ลิโอเนล เมสซี่ ราชันย์ลูกหนังชาวอาร์เจนตินาที่เวลานี้กำลังมีช่วงเวลาที่มาคุกับสโมสร บาร์เซโลนา อย่างสุดๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมตัวของ “คิงเลโอ” ถึงได้เริ่มหมดไฟกับสโมสร บาร์เซโลนา ที่เขาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมมานานตั้งแต่ปี 2004 แบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขา !เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้น เมสซี่ เคยคิดที่จะแตกหักกับสโมสรด้วยการยื่นเอกสารขอย้ายทีมมาแล้ว โดยจะเป็นการขอยกเลิกสัญญา แต่สุดท้ายนั้นมันเกือบจะถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลเลยทีเดียว ซึ่งด้วยเหตุผลนี้ที่เรื่องราวอาจจะบานปลาย มันเลยทำให้เมสซี่ยอมที่จะอยู่กับสโมสรต่อไปอีก 1 ปีจนกระทั่งหมดสัญญาไปเองแต่ทว่า มันไม่มีทางไหนเลยหรือที่จะเปลีย่นใจของเมสซี่ได้ แล้วอะไรที่ทำให้เขารู้สึกหมดแล้วกับบาร์ซ่า !
16 ปีกับสโมสรเดิม ก็ต้องมีเบื่อบ้าง
คนเราอยู่ที่เดิมนานๆแค่ไม่กี่วัน บางทียังมีเบื่อ แล้วประสาอะไรกับนักเตะระดับโลกอย่าง เมสซี่ ที่ซึ่งเขาค้าแข้งกับ บาร์เซโลนา มานานถึง 16 ปี และถ้าหากว่าเรารวมเอาช่วงเวลากับทีมเยาวชนบาร์ซ่าที่เขาก้าวเข้ามาอยู่ใน ลา มาเซีย ตั้งแต่ปี 2000 นั่นก็หมายความว่าจวบจนถึงตอนนี้ เมสซี่ ใช้ชีวิตในสโมสรแห่งนี้มานาน 20 ปีเต็มแล้วเขาอยู่ที่นี่มานาน เห็นทุกอย่างในสโมสรจนแทบจะหลับตาเดินได้ บางครั้งเขาเองก็อาจจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับอะไรเดิมๆ จนอยากจะออกไปเจอกับสถานที่ใหม่ๆให้เขามีไฟในการเล่นมากขึ้นก็ได้
ความผิดหวังในถ้วยยุโรปที่ซ้ำซาก
นับตั้งแต่ที่ เมสซี่ ได้สัมผัสกับแชมป์ยุโรปหนล่าสุดในปี 2015 จากนั้นมาเมสซี่ไม่เคยได้สัมผัสกับถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกอีกเลย พวกเขาตกรอบเพราะน้ำมือของ แอตเลติโก มาดริด ในปี 2016 , โดนยูเวนตุสอัดในปี 2017 และจากนั้นก็มาพลิกล็อกพ่ายแพ้ให้กับ โรม่า แบบช็อกโลก ทั้งๆที่ในเกมแรกนั้นพวกเขาตุนสกอร์ไว้ได้เป็นกอบเป็นกำและที่เด่นสุดๆคือในปี 2019 ที่บาร์ซ่าแพ้ให้กับลิเวอร์พูลในรอบ 4 ทีมสุดท้ายเลกสอง ทั้งๆที่เอาชนะมาแบบสบายเท้า 3-0 ในเกมแรก มันคือการตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายขึ้นไปถึง 2 ปีติดต่อกันจากการคุมทีมของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ และมาปราชัยแบบบอบช้ำ 8-2 ให้กับบาเยิร์น มิวนิค เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสภาพทีมบาร์ซ่าชุดนี้ ไม่เหลือความเกรียงไกรที่จะมีลุ้นในการคว้าแชมป์ยุโรปอีกแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมสซี่จะรู้สึก “พอ” กับทีมนี้
การวางระบบการเล่นในช่วงหลังที่ไม่เหมาะกับตัวเอง
ก่อนหน้านี้ เมสซี่ เคยได้รับยาว่า “เดอะ แบก” เพราะเขาต้องทำหน้าที่ทุกอย่างในทีม ทั้งการปั้นเกม จ่ายบอล ทำประตู ทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมชนะด้วยตัวเขาคนเดียว ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมก็ตามการเล่นของเขาไม่ทัน มันว่าหนักหนาแล้วยิ่งมาเจอกับแผนการเล่นที่เริ่มจะไม่เห็นแก่ความสำคัญในการเล่นเกมรุก มันก็ยิ่งทำให้เมสซี่รู้สึกได้ว่า การจะอยู่กับบาร์ซ่าในยุคสมัยนี้ต่อไป มันคงไม่เหมาะสมแน่นอนเพื่อนรักนามว่า “หลุยส์ ซัวเรซ”เมสซี่ กับตัวของ หลุยส์ ซัวเรซ ถึงจะเป็นนักเตะที่เกิดคนละประเทศกัน แต่ก็เป็นคนที่เกิดในปี 1987 เหมือนกัน พูดภาษาเดียวกัน เล่นในแนวรุกเหมือนกัน มันยิ่งทำให้พวกเขาต้องพูดคุยกันบ่อยๆ และเมื่ออยู่ด้วยกันนานวันขึ้นก็ยิ่งคุยกันถูกคอมากขึ้นจนพัฒนาความสัมพันธ์และกลายเป็นเพื่อนรักต่อกันในที่สุดแต่การที่ บาร์เซโลนา กล้าหักหามน้ำใจของ ซัวเรซ ด้วยการยกเลิกสัญญาของเขาแบบไม่ใยดี มันก็ยิ่งทำให้ เมสซี่ รู้สึกผิดหวังกับการกระทำของสโมสรแบบนี้ ถ้าหากสโมสรยังกล้าทำแบบนี้กับซัวเรซ อีกหน่อยก็คงกล้าทำกับนักเตะคนอื่นด้วยการทำอะไรที่ไม่ให้เกียรตินักเตะ คือสิ่งที่เมสซี่รับไม่ได้อย่างมาก แถมตอนนี้เขาเองก็ไม่เหลือแชมป์อะไรให้ท้าทายกับบาร์ซ่าแล้ว มันคงเป็นการตัดสินใจที่ไม่ยากนัก ถ้าหากเขาจะย้ายออกไป
