เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลั่น “ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก”

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลั่น ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก

ที่ ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ให้สัมภาษณ์หลังเกมที่ “เรือใบสีฟ้า” บุกไปพ่าย “หงส์แดง” 3-1 ที่สนามแอนฟิลด์ ในเกมลีกเมื่อวัน 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยยกย่อง ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมันว่า เป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก

ขณะที่ แบร์นาโด้ ซิลวา จอมทีมทีมชาติโปรตุเกสของ แมนฯซิตี้ ก็กล่าวชื่นชม ลิเวอร์พูล เช่นเดียวกัน โดยระบุว่า “คูณอาจเล่นได้ดีกว่าพวกเขา และครองบอลได้มากกว่า แต่สกอร์มันยังคงเป็น 2-0 และ 3-0 หลังจากนั้น”

ขณะเดียวกันผลพวงจากการพ่ายแพ้ของ แมนฯซิตี้ นั้น ทำให้พวกเขาต้องหล่นมาอยู่อันดับ 4 ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก โดยมีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นจ่าฝูงมากถึง 9 คะแนน หลังจากผ่านการเล่นไปทั้งสิ้น 12 เกม

การประเมินคุณภาพที่แม่นยำที่สุดของ ลิเวอร์พูล ชุดนี้ มาจากคนที่เคยประสบความสำเร็จในการบุกมาแย่งแต้มในถิ่นแอนฟิลด์ นั่นก็คือ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเขาก็เคยเป็นคู่ต่อกรที่สำคัญของ กวาร์ดิโอล่า ด้วยเช่นเดียวกัน

มูรินโญ่ ซึ่งปัจจุบันรับบทกูรูให้กับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีระบุว่า คล็อปป์ เป็นผู้จัดการทีมที่สมบูรณ์แบบ และคำพูดเหล่านั้นของโค้ชชาวโปรตุเกส ก็ช่วยอธิบายว่า ทำไม ลิเวอร์พูล ถึงทำได้ดีกว่า แมนฯซิตี้

ลิเวอร์พูล ชนะการต่อสู้ในแดนกลางอย่างชัดเจน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินีโอ ไวจ์นัลดุม และ ฟาบินโญ่ ทำหน้าที่เป็นผู้ทำลายเกมของ แมนนฯซิตี้ และผู้สร้างสรรค์เกมในเวลาเดียวกัน และ ฟาบินโญ่ ยังสามารถช่วยยิงประตูแรกให้กับ “หงส์แดง” ได้อีกด้วย

กองกลางทั้ง 3 ราย ของ ลิเวอร์พูล มีสภาพร่างกายที่ฟิตมาก มีระเบียบวินัยในการเล่น ทนต่อการถูกกดดัน ประสบความสำเร็จในการผ่านบอล การครอบครอง และการเล่นโดยที่ไม่มีบอล ในขณะที่มิดฟิลด์ แมนฯซิตี้ ทำได้เพียงผ่านบอลไป-มา เท่านั้น

นอกจากนี้ ฟูลแบ็ค 2 ฝั่งของ ลิเวอร์พูล อย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ แบ็คขาวดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายทีมชาติสก็อตแลนด์ ยังคงแสดงให้เห็นว่าทำไมพวกเขาถึงได้รับการยกย่องอย่างมากจากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับประตูลูกที่ 2 ของ ลิเวอร์พูล ก็เริ่มจาก อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ เปิดบอลทแยงมุมจากฝั่งขวามาที่ฝั่งซ้ายของสนามให้กับ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลผ่านแนวรับของ แมนฯซิตี้ ให้กับ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ปีกทีมชาติอิยิปต์โหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม

คล็อปป์ กล่าวถึงประตูที่ 2 ของ ลิเวอร์พูล ว่า “ผมไม่คิดว่า ตัวเองเคยเห็นการทำประตูแบบนี้มาก่อน โดยการที่แบ็คขวาเปิดบอลระยะ 60 หลาไปให้กับแบ็คซ้าย ที่เปิดบอลกลับเข้ามาจากระยะ 40-50 หลา ให้กองหน้าโหม่งทำประตู มันยอดเยี่ยมมาก มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราทำประตูแบบนี้ได้”

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ในเกมกับ แมนฯซิตี้ นั้น อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ และ โรเบิร์ตสัน เป็น 2 คีย์แมนสำคัญของ ลิเวอร์พูล เช่นกัน โดยแบ็คขวาชาวอังกฤษ ทำสถิติสัมผัสบอล และเปิดบอลมากที่สุดในสนาม พวกเขาทั้งคู่ตัดบอลได้ 3 ครั้ง เคลียร์จังหวะอันตราย 5 ครั้ง และเข้าสกัดจังหวะสำคัญไป 2 ครั้ง

ก่อนหน้านี้ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมพัฒนาการเล่นของตัวเองโดยมี แอชลี่ย์ โคล อดีตแบ็คซ้ายจอมบุกของ อาร์เซน่อล และ เชลซี เป็นต้นแบบ เมื่อผมโตขึ้น ผมต้องการเปลี่ยนวิธีการคิดสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็ค เพราะผมต้องการแสดงให้เห็นว่าฟูลแบ็ค ก็มีอิทธิพลต่อเกมเหมือนกับผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆ”

นักเตะในตำแหน่งฟูลแบ็คมันเป็นบทบาทที่สำคัญที่ คล็อปป์ และ กวาร์ดิโอล่า ต่างพูดถึงกันอยู่เสมอ และ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ ก็จัดการกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกทีมชาติอังกฤษ ซี่งได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของ แมนฯซิตี้ ได้อย่างยอดเยี่ยม

ในความเป็นจริงการป้องกันของ ลิเวอร์พูล โดยทั่วไปนั้นยอดเยี่ยม แต่พวกเขาก็เปิดช่องให้ ซิลบา ยิงตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 78 แต่ผู้เล่นแนวรับของพลพรรค “หงส์แดง” อย่าง อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์, โรเบิร์ตสัน, เวิร์จิล ฟาน ไดจค์ กองหลังชาวดัตช์, เดยัน ลอฟเรน ปราการหลังโครเอเชีย และ อลิสสัน เบ็คเกอร์ นายทวารทีมชาติบราซิล ก็สามารถช่วยกันรักษาสกอร์ไวได้

เมื่อ กวาร์ดิโอล่า ถูกถามว่าทำไม ลิเวอร์พูล ถึงเล่นด้วยยาก โดยกุนซือ “เรือใบสีฟ้า” ก็ตอบว่า “พวกเขามีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อในทุกตำแหน่ง เมื่อคุณตั้งรับและป้องกันในกรอบเขตโทษ พวกเขาจะเริ่มเปิดแนวรับของคุณจากการเปิดบอลของ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ และ โรเบิร์ตสัน”

“เมื่อพวกเขาบุกเข้ามา มันไม่ใช่แค่ มาเน่, ซาลาห์, เฟอร์มิโน่ แต่ เฮนเดอร์สัน ก็มักจะมาพร้อมกับจังหวะที่ถูกต้องเช่นเดียวกันกับ ไวจ์นัลดุม และบอลจังหวะ 2 ของเรามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่กับสถานการณ์แบบนั้น”

“เมื่อคุณสามารถจัดตำแหน่งในสนามได้ พวกเขาก็จะไปตั้งรับกันทั้งทีมแผงแบ็คโฟร์ และเมื่อเราพยายามบุกเข้าไปมันก็เป็นงานยาก มันเป็นความยอดเยี่ยมของ เจอร์เก้น และคุณภาพจากการคุมทีมตลอดอาชีพของเขา เหมือนกับประตูที่ 2 ที่พวกเขายิงได้” อดีตกุนซือ บาร์เซโลน่า กล่าว

มีอีกแง่มุมหนึ่งของเกมของ ลิเวอร์พูล ที่จะสร้างความประทับใจให้ มูรินโญ่ โดยเฉพาะ ไหวพริบและความฉลาดที่ทำให้เกมช้าลงเพื่อป้องกันไม่ให้ แมนฯซิตี้ ยิงลูกฟรีคิกหรือเตะมุม ซึ่งทำให้ “เรือใบสีฟ้า” เล่นผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัด พวกเขายังตอบสนองต่อช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

สำหรับความผิดหวังที่เข้าใจได้เกี่ยวกับ VAR คำอธิบายของแฮนด์บอลของคณะกรรมการตัดสิน ซึ่งเป็นการลดความจริงที่ว่า ในลูกแรกบอลมันโดนแขนของ ซิลวา ก่อนจะไปโดนแขน อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ ซึ่งเป็นปัจจัยในกติกาใหม่ก็ไม่มีประโยชน์

แมนฯซิตี้ แพ้ในที่สุด และพวกเขาก็ไม่ได้จุดโทษจาก 2 จังหวะสำคัญ ส่วน ลิเวอร์พูล จัดการกับเกมสำคัญนัดนี้ได้เป็นอย่างดีโดยเริ่มจากจุดเปลี่ยนของเกมเมื่อ แมนฯซิตี้ หยุดเล่น และพยายามที่จะเรียกหาแฮนด์บอล แทนที่จะเล่นต่อไปตามคำตัดสินของกรรมการ

แมนฯซิตี้ แพ้ในที่สุด และพวกเขาก็ไม่ได้จุดโทษ