เมื่อ อูไน เอเมอรี่ เทรนเนอร์ชาวเปน ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาคุมทีม อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แทนที่ของ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตยอดกุนซือชาวฝรั่งเศส นั้น มันก็เป็นเรื่องยากเสมอสำหรับใครก็ตามที่มาทำหน้าที่
เอเมอรี่ ต้องเจอกับปัญหาใหญ่ทันทีที่มาคุมทีม อาร์เซน่อล เนื่องจาก อารอน แรมซีย์ กองกลางทีมชาติเวลส์ สัญญากำลังจะหมดอายุ และในที่สุดเขาตัดสินใจย้ายไป ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัวเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และ เมซุต โอซิล จอมทัพชาวเยอรมัน ได้รับสัญญาใหม่ด้วยเงินก้อนโต
จากที่กล่าวมาข้างต้นความคาดหวังของหลายๆคนที่มีต่อ เอเมอรี่ อาจไม่มากเกินไปในแง่ของตำแหน่งในลีก และความสำเร็จในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนคาดหวัง คือการปรับปรุงในประเด็นสำคัญหลายๆอย่าง
เริ่มจากสิ่งแรก คือ อาร์เซน่อล ไม่มีแบบแผนการเล่นที่ชัดเจน หากมองจากทีมที่ดีทั้งหมด ต้องมีแผนเกมที่มีโครงสร้างเมื่อบอลอยู่ในความครอบครอง เมื่อเราดูทีมในพรีเมียร์ลีกส่วนใหญ่ เราจะสามารถระบุแผนการเล่นของพวกเขาได้ วิธีที่พวกเขาได้รับลูกบอลจากหลังไปข้างหน้า และเมื่อพวกเขามองหาโอกาสที่จะเปลี่ยนจังหวะการเล่นเพื่อลุ้นทำประตู
พวกเขาจะหาช่องทางทำประตูในทุกโอกาส หรือพยายามที่จะสร้างสรรค์เกมมากขึ้นในการโจมตีตามรูปแบบถนัดของตัวเอง นี่แสดงให้เห็นว่าโค้ชมีความคิดที่ชัดเจนว่าเขาต้องการอะไรจากทีมของเขา และงานที่จำเป็นจะถูกนำไปใช้ในการฝึกซ้อม
แต่เราไม่เห็นสิ่งนี้กับ อาร์เซน่อล นอกเหนือจากการแข่งขันนัดที่พบกับ ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, เชลซี และ นาโปลี ในฤดูกาลที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า “ไอ้ปืนใหญ่” จะไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจนสำหรับการเล่นของพวกเขา และหลังจากผ่านไป 14 เดือน ก็ไม่เข้าใจว่าปรัชญาฟุตบอลของ เอเมอรี่ คืออะไรมากกว่าตอนที่เขาเข้ามาคุมทีมช่วงแรก
สิ่งที่ 2 คือ รูปแบบการป้องกันของ อาร์เซน่อล หายไป สิ่งนี้ควรเป็นพื้นที่ที่ง่ายที่สุดในการปรับปรุงเนื่องจากการขาดความเข้าใจในการป้องกันอย่างชัดเจน โดยในปีสุดท้ายของ เวนเกอร์ นั้น พลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” เล่นเกมรับด้วยความเข้าใจในแท็คติค
พวกเขาตั้งโซนรับในเวลาที่เหมาะสมในการเล่นรวมกันเป็นทีม และพวกเขาก็เข้าไปปิดพื้นที่ช่องว่างของกันและกันได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีการโต้กลับเร็วที่น่ากลัวเมื่อตัดบอลได้จากคู่แข่ง นั่นคือสิ่งที่ เอเมอรี่ ต้องรีบทำโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ในยุคของ เอเมอรี่ นั้น หลายต่อหลายครั้งโซนแนวรับของ อาร์เซน่อล เปิดให้คู่แข่งเล่นได้ง่ายกว่าเดิม และผู้เล่นดูเหมือนไม่แน่ใจในสิ่งที่พวกเขาควรจะทำเมื่อฝ่ายตรงข้ามกำลังครอบครองบอล โดยนักเตะ “ไอ้ปืนใหญ่” ดูเหมือนไม่รู้ว่า เมื่อใดควรดันแนวรับขึ้นไปสูง หรือถอยลงต่ำ
ปัญหาในแนวรับที่กล่าวมาทั้งหมด มันเป็นความจริงที่ว่านักเตะ อาร์เซน่อล อาจไม่เข้าใจในสิ่งที่ เอเมอรี่ บอกให้ทำในสนามฝึกซ้อม หรือไม่สามารถแสดงออกบนสนามในสิ่งที่ โค้ชชาวสเปน ต้องการได้
สิ่งที่ 3 อาร์เซน่อล ไม่ยากที่จะเอาชนะอีกต่อไป หากทีมคู่แข่งมีแผนการเล่นที่มีโครงสร้างแข็งแกร่งทั้งในการโจมตี และการป้องกัน แม้ว่าจะเล่นไม่ดีเป็นพิเศษก็ตาม ทีมที่ดีที่สุดยังคงชนะเกมได้ แม้พวกเขาไม่ได้โชว์ฟอร์มที่สุดยอด แต่มันเป็นเพราะพวกเขาไว้วางใจแผนเกมขั้นพื้นฐานของตัวเอง
แต่เมื่อ อาร์เซน่อล เล่นได้ไม่ดี พวกเขาไม่มีโหมดรีเซตที่พวกเขาสามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นแนวทางของตัวเองได้ ดังนั้นพวกเขาจึงกลายเป็นทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และง่ายต่อการเล่นเมื่อพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในเกมดังที่เราได้เห็นในฤดูกาลนี้กับ วัตฟอร์ด, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ คริสตัล พาเลซ
นอกจากนี้ ยังมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอีกว่า อาร์เซน่อล ยุคนี้ไม่มีผู้นำอยู่ในสนาม สิ่งนี้อาจเป็นจริง แต่จากประสบการณ์ของกูรูฟุตบอลหลายคนมักมองเห็นเป็นสิ่งเดียวกันว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้จัดการทีมและแผนการที่เขาวางไว้
สิ่งที่ 4 วินัยในการเล่นของ อาร์เซน่อล หายไป ภายใต้การคุมทีมของ เวนเกอร์ นั้น วินัยผู้เล่นเป็นปัญหาใหญ่ เราไม่ได้พูดอย่างชัดเจนในแง่ของใบเหลืองและใบแดง แต่ในแง่ที่ผู้เล่นขาดความอดทน และความตระหนักในแง่ยุทธวิธี สิ่งที่ทำให้แย่ลงคือ การลังเลที่จะถึงมัน
ตัวอย่างเช่น แรมซีย์ จะทำให้การวิ่งไปข้างหน้าในฐานะตัวขับเคลื่อนเกม แต่ดาวเตะเวลส์ไม่ได้แสดงความปรารถนาเดียวกันที่จะไปช่วยเล่นเกมรับ ในขณะที่ เวนเกอร์ เต็มใจที่จะขึ้นบอลจากแนวรับก่อนจะเริ่มบุกไปข้างหน้า และต้องการจะได้ครอบครองอย่างปลอดภัย
ถึงกระนั้น เอเมอรี่ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้พัฒนาวินัยผู้เล่น อาร์เซน่อล ให้ดีขึ้นนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีม ในยุคของเทรนเนอร์ชาวสเปน มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย พร้อมกับพฤติกรรมที่เย้ยหยันจากผู้เล่นบางคนโดยเฉพาะกัปตันทีมอย่าง กรานิต ชาก้า ที่แสดงพฤติกรรมไม่ดีกับสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” หลังโดนเปลี่ยนตัวออก
ขณะเดียวกัน มัตเตโอ เก็นดูซี่ กอลกลางดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส นั้น เป็นมิดฟิลด์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ อาร์เซน่อล หากได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง แต่ในขณะที่เขาผิดพลาดอยู่บ่อยครั้งในการโต้เถียงกับกรรมการ รวมถึงมักจะมีช็อตน็อตหลุดแบบคาดไม่ถึง
สิ่งสุดท้าย คือ ความสามัคคีในสโมสร โดยในปีสุดท้ายของ เวนเกอร์ แฟนบอล อาร์เซน่อล สร้างบรรยากาศที่พิเศษอยู่หลายครั้งที่เอมิเรตส์สเตเดียม และดูเหมือนว่า เอเมอรี่ จะทำได้แบบเดียวกันในเกมกับ สเปอร์ส, เชลซี และ ลิเวอร์พูล ซึ่งเสียงร้องเพลงเชียร์ของแฟนบอลดังกระหึ่มทั่วสนาม
อย่างไรก็ตาม ในเกมที่เสมอกับ พาเลซ ทุกอย่างผันผวนอีกครั้ง มันไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเสียงเชียร์แฟนบอลในการตัดสินใจของ เอเมอรี่ ที่ดร็อป โอซิล ไว้ข้างสนาม และบวกกับพฤติกรรมที่น่าโมโหของ ชาก้า ทำให้สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ไม่พอใจอย่างยิ่ง
น่าสนใจว่าที่ในประเด็นทั้ง 5 นั้น เอเมอรี่ จะจัดการการเปลี่ยนแปลงได้ หรือไม่มีเลย นานแค่ไหนที่เทรนเนอร์ชาวสเปน จะแก้ไขได้
