โยฮัน ครัฟฟ์ (อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม)
ไม่น่าเชื่อว่าผู้เล่นระดับตำนานอย่าง ครัฟฟ์ จะเคยมีช่วงเวลาแบบนี้ด้วยเช่นกัน ทุกคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวของสุดยอดตัวรุกที่มีความเพอร์เฟ็คต์มากที่สุดในโลกลูกหนังแบบครัฟฟ์ที่ทำอะไรก็ดีไปหมด ทั้งการทำเกมรุก การฉีกออกริมเส้น หุบเข้าในมาเพื่อเชื่อมเกมเอง ปั้นเกมเอง จะยิงประตูเองหรือทำแอสซิสต์ เลี้ยงบอลแหวกแนวรับ กระทั่งถอยลงต่ำไปล้วงบอลในแนวลึก หรือตามประกบผู้เล่นฝั่งตรงข้ามมันซะเลยเพื่อเปิดทางให้เพื่อนมีช่องในการทำเกมบุกแทน เขาทำได้แบบไร้ที่ติแต่กระนั้นแล้ว ภายใต้ความสมบูรณ์ของครัฟฟ์ สิ่งที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมและโค้ชบางครั้งอาจจะเอือม นั่นก็คือเขาเป็นนักเตะที่มีความอีโก้จัดพอสมควร เป็นคนเถรตรงสุดๆ พูดจาแรง ตรง ไม่ค่อยเกรงใจใคร มันเลยทำให้เกิดรอยร้าวระหว่างครัฟฟ์กับเพื่อนร่วมทีมบางคน บางครั้งก็เคยเกิดขึ้นกับโค้ชด้วย ซึ่งครั้งหนึ่ง ครัฟฟ์ เคยโดนยึดปลอกแขนกัปตันทีมอาแจ็กซ์มาแล้วเพื่อเป็นการดัดนิสัย แต่สุดท้ายก็ได้ปลอกแขนกัปตันทีมคืนมา
ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ (เอซีมิลาน)
เป็นเรื่องสุดฮือฮากันเลยทีเดียวจากเหตุการณ์เมื่อประมาณปี 2017 เมื่อเอซีมิลานในเวลานั้นยังอยู่ภายใต้การคุมทีมของ วินเซนโซ่ มอนเตลล่า ที่คุมทีมแบบไม่ค่อยมีความเด็ดขาด และยังปล่อยให้ มอนโตลิโว่ ที่ลืมฟอร์มเทพสมัยอยู่กับฟิออเรนติน่าไว้ที่ฟลอเรนซ์ แถมมาโชว์พาวความกร่างในเวลาอยู่กับมิลานอีก ทำให้มิลานในเวลานั้นป่วนกันพอสมควรเลยทีเดียวในครั้งหนึ่ง มอนโตลิโว่ เคยงัดกับมอนเตลล่าที่พยายามจะเปลี่ยนตัวเขาออกจากสนาม ด้วยการปฏิเสธการเปลี่ยนตัวและชี้นิ้วให้ มอนเตลล่า เปลี่ยนตัวคนอื่นแทน มันทำให้แฟนบอลไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเมื่อมีการเปลี่ยนโค้ชกลางฤดูกาล 2017-18 มาเป็นตัวของ ริโน่ กัตตูโซ่ แน่นอนว่ากัตตูโซ่เองก็เห็นทุกสิ่งจากภายนอก เขาสั่งยึดปลอกแขนกัปตันทีมมิลานจาก มอนโตลิโว่ ดรอปเขาเป็นตัวสำรองและฝากฝังภาระการเป็นกัปตันทีมให้กับ อเลสซิโอ โรมันโญลี่ เป็นกัปตันทีมแทนทันที
เมาโร อิคาร์ดี้ (อินเตอร์ มิลาน)
เป็นคดีสุดฮือฮาเลยทีเดียว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2019 เมื่อตัวของ อิคาร์ดี้ ในสมัยที่ยังอยู่กับอินเตอร์ มิลาน เขาดื้อแพ่งไม่ยอมต่อสัญญากับอินเตอร์ ลากยาว ทำทุกอย่างเพื่อถ่วงเวลา และยังปล่อยให้ “วานด้า นาร่า” ภรรยาที่ทำหน้าที่เอเย่นต์ด้วย เข้ามาป่วนในสโมสรอยู่บ่อยครั้ง สองผัวเมียคู่โฉดคู่นี้ พยายามปั่นปัวฝ่ายเทคนิคจนแย่ ไม่ยอมต่อสัญญา ไม่ยอมเจรจาจนท้ายที่สุด อินเตอร์ใช้ไม้ตายสุดท้าย สั่งริบปลอกแขนกัปตันทีมอินเตอร์เพื่อเป็นการสั่งสอนทันทีแต่แทนที่ อิคาร์ดี้ จะรู้สำนึก เขากลับทำตัวไม่เป็นมืออาชีพด้วยการไม่ยอมมาซ้อมกับทีมเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ไม่ยอมกลับมาช่วยทีมจนสุดท้าย อินเตอร์ก็ริบปลอกแขนของเขาให้กับ ซามีร์ ฮันดาโนวิช ได้ใส่มันอย่างถาวร แล้วก็จัดการปล่อย อิคาร์ดี้ ออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 อีกด้วย
กรานิต ชาก้า (อาร์เซนอล)
เป็นเหตุการณ์เมื่อช่วงปีที่แล้วนี่เอง แฟนบอลอาร์เซนอลคงน่าจะจำเหตุการณ์ที่ ชาก้า ไม่พอใจต่อเสียงโห่ของแฟนบอลอาร์เซนอล ที่มองว่าการเล่นของชาก้านั้นย่ำแย่ และตัวของมิดฟิลด์รายนี้ที่ปกติก็เป็นคนหัวร้อนง่ายอยู่แล้ว ตอนโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามก็มีการตะโกนด่าแฟนบอลบนสแตนด์ด้วยเพื่อเป็นการตอบโต้เอาคืน และที่ร้ายแรงสุดคือ เขาดึงปลอกแขนกัปตันทีมออกมาแล้วเขวี้ยงลงพื้นทันที เป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติอย่างถึงที่สุด และคนที่เดินมาหยิบปลอกแขนของเขาไปคาดและลงสนามแทนก็คือ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าทีมชาติกาบอง และจากเหตุครั้งนี้ทำให้อาร์เซนอลสั่งยึดปลอกแขนและมอบให้ บาเมยอง สวมมาจนทุกวันนี้