โซลชา ผู้กู้ศรัทธาทัพปีศาจแดง

โซลชา มาพร้อมกับความโชคดี

แฟน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คงไม่ต้องสงสัยเลยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพกความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม ในการลงสนามทำศึกแดงเดือดในวันอาทิตย์นี้ ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลัง “ปีศาจแดง” บุกไปทุบ เชลซี ในศึกเอฟเอ คัพ ถึงถิ่น 2-0 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ พร้อมส่ง “สิงโตน้ำเงินคราม” ตกรอบเรียบร้อย

แม้ก่อนหน้านี้ แมนฯยูไนเต็ด จะแพ้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส คาบ้าน 0-2 ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ โอเล กุนาร์ โซลชา กุนซือ “ปีศาจแดง” ก็พาลูกทีมพลิกฟอร์มกับมาได้สำเร็จในศึกฟุตบอลถ้วยเมืองผู้ดี

โซลชา สามารถนำพาตัวตนของ แมนฯยูไนเต็ด กลับคืนสู่สโมสรได้อีกครั้ง หลังพลพรรค “ปีศาจแดง” ดูเหมือนรจะขาดตัวตนในการลงสนาม นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมชาวสก็อตแลนด์ประกาศวางมือไปเมื่อเกือบหกปีที่ผ่านมา

แม้จะเกินความสำเร็จที่สอดคล้องกันของ เฟอร์กูสัน และการแปรสภาพของ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในสโมสรชั้นนำของโลก มันเป็นประเพณีของการเล่นฟุตบอลเกมรุก และการให้ความรู้แก่ผู้เล่นในสถาบันการศึกษาชุดเยาวชนที่ถูกวางรากฐานมาตั้งแต่สมัย เฟอร์กี้ ยังอยู่กับทีม

การสร้างความเสียหายภายใต้ยุคของ เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล และโชเซ่ มูรินโญ่ เป็นสิ่งที่แฟนบอล แมนฯยูไนเต็ด ไม่อยากนึกถึง อย่างไรก็ตาม โซลชา ได้เข้ามาแก้ไข และฟื้นฟูวิธีการเหล่านั้นในเวลาเพียงสองเดือน

ทีมที่ต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ จะต้องเป็นแมตช์ที่ดุเดือด เพราะ “ปีศาจแดง” ในระบบใหม่ภายใต้การนำทัพของ โซลชา นั้น ไม่ใช่ทีมที่ “หงส์แดง” เคยเอาชนะไป 3-1 ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน

มันยังคงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะระลึกถึงทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ เฟอร์กูสัน ว่าเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลโจมตีอย่างไม่ลดละ แต่ในสองปีที่ผ่านมา แมนฯยูไนเต็ด เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาเล่นในสไตล์ฟุตบอลที่แข็งกระด้าง และเน้นเกมรับ ภายใต้ ฟาน กัล และ มูรินโญ่

บางทีความระมัดระวังมากขึ้นอาจทำให้พวกเขามีโอกาสที่ดีกว่าในการเข้าสู่รอบรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่จะไปเยือน เปแอสเช อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นงานที่ยาก แต่ โซลชา และลูกทีมคงหาวิธีรับมือกับยอดทีมแห่งเมืองน้ำหอมไว้แล้ว

ภายหลังกลับมาเล่นเกมรุกเต็มรูปแบบ พวกเขายังได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอลให้บุกไปเรื่อยๆตลอดทั้งเกม มันมีความรุนแรง ดุดัน เกี่ยวกับระบบการเล่นของทีม และความพยายามที่จะเล่นผ่านแนวรับคู่ต่อสู้ บางทียิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ยูไนเต็ด กลับมากล้าได้กล้าเสียเหมือนเช่นยุคก่อน

ทีมที่ไม่มีความสุขภายใต้ มอยส์, ฟาน กัล และ มูรินโญ่ ได้ทำเพียงครอยครองบอล และถ่ายบอลขวางสนามไป-มา ในท้ายที่สุดบางทีอาจถึงแพ้ มีคำถามเล็กน้อยว่าความสัมพันธ์ที่ยากลำบากของพวกเขากับเหล่านักเตะผู้มีอิทธิพลของ ยูไนเต็ด อาจไม่สู้ดีนัก

ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส มีอนาคตที่ไม่แน่นอนภายใต้ยุคของ มูรินโญ่ อย่างไรก็ตาม เอ็ด วู้ดเวิร์ด ประธานบริหาร ของ ยูไนเต็ด เลือกจะอยู่ข้างเขา พร้อมสั่งปลด อดีตกุนซือ เรอัล มาดริด ออกจากตำแหน่ง ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นการเลือกที่ชาญฉลาด

นี่ไม่ใช่สโมสรที่ไม่คุ้นเคยกับบุคคลสำคัญในห้องแต่งตัว แต่ในเวลาเพียงสองปี เฟอร์กูสัน ได้จัดการขาย เดวิด เบ็คแฮม ปีกทีมชาติอังกฤษ และจัดการยกเลิกสัญญาของ รอย คีน กัปตันทีม ทั้งที่คู่ประสบความสำเร็จในการเล่นที่ ยูไนเต็ด อย่างมากมาย

แม้แต่กรณีของ คริสเตียโน โรนัลโด้ สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส เมื่อเขาต้องการจะย้ายไปอยู่ที่ เรอัล มาดริด ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อปี 2551 แต่ถูก เฟอร์กูสัน บังคับให้อยู่ที่สโมสรต่อไปอีกหนึ่งปี และท้ายที่สุดเขาก็ยอมทำตาม เนื่องจาก เฟอร์กี้ ใหญ่ที่สุดในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด คำพูดของเขาเปรียบดั่งปกาศิต

แกรี เนวิลล์ อดีตนักเตะของ ยูไนเต็ด ไม่เคยอายที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสโมสรเก่าของเขา และเป็นแกนนำเกี่ยวกับการชื่นชมในผลงานของ โซลชา แม้ว่าก่อนหน้านี้ เขาจะวิจารณ์ว่า “ปีศาจแดง” สูญเสียคุณค่าทั้งหมดที่สโมสรสร้างขึ้นมา นับตั้งแต่วินาทีที่พวกเขาตัดสินใจที่จะไล่ มอยส์ ออกจากตำแหน่ง

ในการทำเช่นนั้น ยูไนเต็ด ได้ใช้แนวทางระยะสั้นแบบเดียวกันกับสโมสรอื่น ๆ ที่จ้างโค้ช และต้องการในความพยายามที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จในทันที แทนที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น จนกระทั่งถึงการมาถึงของ โซลชา

มันอาจเป็นไปได้ที่ โซลชา อาจไม่ได้อยู่กับทีมหลังจากสิ้นสุดฤดูกาล หรือถูกแทนที่ด้วยกุนซือคนอื่นๆ ในทำนองเดียวกันหากความสัมพันธ์ของเขากับผู้เล่นลดลง แต่ดูเหมือนไม่น่าเป็นไปได้ ความสามัคคีที่เขาได้รับการสนับสนุนมาอย่างยาวนานยังสามารถพิสูจน์ถึงความยั่งยืนได้

โซลชา ผู้กู้ศรัทธาทัพปีศาจแดง

โซลชา มาพร้อมกับความโชคดี

ข้อดีอย่างหนึ่งที่ โซลชา ได้รับจากสโมสร ก็คือ เขาไม่ได้อยู่ภายใต้แรงกดดันเดียวกันในการเริ่มต้นกับ มูรินโญ่ หรือคนอื่นๆ เขาไม่ได้เรียกร้องให้ซื้อตัว โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียม จาก เอฟเวอร์ตัน ในราคา 75 ล้านปอนด์ และยังมีการตัดสินใจอื่น ๆ ที่เน้นแนวทางที่แตกต่างอย่างเด่นชัด

การกลับมาของ ไมค์ ฟีแลน ซึ่งถือเป็นบุคคลใกล้ชิดกับ เฟอร์กูสัน มานานหลายปี ได้เพิ่มความรู้และประสบการณ์อันมีค่าให้กับทีมผู้ฝึกสอนของ โซลชา เป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นผลได้จากการที่ทีมกลับมาทำผลงานได้อย่างสุดยอด

การเปลี่ยนตำแหน่งของ มาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอกดาวรุ่ง ทีมชาติอังกฤษเป็นบทบาทสำคัญที่เขาเรียกร้องมานาน และการเปลี่ยนแปลงครั้งต่อไปของเขาให้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำของทีมนั้นน่าชื่นชม และมีความสำคัญมากกว่า หากเขา และ เจสซี ลินการ์ด เล่นร่วมกันในแนวรุกของ ยูไนเต็ด อย่างสม่ำเสมอ

นับตั้งแต่ เฟอร์กูสัน วางมือไป แมนฯยูไนเต็ด ต้องประสบกับปัญหาในการการจากไปของเด็กปั้นจากสโมสร อาทิ ดาร์เรน เฟลทเชอร์, จอนนี่ อีแวนส์, แดนนี่ เวลเบ็ค, ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ และ เวย์น รูนีย์

ปัจจุบันนี้ “ปีศาจแดง” ยังคงไม่สามารถปั้นผู้เล่นในชุดเยาวชนขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง บรรกากาศที่ห้องแต่งตัว และจรรยาบรรณของสโมสรหายไปนับตั้งแต่ รูนีย์ อำลาทีม

แม้แต่ ไรอัน กิ๊กส์ อดีตนักเตะของทีม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดในสหราชอาณาจักร ก็ยังหายไปจากทีมงานสตาฟโค้ช เมื่อ มูรินโญ่ มารับช่วงต่อจาก ฟาน กัล ขณะเดียวกันไม่มีการเชื่อมโยงนักเตะไปยังอดีตผู้เล่นซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทีมมาอย่างยาวนานเหมือนยุคก่อน

การกลับมาของ โซลชา ถือว่ามีความหมายอย่างยิ่งสำหรับ แมนฯยูไนเต็ด เนื่องจากบรรดานักเตะใหม่อย่าง แรชฟอร์ด, ลินการ์ด, ลุค ชอว์, วิกเตอร์ ลินเดลอฟ และ เอริค ไบยี ได้รับการกระตุ้นแรงจูงใจได้เป็นอย่างดี

หลักเลี่ยงไม่ได้เลยว่า กุนซือชาวนอร์เวย์ ซึ่งเป็นอดีตกองหน้าของ “ปีศาจแดง” นั้น จะเป็นส่วนสำคัญในการนำความสำเร็จกลับมาสู่สโมสรเหมือนเช่นยุคก่อน