1. ความมุ่งมั่นและยึดมั่นในเป้าหมายเสมอ ถือว่าเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จที่ตัวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ใช้มันมาตลอด และแน่นอนว่าความหลงใหลในการคว้าแชมป์นั้น มันก็เป็นอีก 1 สิ่งที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ใช้มันตะกายขึ้นมาจนกลายเป็นยอดแข้ง นอกจากนี้ ซาลาห์ ยังเป็นนักเตะที่มีความปรารถนาในการจะก้าวขึ้นมาเป็นฟุตบอลอาชรีพตั้งแต่เขายังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ และเมื่อตอนเขาอายุประมาณแปดขวบเท่านั้น เขาก็ได้ดูการแข่งขันฟุตบอลถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก และอยากมีโอกาสเป็นเหมือนนักเตะที่เก่งๆของลิเวอร์พูลในยุคนั้นมาโดยตลอดเมื่อได้ลงเล่นฟุตบอลกับเด็กคนอื่น ๆ ในละแวกบ้านตัวเอง ซาลาห์ มักจะคิดว่าเขาเองก็อาจจะเก่งพอ ๆ กับซีดานหรือโรนัลโด้ บราซิลได้ด้วยเช่นกัน หลายปีผ่านไปเขาก็ได้ย้ายไปเข้าร่วมฝึกฝีเท้ากับสโมสรฟุตบอล บาสยูน เพื่อเริ่มฝึกซ้อมอย่างเต็มตัว อีกทั้งเขายังเป็นนักฟุตบอลให้กับโรงเรียนตัวเองด้วย
2. ซาลาห์ตระหนักดีว่าเขาสามารถสร้างตัวเองให้กลายเป็นแข้งอาชีพได้ และเมื่อเขาอายุ 16 ปี เขาก็มีโอกาสไปฝึกฝีเท้ากับอคาเดมี่แห่งหนึ่งในกรุงไคโร ซึ่งเขาจะต้องฝึกซ้อมทั้งสิ้นห้าวันต่อสัปดาห์ เขาพยายามอย่างเต็มที่โดยหวังว่าในวันหนึ่ง ความพยายามของเขาจะประสบผลสำเร็จ และได้รับโอกาสเข้าร่วมงานกับทีมชุดแรกของอคาเดมี่แห่งดังกล่าว และสุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ
3. แม้ว่าเขาจะเผชิญกับแรงกดดันมากมาย แต่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็สามารถเข้าสู่ทำเนียบทีมชาติอียิปต์ได้เมื่อตอนอายุ 19 ปีเท่านั้นและได้เปิดตัวในนามทีมชาติอียิปต์ชุดใหญ่ในเดือนกันยายนปี 2011 ซึ่งเป็นความฝันที่ได้กลายเป็นจริงแล้ว ผู้เล่นส่วนใหญ่ในทีมชาติชุดดังกล่าว มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณยี่สิบปลาย ๆ เนื่องจากซาลาห์นั้นเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในทีมชาติ และไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมารวมกลุ่มอยู่กับแข้งซีเนียร์ในเวลานั้นตั้งแต่อายุน้อยๆได้
4. ในเดือนพฤศจิกายน 2011 เขาสามารถทำประตูแรกให้กับทีมชาติได้ด้วยวัย 19 ปีและหลายคนก็แทบไม่เชื่อ เพราะเนื่องจากอายุของเขายังน้อยปานนั้น และมันยังเป็นการแข่งขันกับทีมชาติไนเจอร์ เพื่อนร่วมทวีปด้วย และตั้งแต่นั้นมาเขาก็กลายเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในประเทศของเขามานานจนถึงบัดนี้ และต่อมาเขาก็ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันลีกของประเทศอียิปต์ด้วย โดยเขาได้ลงเล่นไป 38 นัด ทำประตูได้ทั้งหมด 11 ประตูซึ่งทำให้เขาได้เซ็นสัญญา 4 ปีกับสโมสร บาเซิล ยอดทีมของลีกสวิสในปี 2012 ในที่สุด
5. เขาเป็นนักเตะชาวอียิปต์คนแรกที่ย้ายมาร่วมทีมเชลซี โดยเขาเซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2014 ด้วยค่าตัวประมาณ 11 ล้านปอนด์และเขายังเป็นนักเตะชาวอียิปต์คนแรกของลิเวอร์พูลด้วย ที่ได้เซ็นสัญญาระยะยาวกับทัพ “หงส์แดง” ด้วยเงินค่าตัว 42 ล้านยูดร และต่อมาค่าตัวของเขาก็เพิ่มเป็น 50 ล้านยูโร
6. เขามีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ แอฟริกันคัพ U-20 ซึ่งเขาได้พาทีมคว้าอันดับ 3 ของทัวร์นาเมนต์ และในปี 2012 สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกัน (CAF) ก็ได้มอบรางวัลให้กับ ซาลาห์ ในฐานะที่เป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่มีความสามารถระดับน่าจับตามองของทวีปแอฟริกัน โดยเขาทำผลงานได้ดีในการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA U-20 และซัมเมอร์โอลิมปิกประจำปี 2012 อีกรายการเขาช่วยให้ทีมชาติของเขาผ่านเข้ารอบไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 ได้อย่างยิ่งใหญ่ และยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งทวีปแอฟริกาอีกหลายสมัยด้วยกัน
7. ในคืนวันแต่งงานของเขา ซาลาห์ ได้ยกพลไปจัดงานแต่งไกลถึงที่ประเทศอาร์เจนติน่าในปี 2013 โดยเขาได้แต่งงานกับ มาจี้ โมฮาเหม็ด แฟนสาวที่คบกันมานาน โดยซาลาห์ได้เชิญคนในหมู่บ้านที่เขาเติบโตมาหลายๆคน มาเข้าร่วมงานแต่งงานด้วย และเขายังไปขอร้องให้นักร้องชื่อดังชาวอียิปต์มาสร้างความบันเทิงให้กับผู้คนในงานด้วย และซาลาห์เองก็ยังถือว่าเป็นนักเตะที่เป็นกันเองกับแฟนบอลด้วย เขาเปิดประตูต้อนรับให้แฟน ๆ เข้าร่วมพิธีด้วย แทนที่จะเชิญแขกมาในจำนวนจำกัดและให้สิทธิ์เฉพาะคนสำคัญของเขา
