ลีกอิตาลีหรือ เซเรียอา เป็นลีกฟุตบอลชั้นนำที่อุดมไปด้วยนักเตะเกมรับฝีเท้าดีมากมาย ทั้งนักเตะเกมรับสไตล์ที่ “เหนือชั้น” มากไปด้วยทักษะ อ่านเกมขาด แล้วก็ยังมีนักเตะเกมรับประเภท “โคตรโหด” เข้าฟาล์วทีขาแทบหัก !และนี่คือ 4 ตำนานนักเตะเกมรับแข้งโหดที่ลีกอิตาลีเคยผลิตออกมาประดับวงการฟุตบอลระดับโลก !
ฟาบิโอ คันนาวาโร่
“ในสายตาผม คันนาวาโร่ คือกองหลังที่สกปรกที่สุด เขาพร้อมจะเตะขาคุณ ได้เล่นงานคุณหนักๆได้แบบที่เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น”นี่คือคำพูดที่ออกมาจากปากของ เธียร์รี่ อองรี ตำนานกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสที่เคยได้ดวลฝีเท้ากับ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมชาติอิตาลีในฟุตบอลโลก 2006 รอบชิงชนะเลิศที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพ ในเกมดังกล่าวนั้น อองรี กองหน้าดีกรีสูงจากอาร์เซนอล โดนนักเตะจอมแกร่งจากยูเวนตุส ล็อกตายและไล่แซะไล่เตะอย่างหนักจน อองรี เล่นไม่ออกเลยจริงๆ เขาไม่สามารถทำประตูในเกมนี้ได้ อีกทั้งยังรู้สึกหงุดหงิดมากกับการที่โดน คันนาวาโร่ ไล่ตาประกบ ไล่เตะ ทำทุกอย่างเพื่อให้อองรีสมาธิหลุดคันนาวาโร่ เป็นกองหลังที่ฉลาด มีลูกตุกติกในตัวที่เล่นได้แบบเนียนๆ เรียกได้ว่าเป็นกองหลังที่เล่นได้ทั้งลูกบู๊และลูกบุ๋นเลยทีเดียว
ชื่อของ เคลาดิโอ เจนติเล่ ในภาษาอิตาเลียนนั้นแปลว่า “คนน่ารัก ใจเย็น” อะไรทำนองนั้น แต่ว่านิสัยและสไตล์การเล่นของ เจนติเล่ ไม่ได้เข้ากับความหมายของชื่อเลยจริงๆ เขาไม่ใช่คนใจร้ายหรือนิสัยเลวทรามอะไร เพียงแต่ว่าในสนามนั้นเขาคือ “เพชฌฆาต” ที่เลือดเย็นสุดๆในการเข้าฟาล์ว ตัดเกม อัดคู่แข่งจนน่วม จนแหย่งไม่กล้าจะเล่นกับบอลเลยทีเดียวเจนติเล่ เป็นกองหลังเจ้าของฉายา “ไอ้สัตว์ป่า” เป็นนักเตะสไตล์ตัวสต๊อปเปอร์ที่เข้าบอลถึงลูกถึงคน อัดเป็นอัด ดึงเป็นดึง ล็อกตายกองหน้าฝั่งตรงข้ามแบบมาร์คทูมาร์คได้เก่งมาก ต่อให้คู่ต่อสู้ต้องลงไปนอนโอดโอยด้วยความเจ็บปวดบนสนามเขาก็ไม่แคร์นักเตะอย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า ยังเคยโดน เจนติเล่ ไล่เตะในฟุตบอลโลก 1982 จนน่วมและเล่นไม่ออกมาแล้ว แม้แต่กับ ซิโก้ ตำนานเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิล ยังโดนเจนติเล่ไล่ตามประกบและดึงกระชากเสื้อของซิโก้จนขาดมาแล้วในเกมระหว่างอิตาลีและบราซิลในฟุตบอลโลก 1982
เป็นไอ้ตัวแสบที่แฟนบอลทีมชาติฝรั่งเศสหมายหัวว่าเป็นศัตรูของประเทศเลยทีเดียว หลังจากที่เขาเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศสปิดฉากอาชีพค้าแข้งได้ไม่สวยงามด้วยการโดนใบแดง แต่ว่าใบแดงที่ซีดานได้รับนั้น มันก็มาจากนิสัยเถื่อนๆของ มาเตราซซี่ ที่ไปพูดจาไม่สุภาพและเหยียดหยามน้องสาวของซีดานเข้าให้นั่นเอง ปกตินั้น มาเตราซซี่ เป็นกองหลังแข้งโหดที่เข้าบอลได้ถึงลูกถึงคน ลูกตุกติกมีเพียบ อัดหนักไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไง แต่เขาทำไปเพื่อชัวร์ว่ากองหน้าหรือตัวรุกฝั่งตรงข้ามจะไม่สามารถสร้างความกดดันให้กับแนวรับของ อินเตอร์ และทีมชาติอิตาลีได้
ถ้าจะเอ่ยถึงแข้งโหดๆ ถ้าไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับเจ้าของฉายา “ไอ้รถถัง” รายนี้ติดลิสต์เข้ามาด้วยก็คงจะเหมือนขาดอะไรไปอย่าง และตัวของ กัตตูโซ่ เป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่มีพละกำลังในการไล่ตัดเกม ไล่ปะทะ และยังมีความสามารถในการช่วยหนุนเกมรุกในบางจังหวะได้ดีด้วยถ้าเขาได้รับมอบหมายให้ตามประกบใคร เขาจะทำหน้าที่นั้นเป็นอย่างดี ไล่กัด ไล่ปะทะ ตัดฟาล์ว ทำทุกอย่างเพื่อหยุดเกมรุกฝั่งตรงข้ามต่อให้โดนใบเหลือง ใบแดงก็ไม่สน เขาพร้อมใส่เต็มที่เลยในการเล่นและการเล่นในแบบนี้ของ กัตตูโซ่ ที่ไล่บอลให้ ตัดเกมให้ มันเลยทำให้เหล่านักเตะประเภท “จอมทัพ” ที่คอยสร้างสรรค์เกม ไม่ต้องกังวลกับเกมรับ พวกเขาจะได้สามารถสร้างเกมรุกได้โดยปล่อยให้กัตตูโซ่ทำหน้าที่ตัดเกมให้ เป็นลูกหาบให้
