อดีตผู้จัดการของ ฟลีตวู้ด ทาวน์ ที่ตอนนี้กำลังรอลุ้นว่าจะได้คุมทีมไหนเป็นแห่งต่อไป จัดว่าเป็นอดีตแข้งอาชีพที่สร้างสีสัน (ในเชิงลบ) ให้แฟนบอลได้เห็นมาตลอดหลายปี และเป็นที่ถกเถียงกันอยู่กระทั่งทุกวันนี้ว่าถ้าหาก โจอี้ บาร์ตัน สลัดความเกรียน ความก้าวร้าวและเน้นเล่นฟุตบอลเพรียวๆ เขาจะไปได้ไกลมากแค่ไหน และนี่ก็คือเรื่องราวที่น่าสนใจของอดีตมิดฟิลด์นิสัยเกรียนรายนี้ !
การเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งที่ไม่โอเท่าไหร่ !
โจอี้ บาร์ตัน เริ่มต้นอาชีพของเขากับสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเขามีโปรไฟล์ในการเป็นนักเตะเยาวชนของเอฟเวอร์ตัน , ลิเวอร์พูล และย้ายมาสู่อคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลาต่อมา และต่อจากนั้น บาร์ตัน ก็ได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของซิตี้ในสมัยนั้น เควิน คีแกน เป็นกุนซือของทีม และยังหวังที่จะให้ บาร์ตัน ได้ลงสนามเปิดตัวในฐานะนักเตะหน้าใหม่ในเกมกับ มิดเดิลสโบรห์ ในเดือนพฤศจิกายน 2002 แต่ในตอนนั้นบาร์ตันเพิ่งจะมีอายุ 18 ปีเท่านั้น แต่เขากลับทำเสื้อของเขา “หาย” และไม่สามารถเล่นได้ตามกฎที่กำหนดไว้ว่าเขาต้องใส่เสื้อลงแข่งขันตามที่ลงทะเบียนตามหมายเลขเสื้อไว้คีแกนกล่าวกับ สกายสปอร์ต ดอทคอมในเวลานั้นว่า “โจอี้หาเสื้อของเขาไม่เจอ ผมเลยใส่ชื่อเขาลงเล่นไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาวางมันลงไว้ที่ม้านั่งในห้องแต่งตัวโดยมีเสื้อกล้ามวางทับไว้ เขาหามันไม่เจอ และเมื่อเขากลับไปหาอีกรอบ เขาก็ไม่พบมัน”
ความผิดทางอาญาทั้งในและนอกสนาม
บาร์ตัน เคยโดนโทษแบนเป็นเวลานานมาแล้ว หลังจากที่เขาแสดงปฏิกิริยาที่ไร้ความเป็นผู้ดีในเกมที่เขาถูกไล่ออกจากสนามในเกมที่ QPR สู้กับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เรื่องการขึ้นโรงขึ้นศาลของ บาร์ตัน จัดว่าเป็นเรื่องปกติ ชื่อของเขาอยู่ตามโรงพักทั่วอังกฤษมาตลอดเขาเป็นตัวจุดชนวนการทะเลาะวิวาทของนักเตะ 10 คนในเกมกระชับมิตรช่วงปรีซีซั่นตอนกรกฎาคม 2004 กับทีม ดอนคาสเตอร์ และตอนนั้นสมาคมฟุตบอลก็แจ้งข้อหาสำหรับพฤติกรรมที่รุนแรงของบาร์ตันไปด้วยเขาเคยเล่นนอกเกมใส่ผู้เล่นซิตี้สามคนในวันสุดท้ายของฤดูกาล 2011-12 (เป็นเกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ตัดสินเกมและได้แชมป์ลีกครั้งแรก) ซึ่งตอนนั้นเขาเล่นอยู่กับ QPR ส่งผลให้เขาโดนแบนยาว 12 นัดและในช่วงระหว่างการโดนแบนนั้น เขาได้ไปฝึกซ้อมกับฟลีตวู้ด และได้ลงเล่น 45 นาทีในเกมกระชับมิตรช่วงปรีซีซั่นเขาได้ใบแดงจำนวนมาก โดนไปราวๆ 6 ใบจาก 269 เกมในพรีเมียร์ลีก และพฤติกรรมนอกสนามก็ใช่ย่อย ซิตี้เคยพิจารณาโละบาร์ตันออกจากทีม เพราะเนื่องจากเขาสูบซิการ์ต่อหน้านักเตะเยาวชนอย่าง เจมี่ แทนดี้ ในเดือนธันวาคม 2004 ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี และเขาเคยถูกเพื่อนร่วมทีมควบคุมสติอารมณ์ ไม่ให้ไปทำร้ายแฟนบอลเอฟเวอร์ตันที่ยังเป็นวัยรุ่น ในช่วงไปทัวร์ปรีซีซั่นที่ประเทศไทย
คุก ข้าวแดง ของที่เคยชิน !
บาร์ตัน เคยถูกตัดสินให้จำคุกในข้อหาใช้ความรุนแรงมาแล้ว เขาถูกตัดสินให้จำคุก 6 เดือนในเดือนพฤษภาคม 2008 ในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในใจกลางเมืองลิเวอร์พูล แต่ต่อมาเขาก็โดนลดโทษเป็นสั่งจำคุก 74 วันแทน ทาง FA ครั้งหนึ่งเคยไม่พอใจกับพฤติกรรมของเขาที่สั่งสมมานานหลายปี และสั่งแบนจากการแข่งขันเป็นเวลา 4 เดือนในเดือนกรกฎาคม 2008 หลังจากเจ้าตัวได้ยอมรับว่า เคยทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมทีมอย่าง อุสมาเน่ ดาโบ้ ในระหว่างการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงในสนามฝึกซ้อมในเดือนพฤษภาคม 2007แต่เขาก็เคยพยายามแก้ไขปัญหาด้านพฤติกรรมของเขาอยู่ และนอกจากนี้ บาร์ตัน ยังเคยเข้ารับการบำบัดอาการติดแอลกอฮอล์ที่ Sporting Chance Clinic และได้รับการยกย่องอยู่พอสมควรในเรื่องที่เขายังรู้สึกตัวว่าหลายอย่างที่ทำไปนั้นมันคือความผิด
เรื่องพนันขอให้บอก
บาร์ตันเคยแพ้พนันเพื่อนร่วมทีมจนต้องยอม “ไว้หนวด” แต่ว่าเขาก็สามารถโกนมันทิ้งไปได้เมื่อ นิวคาสเซิล สามารถคว้าชัยชนะในเกมพรีเมียร์ลีกกับ แอสตัน วิลล่า ในเดือนสิงหาคม 2010ต่อมาในเดือนตุลาคม 2016 เขาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนัน 44 รายการซึ่งโดนตรวจสอบเจอโดยสมาคมฟุตบอลสก็อตแลนด์ และได้มีคำสั่งให้ บาร์ตัน ห้ามลงทำการแข่งขันในช่วงเวลาหนึ่ง
