไปเล่นในเซเรียบีกับ มอนซ่า และท่าทางจะยากที่จะกลับมาเล่นให้กับทีมชาติอิตาลีอีกด้วย
อันโตนิโอ คาสซาโน่
ก่อนหน้าของบาโลเตลลี่ ก็มีเกรียนตัวเทพๆอย่าง คาสซาโน่ ด้วยอีกรายที่เป็นกองหน้าพรสวรรค์สูงแต่กลับทำตัวเกรียนจัด กล่าวกันว่าในสมัยที่นักเตะรายนี้ห้าวเป้งไปเล่นในสเปนกับ เรอัล มาดริด เขาทั้งกินเหล้าเคล้านารีไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้การซ้อมในแต่ละครั้งนั้น ถ้าไม่มาสายก็คือขาดซ้อมไปเลยหรือหนักสุดคือมาซ้อมในสภาพที่เมาค้าง ทำให้ผู้จัดการทีมไม่พอใจ มันเลยไม่น่าแปลกใจว่ากองหน้ารายนี้ที่เคยได้รับการยกย่องว่าจะไปถึงระดับที่ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ หรือกระทั่ง ฟรานเชสโก้ ต็อตติ ยืนอยู่นั้นไม่สามารถไปไกลถึงขั้นเทียบชั้นกับเหล่าตำนานกองหน้าสไตล์ฟานตาติสต้าที่โด่งดังเหล่านั้นได้
โรนัลดินโญ่
เชื่อได้ว่าหลายคนอาจจะถึงขั้นแคลงใจเลยทีเดียวว่ายอดนักเตะที่เคยได้บัลลงดอร์ประจำปี 2005 แถมได้แชมป์ลาลีกา 2 สมัยซ้อนพ่วงด้วยถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย , แชมป์ฟุตบอลโลก 2002 กับทีมชาติบราซิล เคยได้รับการยกย่องให้เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก แต่ทำไมถึงติดอันดับมาด้วยเราอยากให้ทุกคนลองพิจารณาก่อนว่า โรนัลดินโญ่ มีจุคพีคในการเล่นกี่ปีกัน ! เขามีช่วงเวลาพีคๆแค่ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งนั่นก้คือในช่วงระหว่างปี 2004-2006 ที่เขาได้แชมป์กับบาร์เซโลนานั่นเอง ตามปกตินั้นนักเตะที่ดีควรจะมีความสม่ำเสมอในการเล่น รักษาฟอร์มการเล่นที่ดีเอาไว้ได้นานกว่านั้น แต่ตัวของ โรนัลดินโญ่ กลับปล่อยให้ทั้งน้ำหนักตัว , การทำตัวทำมะเลเทเมา ขาดวินัยในการซ้อมและปัญหาอาการติดเที่ยว มันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ R10 ลืมความเป็นมืออาชีพที่ดีไปจนหมด เหลือแค่พรสวรรค์อย่างเดียวก็ไม่ช่วยอะไร มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ว่าทำไมตั้งแต่จบแชมเปี้ยนส์ลีก 2006 เราจึงไม่เคยเห็นโรนัลดินโญ่อยู่ในฟอร์มเทพอีกเลย
