ตีมู ปุ๊กกี้ ดาวยิงทีมชาติฟินแลนด์ของ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ สโมสรน้องใหม่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีฟอร์มการเล่นที่น่าตื่นเต้นในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลนี้ และคนที่เซ็นสัญญาพาเขามาเล่นในถิ่นแคร์โลว์ โร้ด ก็รู้สึกเซอร์ไพร์ส เช่นเดียวกัน
“เราคาดหวังว่า ตีมู จะยิงได้ 29 ประตู ในศึกเดอะแชมเปี้ยนชิพ ที่พวกเราคว้าแชมป์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา มันไม่ได้เป็นเรื่องโกหก เราไม่พยายามเสแสร้งว่า เราเป็นอัจฉริยะในการคว้าตัวเขามาร่วมทีมได้” สจ๊วร์ต เว็บเบอร์ ผู้อำนวยการด้านการกีฬาของ นอริช กล่าวกับ “บีบีซี” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดี
เว็บเบอร์ ถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการนำ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกทีมชาติอังกฤษ มาที่ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2012 รวมถึงทำให้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ และ นอริช ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้สำเร็จ เว็บเบอร์ นั้นรอบรู้เรื่องการสรรหานักเตะมาเสริมทัพเป็นอย่างมาก
“สิ่งที่ผู้คนยังจมอยู่กับรูปแบบเดิมๆก็คือ ความคิดของคนๆหนึ่งที่มองเห็นหรือค้นหาผู้เล่นมาร่วมทีม แต่ตอนนี้มันยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก การมองหานักเตะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย และตั้งแต่ผมเริ่มทำงานนี้ ถ้าคุณดูการใช้ข้อมูลตอนนี้ มันเหลือเชื่อว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง” เว็บเบอร์ กล่าวหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการกีฬาคนแรกของ นอริช ในเดือนเมษายน 2017
เว็บเบอร์ วัย 35 ปี เคยเป็นผู้อำนวยการทีมสรรหานักเตะของ ลิเวอร์พูล ในปี 2009-2012 โดยก่อนหน้านั้น เขาทำงานกับ เร็กซ์แฮม ในบทบาทหัวหน้าศูนย์นักเตะเยาวชน และเขารำลึกถึงกระบวนการที่ดำเนินการอย่างละเอียดเพื่อติดตามฝีเท้าของ สเตอร์ลิง สมัยยังเป็นดาวรุ่ง ของ ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์
เว็บเบอร์ เล่าว่า “ผมโชคดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเซ็นสัญญา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ ลิเวอร์พูล เราติดตามดูเขาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 12 เดือนในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันทั้งในทีมเยาวชน และกับทีมชาติอังกฤษชุดเล็ก
“ผมจำได้ว่า เราเฝ้าดูเขาเล่นในเกมกับเบลเยียม เขาได้ลงเป็นตัวสำรองในสนามที่เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ และมันยังคงเป็นคืนที่หนาวที่สุดในชีวิตของผมในวงการฟุตบอลและเขาก็ลงมา และยิงประตูได้ “มันเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลด้วยตาของคุณเอง และรายงานตามนั้น”
เมื่อเร็วๆนี้ วิธีการที่พิถีพิถันของ เว็บเบอร์ ทำให้ นอริช ได้ตัว ปุ๊กกี้ มาเสริมทัพ โดยอดีตหัวหอก กลาวโกว์ เซลติก ในสก็อตติชพรีเมียร์ลีก ย้ายมาเล่นกับ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” แบบไร้ค่าตัวในเดือนมิถุนายน 2018 ก่อนที่เขาจะโชว์ผลงานกระหน่ำประตูถล่มทลายจนพาทีมคว้าแชมป์เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปีที่แล้ว
การมาถึงของ ปุ๊กกี้ ที่ นอริช นั้น ใช้เวลาหลายปีในการอ้างอิงจากข้อมูล และสถิติต่างๆจาก เว็บเบอร์ และเขายอมรับว่าตัวเองต้องการเซ็นสัญญากับกองหน้าชาวฟินแลนด์ให้เร็วกว่านี้ แต่ก็ต้องพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
“ผมเจอ ปุ๊กกี้ ครั้งแรกเมื่อเขากำลังเล่นอยู่ที่ ชาลเก้ และผมทำงานอยู่ที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ผมบอกกับ สตาเล่ โซลบัคเค่น ผู้จัดการทีมของเราในเวลานั้นว่า เราสามารถเซ็นสัญญากับเขาได้ด้วยค่าตัวประมาณ 1.2 ล้านปอนด์ และ สตาเล่ ชอบความคิดของผม แต่เขาถูกไล่ออกในอีก 2 วันต่อมา”
“จากนั้น ปุ๊กกี้ ไปที่ กลาวโกว์ เซลติก แล้วเราก็ติดตามเขาไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเราเห็นว่าเขาหมดสัญญา เรามองไปที่จำนวนประตูที่เขายิงได้ และโอกาสที่เราจะมี ผมคิดว่าเราจะเซ็นสัญญากับเขาได้ เขาถูกจับตาดูประมาณ 5 ปีแล้ว ดังนั้นเราจึงรู้ว่าเขาเป็นผู้เล่นประเภทไหน และเขาจะเข้ากับวิธีการเล่นฟุตบอลของเราได้อย่างไร” ผู้อำนวยการด้านการกีฬาของ นอริช กล่าว
การปรับตัวให้เข้ากับวิธีการที่ทันสมัยยิ่งขึ้นก็นำมาซึ่งรางวัลสำหรับ เว็บเบอร์ และ นอริช ขณะนี้มีเพียง เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น ที่ทำแอสซิสต์ในลีกได้มากกว่า เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ ของ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” จนถึงตอนนี้
นอริช ค้นพบ บูเอนเดีย ในระหว่างย้ายจาก เกตาเฟ่ ในศึกลา ลีกา สเปน ไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับ กุลตูรัล เลโอเนซา ในเซกุนด้า โดย เว็บเบอร์ กล่าวว่า “ถ้าคุณดูที่ตอนนี้ เราได้เซ็นสัญญากับ บูเอนเดีย จากลีก 2 ของสเปน หลังจากเราเก็บรวบรวมข้อมูลของเขามาตลอด”
“นักวิเคราะห์ของเราเก็บข้อมูลที่ระบุว่า เขาสร้างสรรค์โอกาสได้มากมาย แต่ทีมของเขายิงประตูไม่ได้ แต่สำหรับเรารู้สึกว่า เขาจะเหมาะสมกับวิธีของเราเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเราจะให้ทำประตูได้ถ้าเขาสร้างโอกาสเหล่านั้นให้เรา”
“การแอสซิสต์ของเขาไม่ได้มากมายนักตอนที่เราเซ็นสัญญากับเขา แต่เราก็คาดหวังว่า เขาจะทำได้ และสร้างจำนวนโอกาสที่ยิ่งใหญ่บนสนาม เรารู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อสูงสำหรับนักเตะอายุ 20 ปีในเวลานั้น” เว็บเบอร์ กล่าว
แม้ในที่สุดตอนจบฤดูกาล กุลตูรัล เลโอเนซา จะตกชั้นจาก เซกุด้า แต่ เว็บเบอร์ ก็ไม่ลังเลที่จะแนะนำให้ นอริช เซ็นสัญญากับ บูเอนเดีย โดยดาวเตะอาร์เจนไตน์ ได้รับการเปรียบกับอดีตกองกลางตัวเก่งของ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” อย่าง เจมส์ เมดดิสัน ที่ปัจจุบันย้ายไปค้าแข้งกับ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้
เว็บเบอร์ กล่าวเสริมว่า “ไม่มีความรู้สึกใดที่ดีไปกว่า เมื่อคุณเห็นผู้เล่นที่คุณไปติดตามได้ย้ายมาร่วมทีม แมวมองของเราส่งคลิปการเล่นของ บูเอนเดีย มีความยาว 20 นาทีให้ผมดู แต่แค่ 3 นาทีแรกผมก็รู้สึกสนใจเขาแล้ว หลังจากนั้นผมดูเกมที่เขาเคยเล่นอีก 5 เกมในคืนเดียว มันเหมือนความฝันเลยที่ได้เห็นเขาเล่นฟุตบอล”
ในขณะที่พยายามจะเซ็นสัญญากับ บูเอนเดีย นั้น เว็บเบอร์ เดินทางไปพบกับประธานสโมสร เกตาเฟ่ ที่สเปนด้วยงบประมาณที่จำกัด และค่าตัวของดาวเตะวัย 22 ปี ที่ถูกประเมินไว้นั้น สูงเกินกว่าที่ทาง นอริช คาดการณ์เอาไว้ จนเกือบทำให้การเจรจาไม่บรรลุผล
“ในวงการฟุตบอล คุณมีการเจรจาที่แตกต่างกัน บางคนเป็นมิตร แต่บางคนก็ไม่เป็นแบบนั้น และในท้ายที่สุดผมเพิ่งลุกขึ้นออกจากห้องประชุม และบอกว่าผมจะไปแล้ว ผมเพิ่งเดินออกจากห้องไป คุณสามารถบอกได้ว่านี่เป็นการต่อสู้ทางธุรกิจ และเราจำเป็นต้องต่อสู้กับสโมสรจากต่างประเทศทั้งหมดที่คิดว่า สโมสรจากอังกฤษมีเงิน แต่เราไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น”
“ผมรู้ว่า พวกเขาหมดหวังที่จะทำข้อตกลงนี้ เราสามารถจ่ายได้ เราต้องการผู้เล่นจริงๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ผมกลับบ้านที่ นอริช และหลังจากผ่านไป 2-3 วัน เกตาเฟ่ ก็อยากคุยกับผมอีกครั้ง ผมขับรถไปที่สนามบิน แต่ระหว่างทางผมโทรบอกเอเย่นต์ว่า ผมกำลังจะกลับไปเจรจา แต่ขอให้ประธานสโมสรคุยให้รู้เรื่องกว่านี้ พวกเขารู้ว่า ผมจะไม่กลับมาอีก และเราก็ทำข้อตกลงได้อย่างรวดเร็วตามที่เราต้องการ” เว็บเบอร์ กล่าวปิดท้าย
