เซอร์ สแตนลีย์ แมทธิวส์ (1956)
เริ่มที่คนแรกเลยก็แล้วกัน ที่ผ่านมานั้นประเทศอังกฤษ เคยได้รับเครดิตในเรื่องที่ว่าพวกเขาเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล เป็นประเทศที่มีการก่อตั้งลีกระดับมืออาชีพเป็นที่แรก และยังมีพูดถึงเรื่อง ‘ฟุตบอลได้กลับสู้บ้านเกิดที่แท้จริง’ อยู่บ่อยครั้งเวลาอังกฤษเข้ารอบลึกๆในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่ มีคนจำนวนมากยกย่องทีมชาติอังกฤษชุดที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกปี 1966 แต่มักจะมีคนมองข้ามว่า เซอร์ สแตนลีย์ แมทธิวส์ เป็นผู้เล่นคนแรกสุดในประวัติศาสตร์ที่ได้บัลลงดอร์เชียวนะ
หลุยส์ ซัวเรซ (1960)
คุณรู้หรือไม่ว่า หลุยส์ ซัวเรซ (คนอุรุกวัย) ที่คุณรู้จักนั้น มันไม่ใช่ หลุยส์ ซัวเรซ คนแรกที่ประสบความสำเร็จที่บาร์เซโลน่า ยอดทีมของลีกสเปนหลุยส์ ซัวเรซ มิรามอนเตส ได้รับฉายาว่าเป็น ‘สถาปนิก’ เนื่องจากการเล่นที่สง่างามของเขา เป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวต่ำที่เคลื่อนที่ในสนามได้ดี ผ่านบอลแม่นยำ และเล่นอยู่ในทีมชาติสเปนชุดที่ได้แชมป์ยูโร 1964 อีกด้วย และนอกจากนี้เขายังเป็นจอมทัพตัวหลักของ อินเตอร์ มิลาน ชุดที่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ(แชมเปี้ยนส์ลีก) มาครองถึง 2 สมัยติดต่อกันด้วยเราค่อนข้างมั่นใจว่า ซัวเรซ คนนี้ไม่เคยใช้ “ฟัน” กัดใครตลอดเส้นทางอาชีพของเขาแน่นอน แน่นอนว่าไม่ได้กัดหัวไหล่หรือคอใครซักคนแน่นอนแบบที่ ซวัวเรซอุรุกวัยเคยทำ
โจเซฟ มาโซปุสต์ (1962)
เมื่อนึกถึงตำนานของเชโกสโลวะเกียก่อนที่ประเทศนี้จะแบ่งออกเป็นสองภูมิภาค โจเซฟ ไบคาน มักจะเป็นนักเตะที่ได้รับความสนใจมากกว่าใคร เพราะเขาทำประตูได้ 1,812 ประตูเลยทีเดียว ! แต่ มาโซปุสต์ ก็มีชื่อเสียงเช่นกัน แต่เขามักจะถูกมองข้าม แม้จะเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในรุ่นของเขา และยังเคยเอาชนะ ยูเซบิโอ ตำนานกองหน้าชาวโปรตุเกสจนได้รางวัลบัลลงดอร์ไปนอนกอดมาแล้ว แต่ก็ยังโดนเมิน ไม่ได้มีชื่อเสียง ไม่ค่อยมีคนพูดถึงเท่าไหร่ในสมัยนี้ น่าเห็นใจเขาจริงๆ
ฟลอเรียน อัลเบิร์ต (1967)
เช่นเดียวกับ มาโซปุสต์ เพราะตัวของ อัลเบิร์ต ก็ถูกลืมไปจากประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน เพราะเนื่องจากสัญชาติของเขานี่แหละที่มันไม่ดังเท่าไหร่อัลเบิร์ต เป็นตำนานนักเตะชาวฮังการี และเริ่มปรากฏตัวบนเวทีระดับโลกในรุ่นหลังจาก เฟเรนซ์ ปุสกัส ระเบิดฟอร์มเอาไว้ (ปุสกัสเองก็เป็นสุดยอดผู้เล่น แต่ไม่เคยได้บัลลงดอร์) ในเวลานั้นเขาย้ายไปเล่นให้กับ เรอัลมาดริด และยังตัดสินใจเปลี่ยนมาเล่นให้กับทีมชาติสเปนแทนในภายหลังด้วยคุณคิดว่าอัลเบิร์ต เป็นยังไงล่ะ ในสมัยยังค้าแข้ง เขาได้รับฉายาว่า ‘จักรพรรดิ’ เลยทีเดียวกับบทบาทแม่ทัพในแดนกลาง เขามีลีลาการเล่นสวยงามมาก ได้บัลลงดอร์ด้วย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ดังเท่าไหร่ …
โอเล็ก บล็อกคิน (1975)
ก่อนที่ อันเดรย์ เชฟเชงโก้ จะได้รับรางวัลบัลลงดอร์ ในปี 2004 ก็มีกองหน้าในตำนานของทีม ดีนาโม เคียฟ อีกรายหนึ่งที่มีชื่อว่า โอเล็ก บล็อกคิน อยู่ด้วยอีกคน ซึ่งเขาทำประตูได้มากเช่นกันอดีตแข้งทีมชาติสหภาพโซเวียต ยิงประตูได้มากกว่า 300 ประตูในอาชีพค้าแข้งของเขา และในขณะเดียวกัน แม้ว่าจะยิงประตูได้เพียบในระดับสโมสร แต่ความสำเร็จกับทีมชาติของเขายังห่างไกลจากการเป็นแชมป์มาก เขาก็คว้าเกียรติยศได้มากมายในระดับสโมสรและได้บัลลงดอร์มาครองด้วย แต่กล่าวกันว่าถ้าเขาได้แชมป์กับทีมชาติสักรายการ ชีวิตเขาจะพลิกไปอีกแบบเลยจริงๆ