เรียกว่าเป็นช่วงเวลาอันแสนหอมหวานที่สุดของซีซั่นเลยก็ว่ากับบรรดาสาวก “ปีศาจแดง” เมื่อผลงานของทีมรักกำลังเข้าฝักแบบสุด ๆ อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อนนับตั้งแต่การเข้ามารั้งบังเหียนของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตตำนานซุปเปอร์ซับของทีมเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วจากการที่อดีตกุนซืออย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่สามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจจนโดนบอร์ดบริหารตะเพิดพ้นตำแหน่งไปในที่สุด
ดังที่รู้กันว่าการเข้ามาทำงานของกุนซือหน้าทารกรายนี้ถือว่ามีฟอร์มการเล่นที่ดุดันสุด ๆ โดยยังไม่แพ้ใครเลยตลอดการคุมทีม 10 นัด เป็นการชนะถึง 9 เกม มีหลุดเสมอกับ เบิร์นลีย์ 1 เกม ทว่าเมื่อมองภาพรวม มันคือปีศาจในยุค เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้กลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง จากตรงนี้เองตอนแรก ๆ ที่แว่วมาว่าบอร์ดบริหารต้องการให้เจ้าตัวเข้ามาคุมทีมในฐานะกุนซือชั่วคราวจนจบซีซั่นเท่านั้น ทว่าพอทำไปทำมาผลงานดันดีเกินคาด ทำให้หลายฝ่ายมองว่าบอร์ดบริหารของ แมนฯ ยูฯ คงไม่จำเป็นต้องมองหาใครเข้ามาทดแทนในตำแหน่งนี้อีกแล้วเมื่อพวกเขามีตัวเลือกที่ดีที่สุด เข้าใจความเป็นไปของสโมสรมากที่สุดอยู่ในมือตอนนี้
ความโหดของ โซลชา ที่ไม่ธรรมดา
แม้แท็กติกของ โซลชา ที่เราเห็น อาจยังไม่ได้หวือหวาหรือมีลูกเล่นอะไรน่าสนใจมากนัก แต่การที่เขานำพาทัพปีศาจที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ภายใต้การทำทีมของสุดยอดกุนซือกลับมาผงาดได้นั่นย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ ๆ เขาอาจมีพลังอะไรบางอย่างที่ทำให้นักเตะมองเห็นพร้อมทั้งเข้าใจวัฒนธรรมอันดีงามของสโมสร นักเตะหลายคนจึงยอมสู้แบบถวายหัว หากเวลายังไม่หมด เสียงนกหวีดยังไม่ดัง ทีมก็พร้อมจะบุกตะลุยเพื่อทวงเอาประตูคืนมาให้จงได้ เป็นสิ่งที่ แมนฯ ยูฯ ขาดหายไปนานนับตั้งแต่หมดยุคของยอดคนชาวสก็อต โซลชา จึงเป็นเหมือนบุคคลกระชากวิญญาณความเป็นยูไนเต็ดให้กลับมาขลังอีกครั้ง
ทุกวันนี้ใครที่คิดจะเจอกับ แมนฯ ยูฯ จำเป็นต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ทั้งหมด ไม่มีการเน้นแล้วรอโดนอีกต่อไป พวกเขาเปิดหน้าแลกตั้งแต่ได้ยินเสียงนกหวีด เมื่อได้ประตูตามต้องการแล้ว อาจมีบางเกมที่ต้องผ่อนตั้งรับบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาของฟุตบอลแต่สิ่งสำคัญคือเกมรับของพวกเขาเหนียวแน่นกว่ายุคของ มูรินโญ่ ด้วยซ้ำ เป็นช่วงเวลาที่ทำอะไรก็ดูดีงามไปเสียหมดสำหรับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ขัดตาทัพที่อาจเตรียมเลื่อนขั้นเป็นนายใหญ่ถาวร
