เลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City) กองทัพจิ้งจอกสยาม

ประวัติและความเป็นมา เลสเตอร์ ซิตี้

เลสเตอร์ ซิตี้ มีฉายาว่าสุนัขจิ้งจอก หรือ จิ้งจอกสยาม ก่อตั้งเมื่อปี 1884 ที่สนามกีฬาคิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม ณ ปัจจุบัน เจ้าของคือ บริษัท คิง เพาเวอร์ ประธานบริหารคือ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เล่นอยู่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผู้จัดการทีมหรือกุนซือนำทัพ คือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เป็นทั้งผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ เลสเตอร์ ซิตี้ มาอย่างยาวนาน สโมสรแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำมากมาย จนมาถึงปัจจุบันก็ยังสามารถสร้างผลงานที่ดีได้อย่างยอดเยี่ยม ไปดู จิ้งจอกสยาม ในสมัยก่อนกันดีกว่า

โลโก้ จิ้งจอกสยาม

โลโก้ของ จิ้งจอกสยาม

สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ มีทั้งหมด 6 รูปแบบ ครั้งแรกที่เริ่มใช้ตราสโมสรรูปแบบที่ 1 เมื่อปี 1948-1949 โดยมีสุนัขจิ้งจอกเป็นสัญลักษณ์เด่น และได้เปลี่ยนเป็นรูปแบบที่ 2 เมื่อปี 1950-1983 ต่อมาเป็นรูปแบบที่ 3 ในปี 1983-1992 พร้อมเปลี่ยนท่าทางของสุนัขจิ้งจอกในท่ากำลังวิ่ง ในปี 1992 เปลี่ยนมาใช้รูปแบบที่ 4 คือตราหัวสุนัขจิ้งจอกสีเหลืองภายในวงกลมที่ล้อมไปด้วยภาษาอังกฤษ ใช้มาจนถึงปี 2009 ก็เปลี่ยนรูปแบบที่ 5 อีกครั้ง โดยเพิ่มตัวเลขครบรอบ 145 ปีของทีมข้างล่างวงกลม และปรับเปลี่ยนตัวอักษรนิดหน่อย จนมาถึงรูปแบบปัจจุบันที่ใช้อย่างเป็นทางการ และคาดว่าน่าจะอีกนานกันเลยทีเดียว

ประวัติและความเป็นมา

การแข่งขันของ เลสเตอร์ ซิตี้ เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1884-1887 ที่สนามวิคตอเรีย พาร์ค ต่อมาไม่นานทางสโมสรมีปัญหาในการเคลื่อนย้ายสนามแข่งขัน จึงได้ทำการย้ายอีกครั้งไปที่ มิลล์ เลน พอเข้าที่เข้าทางแล้ว เวลาต่อมาก็มีปัญหาเกิดขึ้นในสร้างสนาม มิลล์ เลน อีก พวกเขามีทางเลือกไม่มากนัก จึงทำการย้ายไปที่ สนามคริกเก็ต และปักหลักอยู่ที่นี่ได้อีกหลายปี

เริ่มแรกก่อนการลงแข่งขัน สโมสรใช้ชุดทีมเป็นสีฟ้าตัดดำ + กางเกงสีขาว เวลาผ่านไปไม่นานก็ได้เปลี่ยนเป็นชุดสีน้ำเงิน + กางเกงขาว เหมือนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

ต่อมาในปี 1891 โอกาสในการตั้งหลักปักฐานของเขาก็มาถึงอีกครั้ง เกิดขึ้นที่ฟิลเบิร์ต สตรีท และใช้เวลานานอยู่พอสมควรกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง ก่อนจะมาเป็น เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรใช้ชื่อ เลสเตอร์ ฟอสส์ มาก่อน เมื่อฤดูกาล 1893-1894 มาถึง สโมสรได้เซ็นสัญญากับนักเตะทั้งหมด 19 คน และคว้าอันดับ 2 ของตารางไปครอง ที่น่าจดจำไปมากกว่านั้นคือผลโหวตที่ทำให้ เลสเตอร์ ฟอสส์ ได้ลงแข่งในดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ

จิ้งจอกสยาม ใช้เวลานานถึง 14 ปี ในการพยายามเลื่อนชั้นขึ้นไปยังลีกสูงสุด แต่แล้วไม่นานฝันก็สลาย เพราะ เลสเตอร์ ฟอสส์ ในฤดูกาลนั้น เป็นทีมที่ไม่แข็งแกร่งเลย จึงทำให้ตกชั้นลงมา ในตอนนั้นทีมได้จบฤดูกาลด้วยการเป็นรองบ๊วยของลีก ดิวิชั่น 2 บวกกับปัญหาที่เข้ามาถาโถมอย่างหนัก รวมไปถึงปัญหาเรื่องการเงินภายในสโมสร และสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้สมาคมฟุตบอลสั่งพักชั่วคราว พวกเขาตกอยู่ใสภาวะล้มละลาย จนถึงปี 1919 เหตุการณ์ได้จบลงด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่จากบริษัทแห่งหนึ่ง

หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น เลสเตอร์ ซิตี้ อย่างเป็นทางการ และฟ้าหลังฝนก็กลับมาสดใสอีกครั้ง พวกเขาคว้าแชมป์ลีกดิวิชั่น 2 ทั้งหมด 7 ครั้ง และผ่านรอบคัดเลือกเข้าชิงเอฟเอ คัพ 4 สมัย แชมป์ลีก คัพ 3 ครั้ง และได้เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลยุโรป โดยกุนซือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ที่พาพวกเขาสู้จนสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในปี 2015-2016 มาได้ แต่เป็นหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เริ่มขึ้น

King Power Stadium

ในปี 2002 สโมสรกลับมาเจอฝันร้ายอีกครั้งกับปัญหาการเงิน และ มิลาน แมนดาริช ได้เข้ามาเป็นเจ้าของเมื่อปี 2007 แต่ก็ไปได้ไม่ค่อยสวยนัก เพราะการบริหารจัดการที่แย่ จนมาถึงปี 2010 บริษัทคิง เพาเวอร์ เข้ามาเทคโอเวอร์แทน โดยคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นเจ้าของกิจการทั้งหมด เขาบริหารจัดการได้อย่างฉลาดและมีคุณภาพ จากการพัฒนาฝีเท้านักเตะ โดยไม่ได้กดดันไปที่ชัยชนะเพียงอย่างเดียว เป้าหมายใหญ่ของเขาคือการพาสโมสรขึ้นไปอยู่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้ได้ และได้มีการปรับโครงสร้างของสนามวอล์คเกอร์ สเตเดี้ยม ให้ใหญ่กว่าเดิมถึง 32,500 ที่นั่ง และเปลี่ยนชื่อมาเป็น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

ก่อนจะก้าวเข้าสู่ความสำเร็จครั้งที่ใหญ่ที่สุด คือการนำทัพของ ไนเจล เพียร์สัน ในปี 2013-2014 พาทีมเก็บแต้มในลีกแชมเปี้ยนชิพ จนได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทุ่มเทกันจนขึ้นมาอยู่บนโซนตกชั้นของตารางคะแนนได้ ซึ่งเป็นปาฏิหารย์ที่ทำให้มีแฟนบอลเพิ่มขึ้นอย่างหนาแน่น พวกเขาภูมิใจในผลงานตัวเองอย่างมาก กว่าจะได้ก้าวขึ้นมาสู่ลีกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

เมื่อปี 2015-2016 เลสเตอร์ ได้เปลี่ยนกุนซือนำทัพมาเป็น เคลาดิโอ รานิเอรี่ ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่ทำให้ฝันที่ไกลกลายเป็นความจริง คือการพาทีม จิ้งจอกสยาม เข้าสู่บัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้สำเร็จ ต่อมาเพียงปีเดียว สโมสรได้เปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมมาเป็น เคร็ก เช็กสเปียร์ ซึ่งทำผลงานพาทีมทะลุเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่

เลสเตอร์ ซิตี้ ทำการเปลี่ยนผู้จัดการอีกครั้งในปี 2017-18 เป็น โคล้ด ปูแอล มารับหน้าที่แทน และในเดือนตุลาคม ปี 2017 เขาพา เลสเตอร์ ซิตี้ จบอันดับที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก แต่ดันตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในรายการเอฟเอ คัพ ต่อมาได้ทำผลงานตกต่ำและพาทีมสู่ความล้มเหลวมาเรื่อยๆ จนสโมสรตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมอีกครั้งมาเป็น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คนปัจจุบัน ที่เข้ามารับหน้าที่แทน และกู้ผลงานที่ดีกลับมาได้อีกครั้ง

จนมาถึงฝันร้ายของชาว เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2018 คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสร เสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุ เฮลิค็อปเตอร์ตกที่ด้านนอกของสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม โดยมีลูกชาย คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เป็นผู้สืบต่อกิจการทั้งหมดแทน

เว็บไซต์สโมสร : www.lcfc.com – www.lcfcthai.com

สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้