ล่มสลาย ! ถึงคราวสิ้นสุดยุคทองของมิดฟิลด์สไตล์ อันเดรีย ปีร์โล่ แล้วหรือ !

ล่มสลาย ! ถึงคราวสิ้นสุดยุคทองของมิดฟิลด์สไตล์ อันเดรีย ปีร์โล่ แล้วหรือ !

หมดยุคของกองกลางสไตล์วางบอลจากแนวลึกใช่หรือไม่ ? มันเป็นคำถามที่แฟนบอลและนักวิจารณ์ ได้นำมาเป็นคำถามอย่างชัดเจนหลังจากที่ศึกยูโร 2020 ได้เดินทางมาถึงช่วงการแข่งขันรอบเซมิไฟนอลกันแล้ว ซึ่งจากที่หลายๆคนได้เห็นก็คือ การล่มสลายของทีมที่ยังอาศัยการเล่นของมิดฟิลด์สไตล์ “โฮลดิ้ง” ที่เน้นการทำเกมด้วยการวางบอลจากแนวลึกการจ่ายบอลออกซ้ายออกขวา โยนบอลออกปีก ดูเหมือนว่าจะเป้นสไตล์บอลที่ซ้ำไปซ้ำมา แทบทุกทีมจะต้องมีมิดฟิลด์สไตล์ Deep-Lying Playmaker อยู่ในทีมแทบทุกทีม และแน่นอนว่าสูตจรการเล่นที่อาศัยการทำเกมจากแนวลึก นับวันก็ยิ่งโดนจับทางได้เรื่อยๆว่ากันว่ายุคสมัยของมิดฟิลด์ตัวกลางสไตล์ “บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์” กำลังจะมาถึง เหล่ามิดฟิลดืที่เล่นบอลแบบใช้สมองในการครีเอตเกมเพรียวๆ นับวันยิ่งสูญพันธุ์ ใช่แล้ว นักเตะแบบ “อันเดรีย ปีร์โล่” กำลังจะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนัง !เราน่าจะยังจำได้กับยุคสมัยที่โลกของฟุตบอล เคยดื่มด่ำกับการเล่นของนักเตะสไตล์ “จอมทัพหมายเลข 10” ที่ปั้นเกมหลังคู่กองหน้า มีหน้าที่ในการเป็นทุกสิ่งในเกมรุก คอยผ่านบอลคิลเลอร์พาสให้กองหน้าทำประตู เล่นลูกนิ่ง ศูนย์กลางเกมรุก ไม่เคยสนใจเกมรับแต่เมื่อยุคสมัยผ่านไป มิดฟิลด์ต้องช่วยเกมรับด้วย มันเลยทำให้บทบาทของหมายเลข 10 ค่อยๆหายไปและถูกแทนที่ด้วยปีกสองข้างในแดนกลาง หรือกระทั่ง “มิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอล” ที่คอยักบอลในแดนกลาง ช่วยเล่นเกมรับในบางจังหวะ และถ้าหากต้องการทำเกมบุก ก็อาศัยการวางบอลยาวราวกับเป็นตัว “ควอเตอร์แบ็ก” ในอเมริกันฟุตบอล ให้ปีกทำหน้าที่ปั้นเกมต่อ

ล่มสลาย ! ถึงคราวสิ้นสุดยุคทองของมิดฟิลด์สไตล์ อันเดรีย ปีร์โล่ แล้วหรือ !

ด้วยยุคสมัยใหม่ในเวลานี้ มิดฟิลด์ทุกคน ต้องเล่นเพรสซิ่งกันหนักมากขึ้น ช่วยกันบีบพื้นที่ กดดันจนแย่งบอลกลับมาจากนักเตะฝั่งตรงข้ามให้ได้ ครั้นการที่ตัวโฮลด์บอล จะไม่ทำอะไรเลย ไม่ปะทะ ไม่ช่วยแย่งบอล คอยแค่ทำหน้าที่รับบอลแล้วจากนั้นก็วางบอลยาวในจังหวะสวนกลับ มันคงไม่พอจริงๆทีมชาติเยอรมัน ใช้งานตัวของ โทนี่ โครส ในบทบาทนี้มาอย่างยาวนาน ยิ่งหลังจากที่พวกเขาคว้าแชมป์โลก พวกเขาก็วางตัวของ โครส ให้ทำหน้าที่นี้ชนิดที่เรียกว่าแทบทุกเกมเลยทีเดียวผ่านไป 7 ปีหลังจากได้แชมป์โลก 2014 แทนที่ว่าการบัญชาการเกมด้วยการวางบอลยาวออกซ้ายออกขวาของ โครส จะน่ากลัว ทำให้ทีมนี้มีความน่าเกรงขาม แต่กลับกลายเป็นว่าทีมอื่นๆกลับจับทางการเล่นของโครสได้พวกเขาใช้วิธีในการมาร์คตามประกบนักเตะที่คาดว่าโครสจะวางบอลสวนกลับ หรือตามบีบพื้นที่ให้เจ้าตัวออกบอลทำเกมยาก เท่านี้ก็แทบจะหมดพิษสงไปแล้ว

ล่มสลาย ! ถึงคราวสิ้นสุดยุคทองของมิดฟิลด์สไตล์ อันเดรีย ปีร์โล่ แล้วหรือ !
กระทั่งกับทีมชาติโปรตุเกสก็เช่นกัน พวกเขาอาจจะมี รูเบน เนเวส และ เจา มูตินโญ่ ที่ออกบอลสั้นยาวได้แม่นยำ แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ใช่มิดฟิลด์ที่เล่นบอลตั้งรับ หรือปะทะบอลได้เก่งกาจเท่าไหร่ การเบียดให้พวกเขาเล่นยาก กดดันให้เขาทำเกมรุกด้วยการสาดบอลยาวออกริมเส้นไม่ได้ ทำให้พวกเขาได้แค่เคาะบอลสั้น ก็ถือว่าทำลายการทำเกมบุกของพวกเขาได้แล้วและอีก 1 ตัวอย่างก็คือกับทีมชาติฝรั่งเศส พวกเขาอาจจะมีตัวของ อาเดรียน ราบิโอต์ ที่เล่นในสไตล์ควอเตอร์แบ็กเหมือนกัน ออกบอลยาวแม่นยำเช่นกัน แต่ว่า ราบิโอต์ แทบจะหายไปจากเกมเลยในนัดที่พวกเขาสู้กับทีมชาติฝรั่งเศส ยิ่งในช่วงที่ ราบิโอต์ โดยกองกลางของสวิสเข้ากดดันภายใต้การสั่งการของ กรานิต ชาก้า ที่เป็นมิดฟิลด์สายบู๊ ก็ทำเอา ราบิโอต์ ออกบอลยาก และทำให้รูปขบวนในแดนกลางของฝรั่งเศสยวบเอาเรื่องสามทีมที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่ตกรอบไปหมดแล้วจากศึกยูโร 2020 หนนี้ และยุคสมัยใหม่ของการปรับปรุงแดนกลางให้มีความดุดันมากขึ้นของแต่ละทีม อาศัยมิดฟิลด์พลังไดนาโมมาเป็นตัวขับเคลื่อนกำลังจะมาถึง เราคงได้แต่ดูว่ามันจะมีอะไรน่าสนใจเปลี่ยนแปลงไปสู่ฟุตบอลยุคใหม่บ้าง