คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย กับภารกิจใหม่ในการยิงประตูแทน ลูกากู-แวร์เนอร์

คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย กับภารกิจใหม่ในการยิงประตูแทน ลูกากู-แวร์เนอร์

การสูญเสีย โรเมลู ลูกากู และ ติโม แวร์เนอร์ ไปจากทีมนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับ เชลซี แต่ถ้าหากจะมีผู้เล่นสักคนหนึ่งที่สามารถเลียริมฝีปากของเขาอย่างเงียบๆ แต่แฝงไปด้วยความดีใจที่หมดเสี้ยนหนามที่ขวางทางเขาได้เสียที เราอาจจะมองว่าตัวของ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย นี่แหละตอนนี้ ฮัดสัน-โอดอย ก็อายุได้ 20 ปีแล้ว ซึ่งปีกดาวรุ่งอายุน้อยรายนี้ ยังคงเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่เล่นบอลได้ฉลาดที่สุดในฟุตบอลลีกของประเทศอังกฤษ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแส “โอดอยมาเนีย”ที่เคยเกิดขึ้นรอบๆ ตัวเขามาตลอดนั้น มันก็ได้ลดลงไปเป็นอย่างมาก จากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากบาเยิร์น มิวนิค เคยแสดงความต้องการที่จะเซ็นสัญญากับเขาด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 แถมคิดที่จะยกเสื้อหมายเลข 10 ให้กับฮัดสัน-โอดอยด้วยอีก แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ไม่เกิดขึ้น และในตอนนี้ โอดอย ก็ต้องพยายามดิ้นรนอย่างหนักเพื่อหาโอกาสลงเล่นภายใต้การทำทีมของผู้จัดการทีมสองคนของเชลซี อย่างช่วงแรกนั้นเขาก็เจอ แฟรงค์ แลมพาร์ด ดองไม่ให้ลงเล่น และเมื่อมาถึงยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล เขาเองก็ยังไม่ได้ลงเล่นแบบต่อเนื่องด้วยเช่นกันว่ากันว่าเพราะอาการบาดเจ็บของเขานี่แหละ ที่มันทำให้เขาไม่สามารถโชว์ศักยภาพได้เต็มที่ มันเป็นจุดอ่อนอันใหญ่หลวงที่ทำให้ผู้จัดการทีมไม่ค่อยกล้าเสี่ยงกับเขาเท่าไหร่อย่างไรก็ตาม หลังการมาถึงของ ทูเคิ่ล ตัวของ ฮัดสัน-โอดอย ก็ได้กลับมาฟิตแข็งแรงดีตามเดิม แต่ก็ยังถูกจำกัดโอกาสในการจะให้เขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริง โดยแค่ในพรีเมียร์ลีกนั้น เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่ 3 เกมเท่านั้น (นับเฉพาะในช่วงก่อนที่ลูกากูและแวร์เนอร์จะบาดเจ็บ) โดยความเชื่อมั่นในช่วงแรกๆ ของ ทูเคิ่ล ที่มีต่อเขานั้นก็ได้ค่อยๆ จางหายไปอย่างรวดเร็วกองเชียร์เชลซีจำนวนมาก มีเรียกร้องให้ ฮัดสัน-โอดอย ได้รับโอกาสในการลงเล่นมากขึ้นเช่นกัน เพื่อจะได้พิสูจน์ว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง และเมื่อลูกากูและแวร์เนอร์บาดเจ็บกันทั้งคู่แบบนี้ มันก็ถึงเวลาแล้วที่นักเตะวัย 20 ปีรายนี้ จะได้พิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรสำหรับแรงสนับสนุนจากแฟนบอลขชองเชลซี

คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย - กับสถิติในการลงเล่นตลอดฤดูกาล 2021-22

คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย – กับสถิติในการลงเล่นตลอดฤดูกาล 2021-22

ลงเล่นทั้งหมดทุกรายการ: 8 นัด (553 นาที)ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก: 3 (217 นาที)เล่นเต็ม 90 นาที: 0 นัดทำประตูได้: 1 ลูกแอสซิสต์: 1 ครั้ง

ในเกมที่ เชลซี บุกถล่มนอริชซะเละเทะ 7-0

ในเกมที่ เชลซี บุกถล่มนอริชซะเละเทะ 7-0

เขาเองก็ทำประตูลูกแรกให้กับตัวเองได้ในฤดูกาลนี้ แถมยังเป็นคนเปิดยัดเข้ามาโดนตัวของ แม็กซ์ อารอนส์ กระดอนเข้าประตูตัวเองไป แต่กระนั้นแล้วถึงจะยิงได้ในเกมกับนอริช ปัญหาก็คือเขาไม่ได้โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น หรือดึงเอาทุกสายตาและสปอตไลท์ให้มาจับตาดูอยู่ที่เขาเลย มันไม่ได้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนเลยว่านักเตะรายนี้มีออร่าของความเป็นซูเปอร์สตาร์อยู่ในตัวเขาควรได้รับโอกาสมากขึ้น เพื่อที่จะได้เค้นฟอร์มเก่งออกมาเรือยๆ โดยเฉพาะกับในวันที่ เชลซี จะต้องเดินทางไปเยือนนิวคาสเซิ่ลในวันเสาร์นี้ แวร์เนอร์และลูกากูเองก็ไม่อยู่ คริสเตียน พูลิซิชเองก็ยังไม่พร้อมที่จะกลับมาในตอนนี้ และผลงานของฮาคิม ซิเยคในเกมกับเซาแธมป์ตัน ก็ชัดเจนแล้วว่าเขาเล่นไม่ออก แล้วก็น่าจะทำให้เขากลับมาเป็นตัวสำรองเช่นเดิมนั่นหมายถึงว่า ภาระการสร้างเกมรุก การยิงประตู การแอสซิสต์จะตกเป็นของฮัดสัน-โอดอย ไปโดยปริยาย ซึ่งสไตล์การเล่นแบบเพลย์เมกเกอร์ มันเป็นสิ่งที่เชลซีเรียกร้องจากตัวของ ฮัดสัน-โอดอย มาตลอดสองปีที่ผ่านมา ประเด็นอยู่ที่ว่า ฮัดสัน-โอดอย โปรดปรานในการเล่นเป็นตัวริมเส้นด้านซ้าย แต่ระบบของทูเคิ่ลในตอนนี้นั้น เขาได้ใช้งาน เบน ชิลเวลล์ ลงเล่นเป็นวิงแบ็ค ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตำแหน่งตัวริมเส้นนั้น โอดอย จะต้องทำใจยอมรับว่าเขาจะไม่ได้เล่นและต้องไปยืนเป็นกองหน้าเต็มตัว มันก็อยู่ที่ตัวของเขาแหละว่า เขาจะปรับตัวได้แค่ไหน!