จากรายงาน ผลบอลย้อนหลัง ย้อนกลับไปก่อนที่ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ครั้งแรกของ โอเดียน อิกาโล่ หัวหอกชาวไนจีเรีย กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเริ่มขึ้น เขามีโอกาสให้สัมภาษณ์กับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า ในช่วงที่ยังเป็นเด็กตัวเองต้องจ่ายเงินเพื่อดู “ปีศาจแดง” ผ่านทางช่องทีวีบ้านเกิดมาแล้ว
อิกาโล่ ซึ่งย้ายจาก เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ทีมดังในศึกไชนีส ซุเปอร์ลีก มาเล่นกับ แมนฯยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น เป็นแฟนบอลมาอย่างยาวนาน เขาเกิดที่ปะเทศไนจีเรีย ซึ่งครอบครัวของเขาต่างก็เป็นแฟนตัวยงของ “ปีศาจแดง” เช่นเดียวกัน
ศูนย์หน้าชาวไนจีเรีย เริ่มกล่าวว่า “ผมรู้ว่านักฟุตบอลหลายคนมักจะพูดเมื่อพวกเขาเซ็นสัญญากับทีมใหม่ว่า นี่คือทีมในฝันของตัวเอง ซึ่งผมเคารพคำพูดเหล่านั้น แต่กรณีของผมแตกต่างกันไป ทุกคนที่รู้จักผมตั้งแต่ตอนที่ผมยังเป็นเด็กนั้น รู้เรื่องราวของผมดี และครอบครัวของผมก็เป็นแฟนบอล แมนฯยูไนเต็ด”
“เราเคยจ่ายเงินเพื่อดู แมนฯยูไนเต็ด เล่น ในประเทศไนจีเรียคุณต้องมีช่องกีฬาเพื่อจะดูฟุตบอล แต่ทุกคนไม่สามารถจ่ายได้ พ่อ-แม่ของผมก็ไม่สามารถจ่ายได้ ดังนั้นคุณต้องรวมเงินกันและจ่ายเงินให้กับศูนย์กลางเพื่อรับชมฟุตบอล และเราก็ทำแบบนั้น”
“ผมเติบโตในแถบ Ajegunle ซึ่งเป็นเหมือนสลัม และมันเป็นชีวิตที่ยากลำบากมากที่นั่น เมื่อถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ทุกคนจะตื่นเต้น เพราะพวกเขาต้องการดูการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด” อิกาโล่ กล่าว
อดีตดาวยิง วัตฟอร์ด กล่าวต่อว่า “คุณเริ่มเก็บเงินที่พ่อ-แม่จะให้คุณไปโรงเรียน คุณจะกินข้าวที่บ้านตอนเช้า และพวกเขาจะให้เงินค่าขนมไปโรงเรียน และอาจกินอาหารกลางวันที่โรงเรียนเลย มันจะทำให้คุณจะประหยัดได้ทีละนิด และเมื่อคุณถึงสุดสัปดาห์ ทุกคนพร้อมแล้วสำหรับการดูฟุตบอล”
“คุณมีเสื้อทีมฟุตบอลของคุณ และคุณก็ซักมันก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณใส่เสื้อทีมเหล่านั้น และไปรวมตัวกันที่ศูนย์กลาง และมันบ้ามาก ที่นั่นแฟนๆบางคนต้องการให้ แมนฯยูไนเต็ด แพ้ แต่ผมเป็นแฟนบอล แมนฯยูไนเต็ด และต้องการให้พวกเขาชนะ จากนั้นคุณจะเริ่มโต้เถียงตะโกนหรือโต้เถียงกับคนอื่นๆ”
“ในศูนย์กลางที่ดูฟุตบอลนั้น มีคนราวๆ 200 คน อัดกันอยู่ในห้องเล็กๆ และเมื่อคุณเดินไปอีกห้องหนึ่งมันก็มีคนอีกเกือบ 500 คน และบางทีคนเหล่านั้นก็จะยืมเงินคุณ ซึ่งตอนนั้นคุณอาจได้ยืนดูอยู่ไกลๆแล้ว มันมีทั้งจอขนาดใหญ่ และหน้าจอเล็กๆ และคุณต้องดูจากตรงนั้น”
“เมื่อก่อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ดีที่สุดในอังกฤษ พวกเขาชนะทุกเกม และในทุกฤดูกาลคุณจะเห็นพวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทุกคนต้องการมีส่วนร่วมกับทีมแบบนี้ และนั่นคือวิธีที่ผมพาตัวเองเข้าไป ในตอนนั้นผมยังเด็กมาก และเมื่อโตขึ้นผมก็ยังเชียร์ แมนฯยูไนเต็ด มาจนถึงตอนนี้” อิกาโล่ กล่าว
กองหน้า “อินทรีมรกต” กล่าวต่อว่า “ในหมู่บ้านของผมยังมีสมาคมแฟนบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย ดังนั้น เราจะมีการประชุมสัปดาห์ละครั้งเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ แมนฯยูไนเต็ด มันเป็นเหมือนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันของแฟนบอล”
“เมื่อผมคิดถึงความทรงจำเหล่านั้น ตอนนี้ผมหัวเราะแล้วพูดว่า ‘ว้าวจาก Ajegunle’ ไปที่ Theatre of Dreams มันเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผม และผมก็สนุกไปกับมันทุกอย่าง มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของผม ซึ่งได้เล่นให้กับทีมในฝันของผม และเป็นทีมที่ผมเชียร์ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก”
ขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่องการย้ายทีมแบบยืมตัวของ อิกาโล่ ไปยัง แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นในเช้าวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดดไลน์ของตลาดนักเตะในยุโรป จากนั้น ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ดาวยิงไนจีเรีย ก็ได้ย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตามความฝันของเขา
อิกาโล่ อธิบายว่า “ในเวลานั้น ผมอยู่ที่ห้องพักในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งกำลังพักผ่อนจากการฝึกซ้อม และเมื่อ 2 วันก่อนหน้านั้น ผมได้ยินข่าวเกี่ยวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และเอเย่นต์ของผมก็โทรมาคุยกับผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คิดว่าการย้ายไปเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันจะเป็นไปได้อย่างไร ผมอยู่ในประเทศจีน และ coronavirus กำลังระบาด แต่ภายใน 2 วัน ทุกอย่างก็เสร็จสิ้น”
“ผู้คนเริ่มโทรกลับมาที่ไนจีเรียเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น และผมก็พูดว่า ผมไม่อยากฟุ้งซ่านกับเรื่องนี้ แต่ถ้ามันเป็นพระประสงค์ของพระเจ้ามันก็จะเกิดขึ้น จากนั้นน้องของผมก็บอกว่า มันจะเกิดขึ้นเพียงแค่นายเชื่อ และผมก็พูดว่า ผมเชื่อ แต่ผมไม่ต้องการคาดหวังมากไป เพราะถ้ามันไม่เกิดขึ้น ผมก็จะผิดหวัง”
“ผมสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่ต้องการแสดงอารมณ์ของผมออกมามากนัก และแค่ใจเย็นๆ ทุกครั้งที่ผมส่งข้อความหาเอเย่นต์ ผมจะถามเขาว่า คุณได้ยินอะไรเกี่ยวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด บ้างไหม และมันก็ไม่มีอะไร จนถึงวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ ผมโทรหาเอเย่นต์ และเขาก็ยังบอกว่า เขาไม่ได้ยินอะไรเลย”
“จากนั้น ในตอนเย็นผมส่งข้อความถึงเอเย่นต์อีกครั้ง และเขาบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมองหากองหน้าไปร่วมทีม และชื่อของผมยังอยู่ในความสนใจของพวกเขา แต่เขาไม่บอกอะไรกับผมอย่างเป็นรูปธรรมนัก และผมก็หมดความหวัง เพราะข้อความสุดท้ายที่ผมได้รับจากเอเย่นต์ก็คือ 8:00 น. ซึ่งมันคือเวลา 21:00 น. ในช่วงเวลาที่เซี่ยงไฮ้ ดังนั้นผมจึงไปนอน”
“จากนั้นโทรศัพท์ของผมดังขึ้น และเอเย่นต์ของผมบอกว่า ดูเหมือนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะติดต่อมา ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ผมบอกว่า ผมอยู่บนเตียง ผมกำลังนอนหลับ เพราะที่จีนนี่เป็นเวลาประมาณ 23.00 แล้ว จากนั้น เขาถามผมว่า ผู้อำนวยการกีฬาของ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว อยู่ที่ไหน โชคดีที่ผู้อำนวยการกีฬา ยังอยู่ในห้องทำงานที่สโมสร”
“ผมอยู่บนเตียงแล้วจึงลุกขึ้นรีบผูกผ้าเช็ดตัวรอบเอว ก่อนอื่นผมต้องไปที่ห้องแปลภาษา เพราะผู้อำนวยการกีฬาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และผมต้องการบอกเขาว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการพูดคุยกับคุณ ผมไปเคาะประตูห้องทำงานของเขา และเราเริ่มโทรหาเขา ผมคิดว่าโทรศัพท์ของเขาไม่ว่าง และผมกำลังจะบ้า”
ดาวยิงไนจีเรีย เล่าต่อว่า “ผมบอกเอเย่นต์ของผมว่า เราต้องคุยกับ แมนฯยูไนเต็ด และคุยกับผู้อำนวยการกีฬา จากนั้น ผู้อำนวยการกีฬา ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเราก็คุยกันกับเอเย่นต์ของผม และ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย”
“ผมไม่ได้นอนจนถึง 6 โมงเช้า เพราะต้องทำทุกอย่างตั้งแต่เอกสารจนถึงการพยายามเจรจาเรื่องค่าธรรมเนียมต่างๆ แม้แต่เอเย่นต์ของผมก็กำลังวุ่นวาย เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่มากๆ จากนั้น ทุกอย่างก็ดำเนินต่อไป ผมบอกเอเย่นต์ว่า ตอนนี้คุณต้องทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นให้ได้ ผมไม่สนใจสิ่งที่จะต้องทำเลย เพียงแค่ทำให้มันเกิดขึ้น ผมต้องการเซ็นสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด”
“มันเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายมาก และพวกเขาก็ส่งเอกสารที่ผมต้องเซ็นมา รวมทั้งเอกสารต่างๆที่ต้องเคลียร์กับทาง เซี่ยงไฮ้ ด้วย แต่ผมก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมแค่ต้องการเซ็นสัญญา แมนฯ ยูไนเต็ด และทุกอย่างจะโอเค”
“เมื่อผมเซ็นสัญญา และตัวแทนของผมบอกว่า เขาได้รับเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมนอนสั่นอยู่บนเตียงของผมเหมือนกับว่า มันเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในที่สุด ผมไม่เชื่อสายตาตัวเองจนกระทั่งเดินทางมาถึงประเทศอังกฤษแล้วมันเป็นเรื่องจริง” อดีตกองหน้า วัตฟอร์ด กล่าว
อิกาโล่ เล่าต่อว่า “ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง คุณเคยฝันถึงมัน คุณดูมัน คุณเห็นสิ่งเหล่านี้ทางทีวี และตอนนี้คุณกำลังได้ทำมันอยู่ มันบ้ามาก มันยอดเยี่ยม ผมมีความสุข และผมต้องการเก็บความทรงจำทุกอย่างไว้ เพราะมันสมบูรณ์แบบแล้ว”
“สิ่งแรกเลยคือ ผมประสบความสำเร็จในการได้เล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว และยิงประตูให้กับพวกเขาได้ แต่ตอนนี้มีงานที่ยิ่งใหญ่กว่าในการทำงานหนักเพื่อให้ทีมประสบสำเร็จในฤดูกาลนี้ และทำให้แน่ใจว่าทีมนี้จะประสบสำเร็จ”
อิกาโล่ กำลังเจอการทดสอบครั้งต่อไป ซึ่งเขาอาจจะได้โอกาสลงเล่นในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยดาวเตะวัย 30 ปี จะได้ลิ้มรสบรรยากาศดาร์บี้แมตช์ ครั้งแรกในสีเสื้อ “ปีศาจแดง”
หัวหอกไนจีเรีย กล่าวว่า “มันเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ ผมกำลังตั้งตารอคอย และจะเป็นเกมที่ยาก แต่ด้วยแฟนๆที่นี่พวกเขาสามารถพาคุณไปสู่ชัยชนะได้ และผมเชื่อว่า เราสามารถทำได้”
อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามเกี่ยวกับอนาคตของ อิกาโล่ ที่ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อมันมาถึง เพราะเขากำลังอยู่ในสัญญายืมตัวจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลนี้ แต่เขาสามารถกลายเป็นสมาชิกถาวรของทีมที่เขาเชียร์มาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กได้หรือไม่?
“สำหรับตอนนี้ผมมีความสุขกับเวลาของผม ผมใช้ชีวิตตามความฝันของผม และผมทำงานหนัก” มันเร็วเกินไปที่จะพูดคุยเกี่ยวกับอนาคต ตอนนี้สำหรับผมที่จะต่อสู้ในทุกเกมให้แน่ใจว่า ผมมอบเลือดและเหงื่อให้กับทีมของผม ผมพยายามที่จะชนะทุกเกม และทำให้แน่ใจว่าเราจบฤดูกาลได้ดี”
“หลังจากจบฤดูกาลนี้เราจะเห็นว่า จะเกิดอะไรขึ้น สำหรับตอนนี้ผมต้องการที่จะทำงานหนักในแต่ละวัน, เกมต่อเกม, ปรับปรุงตัวเอง และการทำงานกับเพื่อนร่วมทีมที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ในทีมนี้ รวมไปถึงโค้ชที่ยอดเยี่ยม ซึ่งผมมาที่นี่”
“ผมต้องทำให้แน่ใจว่า ผมจะตอบแทนพวกเขาได้ด้วยการยิงประตู และหวังว่า เราจะคว้าแชมป์ได้ ผมต่อสู้เพื่อทีม ต่อสู้เพื่อตราสโมสร และหลังจากจบฤดูกาลนี้เราพูดถึงขั้นต่อไป” อิกาโล่ กล่าวปิดท้าย
