โรเมลู ลูกากู หรือจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่เชลซีตามหา !

โรเมลู ลูกากู หรือจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่เชลซีตามหา !

“เมื่อไหร่ที่วันนั้นมาถึง วันที่ผมจะได้ลงเล่นในสนามแห่งนี้ นั่นจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตของผม ที่คุณจะได้เห็นผมร้องไห้ ผมจะประสบความสำเร็จกับที่นี่ ผมไม่ได้ฝันเฟื่อง ผมจะได้เล่นให้กับที่นี่ในสักวันหนึ่ง ผมแน่ใจ”เมื่อครั้งที่ โรเมลู ลูกากู มาเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ ครั้งแรกในปี 2010 เขาแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จากนั้นเด็กหนุ่มรายนี้ที่เพิ่งย้ายมาจาก อันเดอร์เลชท์ ก็พูดอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการเป็นซุปเปอร์สตาร์คนต่อไปของเชลซี และจะเป็นกองหน้าชั้นนำของทีมอีกด้วยตอนนี้ เรารู้ว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามแผนสำหรับลูกากูในตอนสมัยที่อยู่กับเชลซีอย่างแน่นอน การลงเล่น 15 นัดไม่ได้ผลที่ดีอะไร แม้แต่การทำประตูให้ได้สักประตูเดียวก็ไม่มี และกลับกัน แฟนบอลยังต้องเห็นว่าเขาถูกปล่อยยืมตัวออกไป ก่อนที่จะถูกขายให้เอฟเวอร์ตันในปี 2014 แบบถาวรในที่สุด7 ปีผ่านไปตั้งแต่นั้นมา เขาก็ไม่เคยกลับมาในฐานะนักเตะของเชลซีอีกเลย แต่เหมือนว่าโชคชะตากำลังจะนำพาให้ ลูกากู ในวัยฉกรรจ์ เจนจัดสนาม ให้กลับมาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งแล้ว

เมื่อ “นิวดร็อกบา” กำลังจะกลับมา ...

เมื่อ “นิวดร็อกบา” กำลังจะกลับมา …

ในปี 2011 เมื่อครั้งที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา กำลังเตรียมตัวที่จะย้ายออกจากสโมสร เชลซี ก็ได้ตัดสินใจว่าพวกเขาคงต้องรีบหากองหน้าตัวเป้ารายใหม่มาทดแทน และแหล่งข่าวในเวลานั้นก็ได้ยืนยันว่า ลูกากู อาจจะได้รับโอกาสในการก้าวเข้ามาเติมช่องว่างที่ดร็อกบากำลังจะทิ้งไว้ว่ากันว่า ลูกากู ในเวลานั้นได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ตัวเองได้เป็นตัวแทนของ ดร็อกบา แต่ด้วยอายุอานามที่ยังไม่มาก มันก็คงจะยากนิดหน่อยกับการที่ลูกากู จะต้องทำหน้าที่แทนตำนานแมลงสาบอย่างดร็อกบาการที่เขาไม่สามารถทำประตูได้แม้แต่ประตูเดียวในการลงเล่นให้กับเชลซี มันย่อมส่งผลเสียต่อเครดิตของ ลูกากู อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช่ เรากำลังพูดถึงหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดในยุคนี้ ลูกากู ทุกวันนี้เป็นกองหน้าระดับโลก ผ่านสังเวียนระดับโลกมาก็มากมาย และเขากำลังจะถูกจดจำว่าเป็นตำนานกองหน้าผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลอีกด้วย แต่ท่ามกลางความสำเร็จทั้งหมดของเขานั้น เหมือนกับว่าลูกากู ยังไม่ได้ทำอะไรบางอย่างที่ยังคาใจอยู่ นั่นคือการกลับไล่ตามความฝันที่ “เดอะ บริดจ์” นั่นเองย้อนกลับไปตอนปี 2010 นั้น แฟนบอลที่ทันเห็นเหตุการณ์ในเวลาดังกล่าว ก็น่าจะรู้สึกเหมือนกันว่า กาพยายามดันตัวของลูกากูกับเชลซี มันดูจะเร่งรีบกันเกินไปหน่อย แถมเมื่อถูกขนานนามว่าเป็น ‘เบบี้ ดร็อกบา’ มันก็ยิ่งทำให้เขากดดันเมื่อ 11 ปีก่อน เขายังเป็นเด็กอยู่ และเมื่อเขาได้รับมอบหมายให้รับช่วงต่อจากตัวของไอด้อลกองหน้าระดับตำนานที่ตัวของ ลูกากู ชื่นชมมาตลอดอย่าง ดร็อกบา มันก็ไม่น่าแปลกใจที่การแบกความกดดันไว้บนบ่าของเขานั้น มันจะไม่ได้ผลเขาต้องการเวลาเพื่อหาโอกาสลงเล่นในลีกใหญ่ กับทีมชุดใหญ่ และนั่นคือสิ่งที่ให้เวสต์บรอมและเอฟเวอร์ตันหยิบยื่นให้เขา ตอนนั้นลูกากูมีโอกาสยืมตัวไปเล่นกับทั้งสองทีม เขาทุ่มเททำงานในสนามอย่างสุดความสามารถ โดยในช่วงที่ยังเล่นแบบยืมตัวอยู่นั้น เขายังคงมีความหวังว่าตัวเองจะสามารถประสบความสำเร็จที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ และยังคงรอโอกาสที่จะได้ลงไปแสดงความสามารถ แต่ก็ไม่เกิดขึ้นจนเขาต้องย้ายทีมแบบถาวรเชลซี พยายามเสนอเส้นทางในการทำให้เขาได้กลับไปยังสโมสรในปี 2017 แต่การตามล่า ลูกากู ของพวกเขาช้าเกินไป และจบลงด้วยการที่ต้องเห็นเขาย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

คราวนี้จะไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นอีก

คราวนี้จะไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นอีก

เชลซีกำลังพยายามจะกล่อม ลูกากู เจ้าของผลงานยิง 30 ประตูให้กับอินเตอร์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ให้กลับมาอยู่กับทีม เขาอาจจะเป็นจิ๊กซอว์ลิงค์ที่ทีมยังขาดอยู่ และในที่สุดพวกเขาก็กำลังจะได้ศิษย์เก่ารายนี้กลับมาอยู่กับทีม เขาจะได้กลับมาเติมเต็มความฝันที่ตัวของเขาอยากจะประสบความสำเร็จกับเชลซีตั้งแต่แรก แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานเกือบ 10 ปี แต่ก็ยังไม่สายแน่นอน !