เมื่อพลพรรค ดาบคู่ มีลุ้นไปลุยฟุตบอลยุโรป

เมื่อพลพรรค ดาบคู่ มีลุ้นไปลุยฟุตบอลยุโรป

คริส วิลเดอร์ ผู้จัดการทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจจะไม่เคยพูด หรือคิดแบบนั้น แต่เรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อของพลพรรค “ดาบคู่” ในซีซั่นนี้อาจทำให้พวกเขาได้ไปเล่นในฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้าก็เป็นได้

จากสถิติ ผลบอลย้อนหลัง ย้อนกลับไป 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา เชฟฟิลด์ ภายใต้การนำทัพของ วิลเดอร์ ยังคงเล่นอยู่ในลีก วัน แต่ในเวลานี้ พวกเขารั้งอยู่ในอันดับ 5 ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกเหลือทีมอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล และมีความฝันที่จะได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 130 ปีของสโมสร

ในตอนนี้ มีเพียง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงเพียงทีมเดียวเท่านั้น ที่เสียประตูน้อยกว่า เชฟฟิลด์ และในขณะเดียวัน “ดาบคู่” มีแต้มตามหลัง เชลซี ทีมอันดับ 4 ซึ่งอยู่ในโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพียง 2 แต้มเท่านั้น แต่ วิลเดอร์ ยืนยันว่าเขายังไม่ได้คิดถึงฟุตบอลยุโรปเลยแม้แต่น้อย

นายใหญ่ เชฟฟิลด์ กล่าวกับ “บีบีซี” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “ฟุตบอลยุโรปยังไม่ใช่สิ่งที่เราคิด มันเป็นเรื่องของอันดับตอนจบฤดูกาล และทุกอย่างจะชัดเจนกับทั้ง 20 ทีมในเดือนพฤษภาคมนี้ ดังนั้น มันเป็นเหตุผลเดียวของพวกเรา”

แต่ด้วยครึ่งหนึ่งของการแข่งขันที่เหลือฤดูกาลนี้ของ เชฟฟิลด์ นั้น พวกเขาจะเจอกแต่ทีมครึ่งล่างของตารางคะแนน ซึ่งมันอาจทำให้ในใจของบรรดาผู้เล่น “ดาบคู่” คิดอยากจะเจอกับทีมอย่าง เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน หรือ บาเยิร์น มิวนิค มากกว่าที่จะเจอทีมอย่าง มายอร์ก้า หรือ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน

หลังจากที่ เชฟฟิลด์ เปิดรัง บรามอล เลน เอาชนะ บอร์นมัธ 2-1 ในเกมลีกเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้บรรดาสาวก “ดาบคู่” ต่างร้องเพลงอย่างสุดเสียงว่า “เรากำลังจะไปฟุตบอลยุโรป ตามเราให้ทัน เรากำลังจะไป นาโปลี”

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล เชฟฟิลด์ ถูกยกให้เป็นทีมเต็ง 1 ที่จะตกชั้นในปีนี้ หลังจากที่พวกเขาตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกไปนานถึง 12 ปี และราคาที่บ่อนพนันเปิดไว้ว่า “ดาบคู่” จะจบใน 6 อันดับแรกนั้น อยู่ที่ 100-1 เลยทีเดียว

ราคา 100-1 มันเป็นอัตราเดียวกับที่เปิดไว้ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะย้ายมาคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ทีมชาติสวิตเซอร์แลด์ จะคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 และ คีเลียน เอ็มบับเป้ ยอดกองหน้าดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จะย้ายมาเล่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส

เชฟฟิลด์ ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก ไปเมื่อปี 2007 จากนั้น พวกเขาใช้เวลา 4 ฤดูกาลในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ และตกไปเล่นในลีก วัน 6 ฤดูกาล และกลับมาเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อีกครั้งในปี 2017 ก่อนจะได้กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้

สำหรับสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจอย่าง เชฟฟิลด์ ซึ่งเคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดในปี 1898 และจบอันดับที่ 6 ในปี 1975 นั้น พวกเขาหมดหวังอย่างมากว่า ทีมจะกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง ก่อนที่ วิลเดอร์ จะเข้ามา และพา “ดาบคู่” ไปในทิศทางที่ดีขึ้น

แซม แพร์รี บรรณาธิการของ DEM Blades fanzine กล่าวว่า “มันยากที่จะบอกว่าเราแย่แค่ไหนก่อนที่ คริส จะเข้ามาคุมทีม มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อที่จะเข้าไปดูเกม และมีหลายครั้งที่เราไม่ประสบความสำเร็จแม้จะมีความพยายามอย่างดีที่สุด”

“คริส เข้าใจสโมสร และเขาเข้ามาช่วยชีวิตเรา เขาเป็นผู้จัดการทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หลังยุคที่ย่ำแย่ที่ดีที่สุดคนหนึ่ง และนี่คือทีมที่ดีที่สุดของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน”

วิลเดอร์ ยืนยันว่าเป้าหมายแรกของพวกเขาคือ 40

ปัจจุบัน เชฟฟิลด์ เก็บไปแล้ว 39 คะแนน และ วิลเดอร์ ยืนยันว่าเป้าหมายแรกของพวกเขาคือ 40 ซึ่งถูกมองว่า มันเป็นคะแนนมาตรฐานที่จำเป็นในการรอดตกชั้น แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวาร “ดาบคู่” ระบุว่า เขา และเพื่อนร่วมมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไป

“ถ้าเราเก็บ 40 คะแนนได้แล้ว เราจะไม่หยุด ผู้คนอาจคิดว่าเรามีความสุข แต่เราต้องการต่อสู้เพื่อไปเล่นในศึกฟุตบอลยุโรป เราอาจมองไปถึงยูโรปา ลีก และถ้าเราไปทำตรงนั้นได้ ทำไมเราจะไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ได้หละ ผู้คนจะหัวเราะเยาะเราถ้าเราพูดแบบนั้นก่อนเปิดซีซั่น เพราะเราเป็นตัวเต็งที่จะตกชั้น แต่ดูตำแหน่งของพวกเราตอนนี้สิ”

ขณะเดียวกัน การเซ็นสัญญากับ แซนเดอร์ เบอร์เก้ กองกลางชาวนอร์เวย์วัย 21 ปี เกงค์ สโมสรดังในลีกเบลเยียม ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ เชฟฟิลด์ ที่จะผลักดันให้สโมสรก้าวไปข้างหน้า และนี่เป็นครั้งที่ 5 แล้วที่พวกเขาทำลายสถิติการซื้อตัวนักเตะในรอบ 7 เดือน

เบอร์เก้ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในเกมกับ บอร์นมัธ และสาวก “ดาบคู่” ก็แต่งเพลงเชียร์ประจำตัวเขาไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแฟนๆกำลังมีความสุข และคาดหวังว่าทีมจะได้ไปเล่นในฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า

หาก เชฟฟิลด์ ได้ไปเล่นในฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า พวกเขามีงานใหญ่ที่ต้องทำนั่นคือการหานักเตะใหม่เข้ามาช่วยหมุนเวียนผู้เล่นหลักอย่าง แจ๊ค โอคอนเนลล์, เอ็นดา สตีเว่นส์ และ จอร์จ บัลด็อค ที่ได้ลงสนามไปทุกนาทีในเกมลีกซีซั่นนี้

แพ็ต เนวิน อดีตปีกทีมชาติสก็อตแลนด์ ของ เชลซี กล่าวว่า “ถ้า เชฟฟิลด์ ได้ไปเล่นในฟุตบอลยุโรป ผมคิดว่าพวกเขาจะต้องเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่เพิ่มเติม และมันจะเป็นปัญหาใหญ่ในฤดูกาลหน้า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำแบบนั้น คุณต้องมี 2 ทีมเพื่อเล่นในรายการอื่นๆ ผมคิดว่า พวกเขาจะต้องซื้อนักเตะอีก 3-4 คนน่าจะเพียงพอ”

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 10 ครั้งจาก 28 ครั้งเท่านั้น ที่สโมสรจะจบฤดูกาลที่สูงขึ้นเมื่อพวกเขาไปเล่นในการคัดเลือกรอบคัดเลือกของศึกยูโรป้า ลีก อาทิ 2 ปีก่อน เบิร์นลี่ย์ จบอันดับ 6 และได้ไปเล่นในรอบคัดเลือกยูโรป้า ลีก แต่ในฤดูดาลนั้น พวกเขาจบซีซั่นด้วยอันดับ 15

ในปี 2012-2013 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ไปเล่นในรอบคัดเลือกของศึกยูโรป้า ลีก แต่พลพรรค “สาลิกาดง” ต้องจบอันดับ 16 ในตารางคะแนน ซึ่งมันเป็นตัวอย่างที่ เชฟฟิลด์ ต้องรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ให้ดี

อย่างไรก็ตาม แพร์รี่ คิดว่าแฟนๆของ เชฟฟิลด์ จะสนุกกับการผจญภัย และพลพรรค “ดาบคู่” จะทำผลงานได้ดี โดยระบุว่า “ผมเคยได้ยินว่า คุณไม่ต้องการไปเล่นในฟุตบอลยุโรปหรอก ผมเข้าใจว่า ฟุตบอลยุโรปสามารถทำลายโอกาสในการอยู่รอดในลีกสูงสุดได้”

“นอกจากเกมกระชับมิตรแล้ว เรายังไม่เคยไปแข่งกับทีมเหล่านั้นอย่างเป็นทางการเลย ดังนั้น ผมจึงนึกภาพที่เราออกไปเที่ยวที่เนเปิลส์ และแฟนๆ ต่างพากันไปร่วมเชียร์ทีม ดื่มเบียร์ และร้องเพลงไปในยามเย็นอย่างมีความสุข”

ขณะเดียวกัน วิลเดอร์ พูดถึงการพลิกผันเรื่องราวที่ดีจริงๆให้กลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ และหากพวกเขารักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ไว้ได้แล้ว พวกเขาก็สามารถเริ่มฝันถึงยุโรปได้เช่นกัน

ขณะเดียวกัน วิลเดอร์ พูดถึงการพลิกผัน