ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกทีมชาติอังกฤษ ของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อาจเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ แต่รางวัล PFA หรือนักเตะผู้ยอดเยี่ยมแห่งปีตกเป็นของ เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ของ ลิเวอร์พูล และไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาสมควรได้รับมันอย่างยิ่ง
การล่าถ้วยรางวัลของ ลิเวอร์พูล ยังไม่ถึงบทสรุป แต่เป็นฤดูกาลที่ไม่ธรรมดา ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน กำลังทำคะแนนไล่จี้ แมนฯซิตี้ แบบหายใจรดต้นคอ ขณะเดียวกัน พลพรรค “หงส์แดง” เดินหน้าเข้าถึงรอบรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ศักยภาพการโจมตีของ ลิเวอร์พูล นั้น ไม่มีอะไรใหม่ ในความเป็นจริงการทำประตูโดยรวมของพวกเขาในพรีเมียร์ลีกเหมือนกันกับฤดูกาลที่แล้ว อีกด้านหนึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป คือ เกมรับที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม “หงส์แดง” เสียไปเพียง 20 ลูกเท่านั้น จากการลงเล่น 36 นัด ซึ่งมันจะไม่มีทางเป็นไปได้หากปราศจาก ฟาน ไดจค์
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวดัตช์ ได้รับการชื่นชมอย่างมากจากฟอร์มที่น่าทึ่งของเขา เขาลงเล่นเป็นตัวจริงทุกเกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยดาวเตะวัย 27 ปี มีสถิติในการเผชิญหน้ากับแนวรุกคู่แข่งที่ยอดเยี่ยม สรุปได้ก็คือว่าใน 3,205 นาทีบนสนาม ยังไม่มีนักเตะคนใดเลี้ยงบอลผ่านเขาได้เลย
ฟาน ไดจค์ สร้างความหวาดกลัวให้กับคู่ต่อสู้ของเขา ในขณะเดียวกันก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนร่วมทีมของเขา อาทิ โจ โกเมซ กองหลังดาวรุ่ง, เดยัน ลอฟเรน ปราการหลังโครเอเชีย และ โจเอล มาติป เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวแคเมอรูน ต่างก็เล่นได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ฟูลแบ็คทั้ง 2 ฝั่ง ของ ลิเวอร์พูล อย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ ก็เติมเกมรุกได้อย่างสบายใจ และในเกมรับพวกเขายังมี ฟาน ไดจค์ คอยช่วยสั่งการ และระวังหลังให้ ทำให้ทั้งคู่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม
เป็นการยากที่จะวัดคุณค่าความเป็นผู้นำของ ฟาน ไดจค์ อย่างชัดเจน แต่ก็มีตัวเลขที่แน่นอนที่จะขีดเส้นใต้อิทธิพลการป้องกันของเขา ตามที่ Opta กล่าวว่า ปราการหลัง “หงส์แดง” ได้บล็อกลูกบอล และเซพชั่นมากกว่าเพื่อนร่วมทีมของเขา เขาอยู่ในอันดับต้นๆ ของการดวลลูกกลางอากาศ และเอาชนะลูกโหม่งได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ในความเป็นจริง ดาวเตะดัตช์ ได้มีส่วนร่วมที่ทรงคุณค่าในการโจมตีเช่นเดียวกับการป้องกัน การยิงไป 7 ประตูของเขาในการแข่งขันทั้งหมดรวมทุกรายการ เน้นย้ำถึงภัยคุกคามทางอากาศของเขา และการหาโอกาสขึ้นมาทำประตูจากลูกตั้งเตะ
ความหวังของ ลิเวอร์พูล ในตอนนี้คือ การที่พวกเขาจะผ่านเข้าสู่ฤดูกาลที่ไม่ธรรมดานี้ ด้วยถ้วยแชมป์รายการใดรายการหนึ่งที่พวกเขาควรได้รับ ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่แน่นอนคือ ฟาน ไดจค์ จะเป็นหัวใจของมัน เขาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ในปี 2018/19 และเขาเป็นผู้ชนะที่คู่ควรจะได้รับรางวัลนี้แล้ว
เจมี คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล กล่าวว่า “เขาดูเหมือนผู้ใหญ่ที่เล่นฟุตบอลกับเด็กๆ เขาเล่นกับผู้เล่นชั้นนำในฟุตบอลยุโรป ในพรีเมียร์ลีก แต่เขาทำทุกอย่างดูง่ายมากจริงๆ แล้วคุณรู้สึกว่าเขาอาจไม่ได้รับการทดสอบมากพอ แต่เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพร้อมเผชิญหน้ากับคู่แข่งทุกคน”
แกรม ซูเนสส์ ตำนาน ลิเวอร์พูล กล่าวว่า “ผมคิดว่ามันเป็นสัญญาณที่ดีจริงๆในผู้เล่นคนนี้ เมื่อคุณไม่เคยเห็นเขาวิ่ง 100 เปอร์เซ็นต์ และเขาดูเหมือนว่าเขาจะกลับไปอีกครั้ง เขาเป็นคนทรงพลังและตัวใหญ่ ดังนั้นคุณจะไม่ทำให้เขาเครียด เขามีทักษะที่อ่อนนุ่ม, เขามีทักษะของผู้เล่นกองกลางด้านเทคนิคจริงๆ ผมไม่คิดว่าคุณจะเอาลูกบอลไปจากเขาได้ง่ายๆ เขากองหลังที่สมบูรณ์แบบ และคุณก็ได้เห็นบุคลิกภาพของเขา แล้วว่ายอดเยี่ยมแค่ไหน”
ฟิง ธอมป์สัน อดีตโค้ช “หงส์แดง” กล่าวว่า “ผมเคยคิดว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ ได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี เขายอดเยี่ยมมากๆ ถ้าพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ลีกร่วมกับ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ มันจะเป็นหนึ่งในการซื้อตัวของศตวรรษนี้ เขาเหมาะสมที่จะได้รับรางวัลแล้ว”
พอล เมอร์สัน กูรูฟุตบอลเมืองผู้ดี กล่าวว่า “ไม่น่าเชื่อ เขาเป็นคนดีมาก เขาเป็นคนที่ดีที่สุดในโลก และผมคิดว่าเขาเป็นกองหลังตัวกลางที่สุดยอด เขาอยู่ในระดับเดียวกับตำนานอย่าง อลัน แฮนเซน สไตล์การเล่นของเขา เปรียบได้ว่าคุณสามารถเอาชุดของเขากลับมาใส่ในกระเป๋าไว้ และในสัปดาห์หน้าคุณไม่ต้องล้างมัน เขาสามารถสวมใส่มันอีกครั้ง เขายอดเยี่ยมจริงๆ”
