คริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) ปราสาทเรือนแก้ว

ประวัติและความเป็นมา คริสตัล พาเลซ

สโมสร คริสตัล พาเลซ ก่อตั้งเมื่อปี 1905 วันที่ 10 กันยายน ตั้งอยู่ที่เขตเซลเฮิสต์ ในเมืองลอนดอน มีฉายาว่า ปราสาทเรือนแก้ว ปัจจุบันเล่นอยู่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และในตอนนี้ คริสตัล พาเลซ ไม่ใช่ทีมที่แข็งแกร่งมากนัก อยู่โซนล่างๆของตารางด้วยซ้ำ เมื่อก่อนเคยเป็นทีมตัวเต็งที่โหดมากเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปและมีนักเตะรวมทั้งผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์และพรสวรรค์มาเป็นคู่แข่งมากมาย ทำให้ทีมอาจจะมีผลงานที่แย่ลงและฐานแฟนคลับไม่ได้เยอะเหมือนทีมอื่นๆ ยังมีประวัติมากมายเกี่ยวกับสโมสรแห่งนี้ที่หลายๆคนยังไม่รู้ มาดูกันดีกว่า

ประวัติและความเป็นมา

คริสตัล พาเลซ มีส่วนร่วมในการก่อตั้งพรีเมียร์ลีก ในปี 1990 และปี 2016 ได้เข้าชิงแชมป์ฟุตบอลอฟเอคัพ ถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ปราชัยให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังมีผลงานที่ดีคือการคว้าแชมป์ของลีกดิวิชั่น 2 และชนะเพลย์ออฟถึง 48 ครั้ง ทำให้ได้เลื่อนชั้นไปยังลีกสูงสุดในเวลาต่อมา

เมื่อปี 1915 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ คริสตัล พาเลซ ถูกคำสั่งให้ย้ายออกจากพระราชวัง จึงจำเป็นต้องย้ายไปที่สนาม เฮิร์น ฮิลล์ เวโลโดร์ม แอน เดอะ เนสต์ ในปี 1920-1921 ทีมได้เข้าร่วมเล่นฟุตบอลลีกดิวิชั่น 3 และได้รับแชมป์จนเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ ต่อมาเมื่อปี 1924 ได้ทำการเคลื่อนย้ายไปที่สนามเซลเฮิสต์ พาร์ค ที่ใช้อยู่ ณ ปัจจุบัน

เกมแรกที่ เซลเฮิสต์ พาร์ค เป็นศึกที่แย่ เพราะเปิดบ้านปราชัยให้กลับ เชฟฟิลด์ เว้นเดย์ ไป 0-1 ท่ามกลางแฟนบอล 25,000 คน ที่ร่วมเชียร์และคาดหวังว่าจะทำได้ดีกว่านี้ หลังจากที่เจอสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ทีมจบอันดับที่ 21 ทำให้ตกชั้นสู่ดิวิชั่น 3 อีกครั้ง และก่อนที่จะมีสงครามโลกครั้งที่ 2 ทีมทำผลงานที่ดีได้อีกครั้ง จากการเลื่อนชั้นและไปถึงอันดับที่ 2 และ 3 ได้อย่างน่าทึ่ง หลังจากนั้นก็ไม่เคยหล่นลงมาจากโซนบนอีกเลย จนเกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง

ในช่วงที่ฟุตบอลลีกถูกยุติจากสงคราม ทีมพากันคว้าแชมป์ในรายการของลีกตอนใต้ได้ 2 รายการ แต่เมื่อจบเหตุการณ์วุ่นวายลง พวกเขากลับมามีผลงานที่ไม่ดีอีกครั้ง โดยตกมาอยู่โซนกลางตารางในอันดับที่ 7 และหล่นไปโซนท้ายตาราง เมื่อสมาคมฟุตบอลได้ปรับรูปแบบการแข่งขันภายในลีก จนได้มาจบที่ดิวิชั่น 4 เป็นช่วงเวลาที่ตกต่ำมาก แต่ผ่านมาถึงฤดูกาลที่ 1960-1961 อาร์เธอร์ โรว์ ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการคนใหม่ และพาทีมขึ้นไปสู่ดิวิชั่น 3 ได้อีกครั้ง

ต่อมาในปี 1962 พาเลซ คว้าชัยชนะในศึกที่เจอกับ เรอัล มาดริด เป็นรายการกระชับมิตร สโมสร และเป็นครั้งแรกที่ลีกจากสเปนได้เข้ามาเล่นในกรุงลอนดอน แต่เมื่อจบฤดูกาล อาร์เธอร์ โรว์ ก็ลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปรักษาสุขภาพ และได้ ดิ๊ก เกรแฮม และ เบิร์ต เฮด มารับหน้าที่แทน และทำให้ทีมเลื่อนชั่นสู่ดิวิชั่น 2 ในปี 1963-1964 ทำผลงานได้ดีเกินคาด จนได้ขึ้นไปยังดิวิชั่น 1 อีกครั้ง เมื่อปี 1968-1969

ทีมแข่งขันในดิวิชั่น 1 แค่ในช่วงปี 1969-1973 ก็ต้องมาตกชั้นไปยังดิวิชั่น 3 อีกครั้ง เพราะการคุมทัพของ มัลคอล์ม อลิสสัน จนมาถึงปี 1974-1975 คริสตัล พาเลซ เข้าไปสู่รอบก่อนรองชนะเลยในการแข่งขันเอฟเอคัพ หลังจากจบฤดูกาล มัลคอล์ม อลิสสัน ก็ถูกไล่ออก และเป็น เทอรรี่ เวนาเบิ้ล เข้ามาคุมทีมแทนในปี 1978-1979 เขาพา คริสตัล พาเลซ เลื่อนชั้นได้สำเร็จ และคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ณ ตอนนั้น พวกเขาได้รับฉายาว่า ทีมแห่งยุค 80

คริสตัล พาเลซ ประสบความสำเร็จในรายการฟุตบอลของอังกฤษ โดยจบอันดับที่ 3 ของลีกสูงสุด เมื่อฤดูกาลที่ 1980-1991 ทำให้ทีมได้ไปแข่งขันต่อในรายการฟุตบอลยุโรป แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้า สมาคมฟุตบอลยุโรป ปฏิเสธที่จะให้ คริสตัล พาเลซ เข้าร่วมการแข่งขัน เพราะสาเหตุจากโศกนาฏกรรมที่สนามเฮย์เซล

ในฤดูกาลที่ 1979-1980 พวกเขาทำผลงานได้ดีมาก ขึ้นไปอยู่โซนบนของตาราง แต่เขาก็ต้องมาเจอกับวิกฤตครั้งใหญ่ สโมสรติดปัญหาด้านการเงินในปี 1980-1981 ทำให้ทีมตกชั้นจากดิวิชั่น 1 ไปอีกครั้ง จนได้ รอน นัวเดส มาเทคโอเวอร์และเป็นเจ้าของสโมสรอย่างเต็มตัว

ในวันที่ 4 มิถุนายน 1984 สตีป คอปเปล อดีตผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีม เขาทำผลงานได้ดี โดยการพาทีมเลื่อนชั้นกลับสู่ดิวิชั่น 1 และสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในรายการ เอฟเอคัพ ได้ และในฤดูกาลต่อๆมา ทีมทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ คว้าแชมป์และชัยชนะได้อย่างมากมาย รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของสโมสรที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อนักเตะดาวรุ่งเข้ามาร่วมทีม ทำให้หลังจากนั้นเริ่มกลับมามีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ก็ยังมีตกชั้นและเลื่อนชั้นสลับไปมาอยู่เรื่อยๆ เพราะการคุมทัพของกุนซือที่ไม่ได้เรื่อง ส่วนคนที่มีการบริหารที่ดีก็กลับมีปัญหาทางด้านอื่น ทำให้พวกเขาหาจุดสิ้นสุดของตำแหน่งไม่ได้สักที

ในช่วงเวลาต่อมาในยุค 2000 ยังคงมีปัญหาแบบเมื่อก่อนอยู่ ตกชั้น-เลื่อนชั้น ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของ คริสตัล พาเลซ มาก แต่พวกเขาก็ไม่หยุดที่จะสร้างผลงานที่ดีเพื่อให้กลับมาอยู่ในจุดที่สูงที่สุดอีกครั้ง จนมาถึงปัจจุบัน ถือว่า ปราสาทเรือนแก้ว ได้มาถึงจุดสูงสุดจากที่เคยผ่านมา และยังเป็นทีมที่มีฟอร์มที่น่าชื่นชมอยู่เหมือนกัน โดยมี รอย ฮอดจ์สัน เป็นผู้จัดการทีม คริสตัล พาเลซ อยู่อันดับที่ 11 ในตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังไม่ได้เข้าข่ายอยู่ใกล้เคียงโซนตกชั้นมากนัก

ตราสัญลักษณ์ คริสตัล พาเลซ

ตราสัญลักษณ์ คริสตัล พาเลซ

รางวัลและแชมป์ที่ได้รับ

FA Cup : รองแชมป์ 2015-2016

First Divsion : อันดับ 3 ฤดูกาลที่ 1990-1991

Seconnd Division : แชมป์ฤดูกาล 1978-1979, รองแชมป์ 1968-1969, แชมป์เพล์ออฟ 1988-1989, 1996-1997, 2003-2004 และ 2013-2014 รองแชมป์เพล์ออฟ 1995-1996

Trird Divsion (ดิวิชั่น2) : แชมป์ฤดูกาล 1920-1921 รองแชมป์ 1963-1964

Third Divsion South : รองแชมป์ 1928-1929, 1930-1931,1938-1939

Southern Football League Divion One : รองแชมป์ 1913-1914

Southern Football League Divion Two : แชมป์ 1905-1906

รางวัลและแชมป์ที่ได้รับ คริสตัล พาเลซ