เรย์มงด์ โกปา “เพลย์เมกเกอร์ขึ้นหิ้งผู้ไม่เคยใส่เบอร์ 10 มาก่อนในชีวิต”

เรย์มงด์ โกปา “เพลย์เมกเกอร์ขึ้นหิ้งผู้ไม่เคยใส่เบอร์ 10 มาก่อนในชีวิต”

กล่าวกันว่านักเตะที่ได้รับฉายาว่าเป็น “นโปเลียนลูกหนัง” จะต้องเป็นยอดนักเตะที่เป็นระดับ “จอมทัพหมายเลข 10” ของทีมชาติฝรั่งเศส หรือต้องเป็นนักเตะเลือดน้ำหอมที่เก่งที่สุดในประเทศเลยทีเดียว และถ้าหากจะพูดถึงนักเตะที่ได้รับฉายานี้ก็หนีไม่พ้น “มิเชล พลาตินี่” ตำนานแข้งทองของทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์ยูโร 1984 และ ยูเวนตุส ในช่วงกลางยุค 80แต่ว่าก่อนหน้าที่ พลาตินี่ จะได้รับฉายาว่า “นโปเลียนลูกหนัง” ก็มีอีก 1 นโปเลียนลูกหนังที่ลีลาในการเล่นที่โดดเด่น ยอดเยี่ยม และยังเป็นตำนานจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศสยุค 50 ที่คลาสสิกแถมมีทักษะการเล่นที่เหนือชั้นจนถึงขั้นที่ว่าเป็นเพลย์เมกเกอร์ในทีม เรอัล มาดริด ยุค 50 ที่มีแต่สตาร์ดังอัดแน่นอยู่ในทีมอีกด้วยเรากำลังพูดถึงตำนานนักเตะผู้ล่วงลับนามว่า “เรย์มงด์ โกปา” ตำนานเพลย์เมกเกอร์ผู้ครบเครื่องที่ช่วยให้เรอัล มาดริด และสโมสร แรนส์ ประสบควาสำเร็จอย่างสูง และนี่คือเรื่องราวที่น่าสนใจของ “คุณปู่โกปา”

เป็นทายาทของชาวโปแลนด์ที่อพยพมายังฝรั่งเศส

ตัวของ โกปา มีชื่อเต็มๆว่า “โกปาเซฟสกี้” ซึ่งดูจากลักษณะชื่อนั้นก็ชัดเจนว่าเขาน่าจะมีเชื้อสายโปแลนด์ในตัว ถูกต้อง พ่อแม่ของโกปาเป็นชาวโปแลนด์ที่อพยพมาอยู่ในฝรั่งเศส และได้ทำงานเป็นคนงานในเหมือง ส่วนตัวของโกปานั้นแม้ว่าจะมีทักษะในด้านฟุตบอลที่เหนือชั้นกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน แต่ตอนแรกเขาเองก็เกือบจะเดินตามรอยพ่อที่เป็นคนงานในเหมืองเช่นกันแต่ว่าเพราะพ่อของเขาเกิดประสบอุบัติเหตุตอนทำงาน มันเลยทำให้พ่อของโกปา กำชับกับลูกชายทันทีว่าอย่าเดินตามรอยเขา ให้มุ่งมั่นในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพไปแทน มันเลยเป็นจุดหักเหที่ทำให้เจ้าหนุ่มรายนี้ พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นโคตรกองกลางตัวรุกเบอร์ต้นๆของประเทศในที่สุด

เพื่อนไม่ชอบหน้าเพราะสไตล์การเล่นเห็นแก่ตัว

ในสมัยที่ โกปา ย้ายมาอยู่กับสโมสร สต๊าด เดอ แรนส์ ตัวของ โกปา ได้ลงเล่นเป็นปีกขวา แต่ว่าสไตล์การเล่นของเขานั้นค่อนข้างไปในทางเห็นแก่ตัว เขาชอบเลี้ยงบอล ชอบโชว์สกิลส่วนตัวพร่ำเพรื่อและไม่ชอบจ่ายบอลให้เพื่อน จนทำให้นักเตะที่เป็นทีมเมตหลายคนไม่พอใจ รวมถึงแฟนบอลก็ไม่ชอบใจด้วยแต่สุดท้ายก็เป็นผู้จัดการทีมแรนส์ ที่เข้าไปเตือนนักเตะหนุ่มที่กำลังมั่นใจในตัวเองแบบสุดๆอย่างโกปา ว่าให้มองดูการเล่นทีมเวิร์คเป็นหลักและเปลี่ยนโกปาที่ศักยภาพในการเล่นเกมรุกสูงมายืนเป็นกองหน้าตัวกลางที่คอยสร้างสรรค์เกมให้เพื่อนและจะจ่าย จะเลี้ยงบอลหรือยิงก็ทำได้เต็มที่ ซึ่งมันส่งผลให้ โกปา พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นอีก 1 กองหน้าที่สมบูรณ์แบบและเพื่อนๆก็ยกย่องในฝีเท้า

สร้างสถิติแอสซิสต์คนเดียว 4 ครั้งในนัดชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก

สร้างสถิติแอสซิสต์คนเดียว 4 ครั้งในนัดชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก

ในศึกฟุตบอลโลก 1985 ฝรั่งเศสนั้นสามารถคว้าอันดับ 3 มาครองได้ โดยน่าเสียดายที่พวกเขาอดเข้าไปชิงชนะเลิศเพราะปราชัยให้กับ บราซิล ภายใต้การนำทัพของ เปเล่ ในวัย 17 ปี โกปา ยิงประตูที่ 3 ของตัวเองได้ในการแข่งขันนัดชิงที่ 3 กับเยอรมันตะวันตก และไม่เพียงเท่านั้น เขายังทำแอสซิสต์ให้กับ ชุส ฟงแตน ตำนานกองหน้าชาวฝรั่งเศสกระซวกใส่เยอรมันตะวันตกคนเดียว 4 ประตู ซึ่งการทำ 4 แอสซิสต์ในเกมนัดดังกล่าวของโกปา มันก็กลายเป็นอีก 1 สถิติการทำแอสซิสต์สูงสุดในเกม 1 นัดของฟุตบอลโลกนัดชิงที่ 3 มาจนถึงทุกวันนี้

ดาวเตะบัลลงดอร์คนที่ 2 ของ มาดริด

ถ้าหากว่า อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ คือนักเตะคนแรกของ เรอัล มาดริด ที่ได้รางวัลบัลลงดอร์ นักเตะคนที่ 2 ของมาดริดที่ได้บัลลงดอร์ก็คือ โกปา คนนี้นั่นเอง โดยตัวของโกปานั้น มีชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ติดต่อกันถึง 4 ปีซ้อน และได้ไปครอง 1 ครั้งในปี 1958

เล่นเพลย์เมกเกอร์แต่ชีวิตนี้ไม่เคยใส่เบอร์ 10

เล่นเพลย์เมกเกอร์แต่ชีวิตนี้ไม่เคยใส่เบอร์ 10

โกปานั้นเป็นที่ยอมรับในเรื่องการเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์ ซึ่งตามปกตินั้นนักเตะที่เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกหรือเพลย์เมกเกอร์นั้นมักจะใส่เสื้อเบอร์ 10 แต่ตัวของโกปานั้นกลับไม่เคยใส่เสื้อเบอร์ดังกล่าวเลยทั้งในทีมชาติและสโมสร ถ้าหากไม่ใช่เบอร์ 7 ก็จะเป็นเบอร์ 9 หรือเบอร์ 11 ซะมากกว่าที่เขาได้ใส่ ซึ่งตัวของโกปาก็เคยกล่าวไว้ว่า เขาไม่ได้สนใจเรื่องตัวเลขหรือคิดว่าเบอร์ 10 คือเบอร์ที่ผูกขาดของเพลย์เมกเกอร์ แต่ก็ไม่รังเกียจเช่นกันถ้าหากจะได้ใส่เบอร์ 10