ปัจจุบันสถานการณ์ของ เมซุต โอซิล เพลย์เมคเกอร์ชาวเยอรมัน ในทัพ “ปืนใหญ่” ถือว่ากำลังคลุมเครือสุดๆ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตัวกันแน่ หลังการเข้ามากุมบังเหียนของ อูไน เอเมอรี่ เทรนเนอร์ชาวสเปน จอมทัพวัย 29 ปี แทบไม่มีบทบาทกับทีมชุดแรกเลย
แฟนบอล อาร์เซน่อล รวมไปถึงบรรดากูรูเมืองผู้ดี เชื่อว่า อนาคตของ โอซิล กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ซึ่งมีความเป็นได้เช่นเดียวกันว่าอดีตกองกลาง เรอัล มาดริด อาจตัดสินใจเก็บข้าวของออกจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในช่วงตลาดซื้อขายรอบนี้
เมื่อ ม.ค.ปีที่แล้ว โอซิล ได้ตัดสินใจขยายสัญญากับ อาร์เซน่อล เพิ่มออกไปอีก 3 ปี พร้อมรับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในสโมสรที่ตัวเลข 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 เดือนหลังสุดภายใต้การคุมทีมของ เอเมอรี่ นั้น มิดฟิลด์เยอรมัน ได้โอกาสลงสนามไปเพียงแค่ 155 นาที เท่านั้น นี่คือความบ้าคลั่งที่สุดของฟุตบอลสมัยใหม่ ซึ่งนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยกว่า 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ได้ลงโชว์ฝีเท้าเพียงน้อยนิด
สโมสรอย่าง อาร์เซน่อล ทำให้ตัวเองต้องเจอกับความยุ่งเหยิงอย่างมาก เพราะพวกเขาไม่สามารถบริหารจัดการเรื่องการเงินภายในสโมสรได้ และที่สำคัญ “ปืนใหญ่” กลับปล่อยให้ตัวเองมีภาระผูกพันทางการเงินที่ไม่น่าเชื่อ ซึ่ง โอซิล ไม่น่าจะเป็นต้นเหตุในเรื่องนี้ บางคนอาจไม่เห็นด้วยกับแนวคิดข้างต้น แต่ก็ไม่ควรไปประณามผู้เล่นที่ยอมรับข้อเสนอสัญญาจากสโมสร ซึ่งยินดีจะจ่ายค่าเหนื่อยก้อนโตให้กับเขา แม้ว่าสิ่งต่าง ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลง คุณก็ต้องเดินหน้าต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนี้ดูเหมือนว่า อาร์เซน่อล จะสามารถรับมันได้ นั่นคือฟุตบอลสมัยใหม่หรือเปล่าน่ะเหรอ ? ก็อาจจะใช่
มันไร้สาระมากกกก!
คุณไม่สามารถตำหนิ โอซิล ในเรื่องนี้ได้ มันหมายความว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะขายเขาออกจากทีม ใครจะยินดีจ่าย 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ให้กับผู้เล่นที่มีความสามารถสามารถเปลี่ยนเกมได้ แต่ไม่ใช่ทุกๆเกมที่ลงสนาม บางที 4-5 เกม เขาถึงแสดงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมออกมา นั่นคือสิ่งที่มีความขัดแย้งของกันอยู่ ไม่ได้เกี่ยวกับผู้เล่น แต่กับสโมสรสที่ตื่นตระหนก และทำให้เรื่องไร้สาระเช่นนั้นเกิดกับนักเตะ เข้าใจได้ว่าคุณต้องมีความสามารถ แต่แน่นอนถ้าเป็น ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือแม้แต่ แฮร์รี่ เคน และ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ คุณจะต้องจ่ายค่าเหนื่อยระดับโลกให้พวกเขาได้ แต่ โอซิล นั้น ยังคงไม่ดีพอจะอยู่ในกลุ่มผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก
โอซิล มีพรสวรรค์ทางเทคนิคน่าเหลือเชื่อ และยังสามารถผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้ แต่นักเตะคนอื่น ๆ ก็มีมากมายที่ทำได้เช่นเดียวกัน อาร์เซน่อล ทำให้ตัวเองเป็นตัวประกันที่มีมูลค่ามหาศาลในการแบกรับความเสี่ยงของสัญญา 3 ปี
คุณต้องจินตนาการว่า พวกเขากำลังปล่อยตัว อารอน แรมซี่ย์ ไป เพราะพวกเขาไม่ต้องการรับความเสี่ยงแบบนั้นอีก ข้อเสนอสัญญาในใหม่ของ กองกลางทีมชาติเวลส์ เขาเรียกร้องค่าเหนื่อยขอเงินเท่ากับ โอซิล เลยทีเดียว
แรมซี่ย์ เป็นผู้เล่นที่ดี แต่เขาก็มีปัญหาความเรื่องสม่ำเสมอของฟอร์มการเล่นเช่นกัน นอกจากนี้เขายังได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้ข้อเรียกร้องค่าเหนื่อยของเขานั้น ดูสูงเกินไปสำหรับ อาร์เซน่อล และเจ้าตัวอาจต้องย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวหลังจบซีซั่นนี้ บางครั้งคุณต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ยากลำบาก พร้อมกับอารมณ์ความรู้สึกที่เย็นชาและสำหรับทั้งสองปัจจัยต่างก็แสดงให้เห็นว่า อาร์เซน่อล ไม่พร้อมจ่ายค่าเหนื่อยให้กับ แรมซี่ย์ ตามที่เขาต้องการได้
ลิเวอร์พูล คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในกรณีของ เอมเร่ ชาน ห้องเครื่องทีมชาติเยอรมัน ที่ต้องการค่าเหนื่อยก้อนโตในสัญญาฉบับใหม่ ในท้ายที่สุด”หงส์แดง” ก็ตอบว่าไม่ และยอมปล่อยตัวเขาไปร่วมทีม ยูเวนตุส ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี แบบไม่มีค่าตัว อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ทำงานได้ยอดเยี่ยม พวกเขาสามารถคว้าผู้เล่นที่ดี ชาน อย่าง ฟาบินโญ่ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติบราซิล จาก โมนาโก ในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส มาเสริมทัพ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา มันเป็นดีลที่ยอดเยี่ยม ฟาบินโญ่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล่วว่าเขาสามารถเล่นได้ทั้งกองกลาง แบ็คขวา และเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ในยามที่บรรดาแข้งคนอื่นของ “หงส์แดง” ไม่พร้อมลงสนาม
การขาย โอซิล อาจทำให้แฟน อาร์เซน่อล เกิดอาการไม่พอใจ เพราะพวกเขาเพิ่งปล่อยตัวนักเตะคนสำคัญอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งร่วมลีก แต่เชื่อว่า เอเมรี่ คงพอใจกับการที่ไม่มี โอซิล อยู่ในแท็คติกของตนเอง
สุดท้าย อนาคตของ โอซิล กับ อาร์เซน่อล จะเป็นอย่างไรต่อไป นั่นคือสิ่งที่สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ต้องคอยติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป สำหรับ โอซิล ย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2013 เขาลงเล่นให้ทีมไปแล้ว 182 นัด ยิงได้ 36 ประตู จ่าย 61 แอสซิสต์ นำทีมคว้าถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ ไปครอง 3 สมัย
