ซัมเมอร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเป็นฉากหลังของความไม่แน่นอนรอบตัวผู้เล่นคนสำคัญอย่าง ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะชนพร้อมกับความปรารถนาที่จะออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก่อนตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดตัวลง
หนึ่งเดือนที่ผ่านมาอนาคตของ ป็อกบา ดูเหมือนจะใกล้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยทางฝั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯยูไนเต็ด ยืนยันว่า “ปีศาจแดง” ไม่ได้ถูกบังคับให้ขายมิดฟิลด์เฟรนช์แมน แต่การเก็งกำไรดูเหมือนว่าจะเริ่มต้นขึ้น
ขณะเดียวกัน มีเครื่องหมายคำถามเกี่ยวกับอนาคตของ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนด้วยเช่นกัน “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำเมืองผู้ดีรายงานว่า แมนฯยูไนเต็ด มีความกระตือรือร้นที่จะผูกมัด อดีตโกลด์ แอตเลติโก้ มาดริด ในศึกลา ลีกา สเปน กับสัญญาฉบับใหม่
แมนฯยูไนเต็ด ยินดีที่จะทำให้ เด เคอา เป็นผู้รักษาประตูที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก แต่เขาก็ยังไม่ได้กำหนดอนาคตของตัวเองกับสโมสร เมื่อเขาเข้าสู่ปีสุดท้ายของสัญญาฉบับปัจจุบัน และฝีมือของเขาก็พร้อมไปเป็นมือ 1 ให้กับทีมชั้นนำทั่วโลกได้อย่างสบาย
เกิดอะไรขึ้นกับ ป็อกบา และ เด เคอา เรายังไม่ต้องพูดถึง โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียม และ อเล็กซิส ซานเชซ ปีกทีมชาติชิลี ซึ่งอาจพิสูจน์ได้ว่า อนาคตของนักเตะเหล่านี้อยู่ในมือของ โซลชา แต่ตราบใดที่ตลาดนักเตะยังไม่ปิดตัวลงนั้น มันก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนในวงการฟุตบอล
แต่มันขึ้นอยู่กับ โซลชา ที่จะจัดการว่ามันส่งผลกระทบกับห้องแต่งตัวอย่างไร ความท้าทายของเขาคือการนำจิตวิญญาณของทีม และความสามัคคีกลับมา ซึ่งสนับสนุนการปรับตัวของ แมนฯยูไนเต็ด ในช่วง 2-3 เดือนแรก
แต่มันจะไม่ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนที่มีบุคลิกเข้มแข็งเข้ามาเกี่ยวข้องอย่าง ป็อกบา, เด เคอา และ ลูกากู ซึ่งเป็นนักเตะตัวหลักทั้งหมดในห้องแต่งตัว ถ้าพวกเขาจากไป โซลชา จะมีงานสร้างทีมใหม่ที่สำคัญอยู่ในมือ หากพวกเขาอยู่ นายใหญ่ “ปีศาจแดง” ต้องมั่นใจว่า พวกเขาจะอยู่ในกฎระเบียบเดียวกันกับผู้เล่นคนอื่น
ความไม่สอดคล้องกันของ ป็อกบา ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ แม้เขาจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนมีชื่ออยู่ในทีม PFA ของปีที่แล้ว ในขณะที่ เด เคอา ในฤดูกาลที่ผ่านมา ผลงานตกต่ำลงอย่างน่าตกใจ ตามสถิติของ Opta ระบุว่าเขาทำผิดพลาดมากขึ้นนำไปสู่การเสียประตูมากกว่า 5 ลูก
ขณะที่ผลงานของ ลูกากู ในพรีเมียร์ลีก โดยรวมแล้ว อดีตดาวยิง เอฟเวอร์ตัน ก็ยังดูไม่ท็อปฟอร์มนัก ส่วน มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าดาวรุ่งชาวอังกฤษ ยืนยันว่าอารมณ์ของทีมเป็นไปในเชิงบวกต่อการแข่งขันซีซั่นใหม่
แรชฟอร์ด ระบุว่าผู้เล่น แมนฯยูไนเต็ด ทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อทำให้ทุกอย่างถูกต้อง แต่ยังมีงานที่ต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ยึดติดกับความล้มเหลวจากฤดูกาลที่ผ่านมา และเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลนัดแรกกับ เชลซี ในเดือนหน้า โซลชา ต้องแน่ใจว่าผู้เล่นของเขาถูกนำตัวไปในทิศทางเดียวกัน
อาชีพโค้ชของ โซลชา เริ่มต้นขึ้นในสถาบันฝึกฟุตบอลเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะวางเยาวชนให้เป็นหัวใจของแนวทางของเขาเองเพื่อพัฒนาต่อไปในอนาคต และก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของ “ปีศาจแดง”
ฤดูร้อนนี้แทนที่ แมนฯยูไนเต็ด จะเซ็นสัญญากับดาราที่โด่งดัง แต่สโมสรได้จัดลำดับความสำคัญให้กับนักเตะหนุ่มผู้กระหายในสหราชอาณาจักร นำโดย ดาเนียล เจมส์ ปีกชาวเวลส์ จาก สวอนซี และ อารอน วาน บิสซาก้า แบ็คขวาดาวรุ่งชาวอังกฤษจาก คริสตัล พาเลซ รวมไปถึงการจับตาดูสถานการณ์ของ ชอน ลองสต๊าฟฟ์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
นักเตะที่ย้ายมาใหม่อย่าง เจมส์ และ วาน บิสซาก้า ไม่ได้เป็นเพียงนักเตะดาวรุ่งแค่ 2 ราย ที่เข้าร่วมในทีมชุดแรก ฤดูกาลที่แล้ว โซลชา ได้ดึงตัว เมสัน กรีนวูด, เจมส์ การ์เนอร์, อังเคล โกเมส และ ธาฮิต ชอง ซึ่งทั้ง 4 ราย ได้เดินทางไปออสเตรเลียเพื่อทัวร์ช่วงพรีซีซั่นของ แมนฯยูไนเต็ด และก็มี อักเซล ทวนเซเบ กองหลังที่ทำลงานน่าประทับใจในการยืมตัวที่ แอสตัน วิลล่า เมื่อปีที่แล้ว
นโยบายการผลักดันนักเตะเยาวชนครั้งแรกเป็นนโยบายที่น่าชื่นชม ซึ่งนับเป็นประเพณีของ แมนฯยูไนเต็ด แต่จะใช้ได้เฉพาะเมื่อดาวเด่นอายุน้อยของ “ปีศาจแดง” ได้รับการฝึกสอน และการชี้นำที่ถูกต้องเพื่อก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่
กรีนวูด, การ์เนอร์, โกเมส และ ชอง ล้วนเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่พวกเขาอยู่ไกลจากการเป็นนักเตะที่สามารถใช้งานได้ทันที และมันเป็นสิ่งเดียวกันกับ เจมส์ และ วาน บิสซาก้า กำลังเจอบททดสอบ มันเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนในการนำผู้เล่นอายุน้อยเข้ามาในทีม
แต่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะไขความผิดพลาดออกไป มีเส้นแบ่งระหว่างโอกาส และการเปิดรับมากเกินไป ผู้เล่นดาวรุ่งของ แมนฯยูไนเต็ด ต้องมีหัวหน้าทีมที่มีประสบการณ์รอบตัวพวกเขา และพวกเขาจะต้องมีการจัดการที่รอบคอบเช่นกัน
แน่นอนว่าภูมิหลังของ โซลชา ในการสอนเยาวชนจะช่วยได้แน่นอน แต่เมื่อพูดถึงการนำผู้เล่นเยาวชนเข้าสู่ระดับอาวุโสประสบการณ์ของเขาก็มี จำกัด โค้ชชาวนอร์เวย์ สามารถแสดงให้เห็นว่า เขาเป็นคนที่เหมาะสมในการจัดการการเปลี่ยนแปลงหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของโครงการ แมนฯยูไนเต็ด ครั้งนี้น่าจะขึ้นอยู่กับบนสนามพื้นที่ด้านหลังเป็นหลักที่ต้องการความสนใจ คือนักเตะในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟอย่างไม่ต้องสงสัย และชื่อของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังของ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ถูกโยนเข้ามาทันที
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียไปมากถึง 54 ประตูในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งมากกว่า คริสตัล พาเลซ และ นิวคาสเซิล ทีมอันดับที่ 12 และ 13 ตามลำดับ ปัญหานั้นชัดเจนตลอดซีซั่นที่ผ่านมา และพวกเขาก็มีปัญหาโดยเฉพาะในช่วงสองเดือนสุดท้าย เมื่อเสียประตูไปถึง 22 ลูก 11 เกมในการแข่งขันทั้งหมด พวกเขายังไม่ได้เก็บคลีนชีตตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
การเซ็นสัญญากับ วาน บิสซาก้า เป็นขั้นตอนแรกในการปรับปรุงสถานการณ์ โดยดาวเตะวัย 21 ปี ทำผลงานยอดเยี่ยมในการป้องกันให้กับ พาเลซ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งการโหม่ง และการเข้าสกัด ซึ่งสถิติของเขานั้น ดีกองหลังพรีเมียร์ลีกอีกหลายๆคน
แต่ปัญหาจะลงไปที่โครงสร้างเช่นเดียวกับบุคลากรในฤดูกาลที่ผ่านมา การป้องกันก็ไม่ได้รับความคุ้มครองเพียงพอจากแดนกลางโดย เนมันยา มาติช กองกลางทีมชาติเซอร์เบีย ดิ้นรนในบทบาทโฮลดิ้งมิดฟิลด์ และ ป็อกบา ดูเหมือนลังเลที่จะติดตามและทำงานสกปรก
ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ โซลชา ในการพา แมนฯยูไนเต็ด กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ในวงการลูกหนังอีกครั้ง
