จอร์จี้ ฮาจี้ กับตำนานการเดินทางที่สุดเศร้าและสุขในชีวิตค้าแข้ง

จอร์จี้ ฮาจี้ กับตำนานการเดินทางที่สุดเศร้าและสุขในชีวิตค้าแข้ง

ถ้าจะเอ่ยถึงเพลย์เมกเกอร์สุดคลาสสิกสักราย ที่ครบเครื่องทั้งการครองบอล ยิงประตู แอสซิสต์ มีลูกเล่นที่แพรวพราว เราจะนึกถึงใครบ้าง หลายคนอาจนึกถึง ซีเนดีน ซีดาน , ฆวน โรมัน ริเคลเม่ หรือกระทั่ง เมซุต โอซิลแต่ ณ ที่นี้ เราจะหันไปหานักเตะระดับตำนานรายหนึ่งจากแดนผีดิบ ประเทศโรมาเนีย ซึ่งนักเตะรายนี้มีชื่อว่า “จอร์จี้ ฮาจี้” ซึ่งถ้าหากว่าคุณเป็นแฟนบอลในยุค 80-90 ก็ย่อมต้องจดจำได้กับเพลย์เมกเกอร์อารมณ์ศิลปินที่มีเท้าซ้ายเพชฌฆาต สามารถยิงไกลได้อย่างแม่นยำราวจับวาง หรือกระทั่งซัดฟรีคิกทั้งระยะใกล้ไกลได้อย่างเฉียบขาด ยิงประตูได้มากกว่ากองหน้าทั่วๆไปด้วยซ้ำในอดีตสมัยที่เขาค้าแข้งนั้น ฮาจี้ ค้าแข้งกับทีมชั้นนำมาแล้วหลายทีมด้วยกัน แต่ก็น่าแปลกใจที่เขาไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าไหร่กับทีมชั้นนำ แต่กลับไปปังสุดๆกับทีมที่เล่นอยู่ในลีกเกรดบี กลายเป็นพระเจ้าของที่นั่น เรามาติดตามเส้นทางการเดินทางของฮาจี้กันดีกว่า ว่ากับสโมสรไหนที่เขาเล่นแล้วปัง กับสโมสรไหนที่เขายิ่งเล่นก็ยิ่งดับ !

สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย)

สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย)

นี่คือสโมสรในลีกบ้านเกิดของ ฮาจี้ และยังเป็นสโมสรที่เจ้าตัวระเบิดฟอร์มระดับโลกออกมา และได้รับความสนใจจากทีมชั้นนำมากมาย เขารัวสกอร์ได้เป็นเข่งจนได้รางวัลดาวยิงสูงสุดของลีกโรมาเนีย 2 สมัยเลยทีเดียวจากตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรุก พ่วงด้วยแชมป์ลีก 3 สมัย แชมป์ฟุตบอลถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และแชมป์รายการย่อยๆอีกมากมาย เรียกว่าที่นี่กับ สเตอัว บูคาเรสต์ เขาเป็นพระเจ้าของทีมเลยทีเดียว

เรอัล มาดริด (สเปน)

เรอัล มาดริด (สเปน)

ฮาจี้ ย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด แถมยังได้ใส่เสื้อเบอร์ 10 อันเป็นเบอร์เสื้อในตำนานของสโมสรแห่งนี้ แต่ทว่า ฮาจี้ กลับเดินเข้าๆออกๆระหว่างตัวจริงกับตัวสำรองซะมากกว่า เพราะในเรื่องของการปรับตัว และยังมีปัญหาในเรื่องอาการบาดเจ็บรุมเร้าในช่วงหลังๆ เลยทำให้ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่
แต่กระนั้นแล้ว เขาก็ยังฝากลูกยิงสวยๆเอาไว้กับ มาดริด ด้วยหลายประตู โดยเฉพาะกับลูกยิงไกล 40 หลาเกือบครึ่งสนามใส่ทีม โอซาซูน่า และทำแฮททริกใส่ทีม แอธเลติก บิลเบา มาแล้วด้วย

เบรสซา (อิตาลี)

เบรสซา (อิตาลี)

หลังจากที่เริ่มหมดความมั่นใจในการเล่นกับ มาดริด เขาจึงลองย้ายไปเล่นให้กับ เบรสซา อันเป็นทีมเล็กๆในอิตาลี ซึ่งที่นี่ตัวของฮาจี้สามารถระเบิดฟอร์มเทพออกมาได้อีกรั้ง แม้ว่าในฤดูกาลแรกกับเบรสซา เขาจะไม่สามารถช่วยทีมในการหนีตกชั้นได้ แต่สุดท้ายในฤดูกาลที่ 2 ของเขากับทีม และยังเป็นฤดูกาลสุดท้ายของจอมทัพทีมชาติโรมาเนียที่เล่นให้กับ เบรสซา เขาก็ทั้งยิงทั้งแอสซิสต์จนช่วยทีม เบรสซา คว้าอันดับ 3 ในเซเรียบีได้สำเร็จ ได้เลื่อนชั้นกลับไปยังเซเรียอาอีกครั้ง ซึ่งมันเป็นการอำลาทีมที่ยิ่งใหญ่อย่างมากเลยทีเดียว

บาร์เซโลนา (สเปน)

บาร์เซโลนา (สเปน)

ฮาจี้ หวังแก้มือครั้งที่เขาย้ายมาล้มเหลวกับ เรอัล มาดริด เมื่อ 3 ปีก่อน โดยหนนี้ ฮาจี้ เลือกที่จะทำในสิ่งทั่นกเตะหลายคนไม่ค่อยกล้าทำ นั่นก็คือการย้ายซบตักทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นอริตลอดชาติกับอดีตต้นสังกัดที่ตัวเองเคยเล่นให้ ซึ่งนั่นก็คือ บาร์เซโลนาฮาจี้ ย้ายมาเล่นให้กับ บาร์เซโลนา โดยหวังว่าจะได้ร่วมงานกับ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานผุ้จัดการทีมชาวดัตช์ที่เขาหลงใหล แต่กลับกลายเป็นว่า ครัฟฟ์ โดนปลดไปก่อน ทำให้ ฮาจี้ อดได้ลงเล่นให้กับครัฟฟ์อย่างน่าเสียดายแล้วสุดท้าย หนังม้วนเดิมจากสมัยเล่นให้กับ มาดริด ก็มาเกิดขึ้นที่นี่ เพราะตลอด 2 ปีกับทีมนั้น ฮาจี้ เจออาการบาดเจ็บรบกวนและเดินเข้าๆออกๆในทีมตัวจริงและตัวสำรองเป็นประจำ แล้วก็ย้ายออกไปแบบเหงาๆโดยที่แฟนบอลแทบจะจำเขาไม่ได้ว่าเคยอยู่กับทีม

กาลาตาซาราย (ตุรกี)

กาลาตาซาราย (ตุรกี)

นี่คือสโมสรแห่งสุดท้ายในอาชีพของ ฮาจี้ และตอนนั้นใครก็เริ่มคิดว่าด้วยวัย 30 ปีของเพลย์เมกเกอร์รายนี้ มันอาจจะยากแล้วที่จะเรียกฟอร์มสมัยอยู่กับ สเตอัว บูคาเรสต์ กลับมาเหมือนเดิม แต่ว่าพวกเขาคิดผิดเพราะตลอดเวลา 5 ปีที่อยู่กับ กาลาตาซาราย ฮาจี้คือพระเจ้าของทีมนี้ เขาคือจอมทัพหมายเลข 10 สุดคลาสสิกที่สามารถใช้เท้าซ้ายเป้นตัวชี้เป็นชี้ตายให้กับทีมได้เลยเขายิงประตูได้มากมายตลอด 5 ปีที่อยู่กับทีมทั้งจากจังหวะยิงไกล , การชิพบอล , การโซโล่เข้าไปยิง รวมถึงฟรีคิกพิฆาตที่แม่นยำราบจับวาง รวมถึงแอสซิสต์ให้เพื่อนลั่นสกอร์ก็ได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งแน่นอนว่าเขาฟาดแชมป์ลีกตุรกีไปครองถึง 4 สมัยซ้อนเลยทีเดียว รวมถึงแชมป์บอลถ้วยอีกหลายรายการอีกด้วย