ชำแหละบาร์ซ่า ! การเงินพัง ซื้อตัวมั่วซั่ว จุดเริ่มต้นแห่งความหายนะ

ชำแหละบาร์ซ่า ! การเงินพัง ซื้อตัวมั่วซั่ว จุดเริ่มต้นแห่งความหายนะ

ตั้งแต่การดิ้นรนอย่างกับปลาใกล้ตาย เพื่อที่จะได้ลงทะเบียนให้กับผู้เล่นใหม่ในทีมได้ ไปจนถึงการปฏิบัติต่อสมาชิกในทีมชุดใหญ่บางคนในระดับที่เข้ขั้น“ยอดแย่” เพื่อหาทางแก้ปัญหาเรื่องการเงินที่กำลังเข้าขั้น “เฮงซวย” ถึงขีดสุดในสโมสร มันถึงขั้นต้องสูญเสียผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาไปจากทีม เรียกว่ามันคือฤดูร้อนอันสุดอนาถาของ บาร์เซโลน่า ชนิดที่ไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ นอกจากความโกลาหลที่เกิดขึ้น !เราสามารถอธิบายได้เลยว่าความโกลาหลใสโมสรที่ได้เกิดขึ้นนั้น มันมีต้นตอมาจากผลประกอบการทางด้านการเงินของบาร์เซโลน่าที่เละตุ้มเป๊ะนั่นเอง และสิ่งสำคัญอันดับแรกของ โจน ลาปอร์ต้า นับตั้งแต่ที่เขา กลับมาเข้ารับตำแหน่งประธานสโมสรอีกครั้งในรอบ 11 ปีเมื่อเดือนมีนาคมนั่นก็คือการสร้างสมดุลให้กับการเงินของสโมสรแต่ตามความเป็นจริงแล้วนั้น ค่าใช้จ่ายสุทธิของสโมสร โดยเฉพาะกับเรื่องค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการซื้อนักเตะ ว่ากันว่าพวกเขามีอยู่ที่ประมาณ 80 ล้านยูโรเท่านั้นในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ปัญหาที่แรงสุดๆเท่าที่สโมสรเคยเจอ เพราะพวกเขากลุ้มใจกับหนี้สินที่พันอยู่รอบสโมสรมากกว่าก่อนหน้านี้ บาร์เซโลน่า เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของสโมสรที่มีคลาสฟุตบอลในระดับที่ยาก ที่จะมีทีมอื่นมาทัดเทียมได้ แต่กล่าวกันว่าศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจหลายๆอย่างของสโมสรแห่งนี้ มันได้หายไปหมดตั้งแต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

หักดิบกับนักเตะเพื่อเซฟสโมสร !

หักดิบกับนักเตะเพื่อเซฟสโมสร !

เพื่อทำให้การเงินของสโมสรได้รับการรัดเข็มขัดเพื่อเซฟชีวิตทีมนั้น พวกเขาได้เริ่มต้นแผนการโละนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในข่ายของความจำเป็นที่จะต้องเก็บเอาไว้ให้เปลืองค่าเหนื่อยออกไปทีละคน ! มาเธอุส เฟร์นานเดส กองกลางชาวบราซิลวัย 23 ปีรายนี้ คือเหยื่อยรายแรกของบาร์ซ่า เขาอาจจะฝันไกลเมื่อครั้งที่เซ็นสัญญากับทีมยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นคาตาลันในปี 2020 แต่หลังจากได้ลงเล่นในสนาม มินิ เอสตาดี้ ไปเพียงปีเดียว แถมลงเล่นแค่ไม่กี่นาทีด้วยอีก ผลงานไม่ปัง เขาก็ถูกปล่อยตัวออกจากทีมด้วยการยกเลิกสัญญา แถมการแจ้งยังเป็นการแจ้งทางอีเมล ไม่มีการเรียกตัวมาคุยที่ออฟฟิศของสโมสรเป็นการส่วนตัวด้วย ไม่มีการสนทนา ไม่มีความเคารพจาสโมสร !จากนั้น สโมสรก็ได้ทำการเซ็นสัญญากับ เมมฟิส เดปาย , เอริค การ์เซีย และ เซร์คิโอ อเกวโร่ มาอยู่กับทีม โดยเฉพาะกับรายหลังที่ซึ่งลงทุนเซ็สัญญากับบาร์ซ่า เพื่อที่จะได้ลงเล่นเคียงข้างเพื่อนรักอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ในระดับสโมสรเลยแท้ๆ แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นแค่ความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง เพราะเมสซี่นั้นไม่สามารถต่อสัญญากับทีมได้ และต้องย้ายออกไปจากนั้นปัญหามันก็ไม่ได้มีแค่เรื่องของการสูญเสียเมสซี่ แต่บาร์ซ่ายังต้องต่อสู้กับอุปสรรค์อีกมาก โดยเฉพาะกับการลงทะเบียนให้กับเหล่าผู้เล่นที่เพิ่งจะย้ายมาใหม่ของพวกเขาด้วยนับว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะได้เห็นสภาพอันร่อแร่ของบาร์เซโลน่าแบบนี้ กว่าพวกเขาจะเคลียร์เรื่องเงินค่าเหนื่อยนักเตะได้ลงตัวจนสามารถลงทะเบียนกับทาง

ลาลีกาได้นั้นก็เข้าขั้นรากเลือดพอสมควร

ลาลีกาได้นั้นก็เข้าขั้นรากเลือดพอสมควร

จากการวิเคราะห์ปัญหานั้น ว่ากันว่าปัญหาทางการเงินของสโมสร มันลากยาวมาตั้งแต่สมัยที่ โฆเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรคนก่อนได้ทำไว้ อดีตประธานรายนี้ทุ่มเงินไปแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ผลาญเงินโดยใช่เล่น ซื้อนักเตะที่ไม่ตอบโจทย์ทีมมาแบบแพงๆด้วยหลักร้อยล้านมาโดยตลอดและดีลที่แฟนบอลสาปส่งที่สุด ที่ทำเอาทีมพังยับเลยนั่นก็คือการซื้อนักเตะอย่าง อ็องตวน กรีซมันน์ มาอยู่กับทีม มันน่าจะเป็นตัวอย่างที่เหมาะสมที่สุดกองหน้าฝรั่งเศส ย้ายมาถึงสโมสรในปี 2019 ในฐานะซุปเปอร์สตาร์ เขาย้ายมาด้วยเงินค่าตัว 120 ล้านยูโร แต่สุดท้ายก็ผลงานน่าอนาถที่สุดและสองปีต่อมาและ กรีซมันน์ ก็ได้ย้ายกลับไปเล่นให้กับแอตเลติโก มาดริด ตามเดิมด้วยสัญญายืมตัวระยะยาวหนึ่งฤดูกาลโดยมีออปชั่นบังคับซื้อตัวถาวรแนบเอาไว้ด้วยจนกว่า อเกวโร่ จะฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้ พวกเขาคงมีตัวเลือกกองหน้าให้ใช้น้อยมากเลยจริงๆ แถมการจากไปของกรีซมันน์ ด้วยอีก มันก็หมายความว่า โรนัลด์ คูมัน จะมีแนวรุกให้ใช้แค่ มาร์ติน เบรธเวท ถ้าไม่รวมเดปาย และล่าสุดนั้นพวกเขายังไปเอาตัวของ ลุค เดอ ยอง มาเล่นกับทีมอีก ทั้งๆนี้นักเตะรายนี้ไม่ได้มีสไตล์ที่เหมาะสมกับทีมเลยนี่มันไม่ใช่บาร์เซโลน่าที่พวกเราเคยรู้จักใช่ไหม?