เส้นทางสู่ บาร์เซโลน่า เควิน-พรินซ์ โบอาเทง [Kevin-Prince Boateng]

Kevin-Prince Boateng

Kevin-Prince Boateng

Kevin Prince Boateng หรือ เควิน ปริ๊น บัวเต็ง เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 1987 ในประเทศเยอรมนี เป็นลูกครึ่งเยอรมัน – กาน่า เลือกลงเล่นฟุตบอลทีมชาติให้กับทีมชาติเยอรมนีตั้งแต่เยาวชน แต่ลงเล่นทีมชาติชุดใหญ่ให้กับทีมชาติกาน่า โดยเล่นให้กาน่า 15 เกมส์ในช่วงปี2010 ถึง 2014 มีส่วนช่วยให้กาน่าผ่านเข้าไปแข่งฟุตบอลโลกในปี2010 และ2014 ปัจจุบันเป็นนักฟุตบอลอาชีพของสโมสรในประเทศสเปนอย่าง บาร์เซโลน่า แต่ถูกปล่อยให้สโมสรซัสซัวโล่ ยืมตัวไปใช้งาน ตำแหน่งที่เล่นคือ กองกลาง แต่ก็สามารถเล่นให้ตำแหน่งกองหน้าได้เช่นกัน บัวเต็งเป็นนักเตะที่มีความแข็งแกร่ง คล่องแคล่ว และมีชั้นเชิงที่ดี ปี2014 ฟีฟ่าอธิบายถึงบัวเต็งว่า เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ ทั้งความแข็งแกร่ง, ความเร็ว, และสัญชาติญาณการทำประตู และมีชั้นเชิงที่โดดเด่น ยามเล่นเป็นตัวรุก ตลอดการค้าแข้งของเขา บัวเต็งค้าแข้งกับหลากหลายสโมสร ทั้งในเยอรมนี, อิตาลี, อังกฤษ และสเปน

ระดับสโมสรอาชีพ

ช่วงเริ่มต้น

Reinickendorfer Füchse

Reinickendorfer Füchse

บัวเต็งเริ่มต้นชีวิตนักฟุตบอลอาชีพ เมื่ออายุได้ 6 ขวบกับสโมสร Reinickendorfer Füchse ในปี 1994 ต่อมาอายุครับ 7 ขวบ เซ็นสัญญากับทีม แฮร์ธ่า บีเอสซี ในวันที่ 1 กรกฎาคม 1994 ก่อนจะได้ลงเล่นอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กรกฎาคม 2007 ตอนที่อายุครบ 20 ปี

ช่วงเริ่มต้นกับ แฮร์ธ่า บีเอสซี

แฮร์ธ่า บีเอสซี ทู

หลังจากแยกตัวออกจากสโมสรแฮร์ธ่า บัวเต็งก็เล่นให้ทีมแฮร์ธ่า บีเอสซี ทู อยู่ 2 ฤดูกาล ก็ได้เลื่อนขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล2005-06

แฮร์ธ่า บีเอสซี

บัวเต็งลงเล่นเกมส์แรกให้แฮร์ธ่าในวันที่ 13 สิงหาคม 2005 เกมส์ที่ชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต 2-0 ที่สนามโอลิมปิค สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นนัดที่สองของเกมส์การแข่งขันฤดูกาล2005-06 ในฐานะตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลัง เขาได้รับรางวัล Fritz Walter Bronze Medal Award ในอายุไม่เกิน 18 ปี ประจำปี2005 และบัวเต็งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมส์ที่ 14 ของฤดูกาล เกมส์ที่เสมอกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค วันที่ 27 กรกฎาคม 2006 บัวเต็งได้รับรางวัล Fritz Walter Medal ในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
ท๊อตแน่มฮอตสเปอร์ส และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ปี2007 บัวเต็ง เซ็นสัญญา 4 ปีกับทางท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส โดยมีค่าตัวในการย้ายทีม 5.4 ล้านปอนด์ ทำให้เขาได้โอกาสลงเล่นในยูฟ่า คัพ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จกับสเปอร์สมากนัก ก่อนจะถูกปล่อยให้ทาง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเดือนมกราคม 2009

บัวเต็งลงเล่นให้กับดอร์ทมุนด์ 10 เกมส์ในบุนเดสลีกา แต่พลาดการลงเล่นในช่วงสองนัดสุดท้าย เนื่องจากเขาถูกห้ามลงแข่ง 4 นัดจากสมาคมฟุตบอลเยอรมนี (DFB) ในการกระโดดเตะใส่ศีรษะของ มาโกโตะ ฮาเซเบะ นักเตะของโวล์ฟบวร์ก อย่างไรก็ตามหลังจบฤดูกาล ดอร์ทมุนด์ มีความพยายามในการเซ็นสัญญาเขาเป็นการถาวร แต่ปัญหาการเงินของสโมสรทำให้ไม่สามารถเซ็นสัญญาครั้งนี้ได้

พอร์ทสมัธ

พอร์ทสมัธ

เดือนสิงหาคม2009 พอร์ทสมัธ ทีมจากพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับ บัวเต็ง 3 ปี โดยมีค่าตัวในการย้ายทีม 4 ล้านปอนด์ วันที่ 12 กันยายน 2009 เขาก็ทำประตูแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ได้สำเร็จ ด้วยการยิงใส่ทีม โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนนั้นอีกด้วย จบฤดูกาลแรกกับพอร์ทสมัธ บัวเต็งทำได้ 22 ประตู ในพรีเมียร์ลีก แต่ทีมก็ตกชั้นเนื่องจากปัญหาทางการเงินในตอนนั้น

เดือนพฤษภาคม 2010 เกมส์เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศระหว่าง พอร์ทสมัธ กับ เชลซี ซึ่งเชลซีชนะไป 1-0 ในระหว่างการแข่งขัน บัวเต็งทำฟาวล์ใส่ มิชาเอล บัลลัค เป็นเหตุให้บัลลัคได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า จนพลาดการแข่งขันฟุตบอลโลก2010 โดยบัวเต็งบอกว่าเขาโดนบัลลัคตบหน้าเขาก่อน แต่เขาก็ได้ขอโทษต่อบัลลัคเป็นการส่วนตัวแล้ว บัวเต็งได้เผยว่า สื่อเยอรมันและบัลลัคเชื่อถือไม่ได้ หลังจากที่ทำเป็นไม่สนเหตุที่เขาโดนตบหน้าในสนาม และยังกล่าวถึง โจอาคิม เลิฟ ว่าปกป้องบัลลัคมากเกินไป หลังจากที่บัลลัคได้ตบหน้า ลูคัส โพโดสกี้ ในระหว่างซ้อมทีมชาติปีก่อน

เจนัว และ เอซี มิลาน

เอซี มิลาน

วันที่ 17 สิงหาคม 2010 บัวเต็งย้ายมาร่วมทีม เจนัว ด้วยค่าตัว 5.75 ล้านยูโร พร้อมสัญญา 3 ปีกับเจนัว และย้ายไปร่วมทีมเอซี มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว หลังจากที่เป็นเจ้าของร่วมกันด้วยราคา 5.25 ล้านยูโร ต่อมาเดือนมิถุนายน 2011 มิลานได้ซื้อตัวบัวเต็งอย่างเด็ดขาดจากเจนัว ด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร โดยมีสัญญา 4 ปี จนถึงเดือนมิถุนายน 2015

วันที่ 23 ตุลาคม 2013 บัวเต็งลงมาเล่นในครึ่งหลัง เกมส์ที่เจอกับ เลซเช่ และใช้เวลา 14 นาที ทำได้ 3 ประตู โดยในครึ่งแรกมิลานตามอยู่ 0-3 แต่จบเกมส์ด้วยผลชนะ 4-3 หลังจบเกมส์ทำให้บัวเต็งเป็นนักเตะคนที่ 2 ที่ทำแฮตทริก ได้ในการลงเล่นเป็นตัวสำรอง โดยคนที่ทำแฮตทริกได้เร็วที่สุดคือ ดาวิด เทรเซเก้ ที่ใช้เวลา 10 นาทีตอนที่อยู่กับ ยูเวนตุส ในปี2001

วันที่ 3 มกราคม 2013 ในขณะที่มิลานกำลังแข่งกับ โพร พาเตรีย ทีมในดิวิชั่นสองของอิตาลี ซึ่งเป็นเกมส์กระชับมิตร ช่วงกลางสัปดาห์ ปรากฏว่า มีแฟนบอลตะโกนเหยียดสีผิว ทำให้บัวเต็งโมโห เตะฟุตบอลขึ้นอัฒจรรย์ แล้วเดินออกนอกสนามทันที เพื่อนร่วมทีมก็เดินตามออกมา จนเป็นเหตุให้ต้องยุติการแข่งขันลง และมีการออกมาประณามการเหยียดสีผิวของกลุ่มแฟนบอลในภายหลัง

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ บัวเต็งทำประตูในยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกที่มิลานเจอกับ บาร์เซโลน่า ในรอบ 16 ทีม นัดแรก ทำให้มิลานชนะ 2-0 เดือนสิงหาคม 2013 บัวเต็งเผยว่า เขาได้เปลี่ยนรูปแบบการเล่นจากเดิม โดยหน้าที่หลักก่อนหน้านี้คือการเล่นเป็นกองกลางตัวรับ แต่เปลี่ยนมาเป็นกองกลางตัวจ่ายบอลเพื่อทำเกมส์รุก

ชาลเก้04

ชาลเก้04

วันที่ 30 สิงหาคม 2013 เอซี มิลาน ขายบัวเต็งให้กับสโมสรในเยอรมันอย่าง ชาลเก้04 ในราคา 10 ล้านยูโร พร้อมเซ็นสัญญา 4 ปี หรืออยู่กับชาลเก้04 ถึงเดือนมิถุนายน 2013 บัวเต็งลงเล่นนัดแรกให้กับชาลเก้ ในเกมส์ที่ชนะเลเวอร์คูเซ่น 2-0 วันที่ 14 กันยายน 2013 เขาทำประตูชัยให้ชาลเก้ชนะ ไมนซ์ 1-0 วันที่ 30 ตุลาคม 2013 บัวเต็งได้รับเลือกจากแฟนบอลให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม 2013 วันที่ 9 พฤศจิกายน 2013 บัวเต็งทำสองประตู ช่วยให้ชาลเก้ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 3-1 จบฤดูกาล บัวเต็งทำได้ 7 ประตูในบุนเดสลีกา ช่วยให้ชาลเก้จบด้วยอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน

วันที่ 11 พฤษภาคม 2015 บัวเต็ง, ซิดนีย์ แซม และมาร์โก โฮเยอร์ ถูกห้ามลงการแข่งขันจากฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้ทีมแพ้ต่อ เอฟซี โคโลญน์ จนกระทั่งวันที่ 8 ธันวาคม 2015 ชาลเก้ก็ยกเลิกสัญญานักเตะกับบัวเต็ง

กลับสู่ เอซี มิลาน อีกครั้ง

หลังจากชาลเก้04 ยกเลิกสัญญากับบัวเต็งแล้ว เขาก็กลับมาร่วมทีม เอซี มิลาน อีกครั้ง ในวันที่ 5 มกราคม 2016 โดยเซ็นสัญญา 6 เดือน และลงเล่นอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มกราคม 2016 โดยลงเล่นให้มิลาน 36 นาที ในเกมส์กับโรม่า ที่เสมอกัน 1-1 โดยเป็นการยิงประตูได้ตั้งแต่นัดแรก ตั้งแต่กลับมาแข่งที่ ซาน ซิโร่ อีกครั้ง และอีก 6 วันต่อมาก็ช่วยให้มิลานเอาชนะ ฟิออเรนติน่า 2-0 วันที่ 25 พฤษภาคม 2016 เจ้าของสโมสรอย่าง ซิลวิโอ แบร์ลัสโคนี่ ได้ประกาศว่า บัวเต็งได้ออกจากสโมสรแล้วหลังหมดสัญญา พร้อมกับนักเตะในทีมอย่าง อเล็กซ์, ฟิลิปป์ แม็กเซส และมาริโอ บาโลเตลี

ลาส พัลมาส

ลาส พัลมาส

วันที่ 2 สิงหาคม 2016 สโมสร ลาส พัลมาส สโมสรฟุตบอลจากประเทศสเปน ได้ประกาศตกลงเซ็นสัญญา บัวเต็ง มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อย หลังเอซี มิลานได้ปล่อยตัวจากสโมสร โดยเขาลงเล่นให้กับลาส พัลมาส นัดแรกในวันที่ 22 สิงหาคม 2016 และเอาชนะบาเลนเซียไปได้ 4-2 วันที่ 24 ตุลาคม บัวเต็งทำประตูแรกให้กับ ลาส พัลมาส ในเกมส์ที่เจอกับบียาร์เรอัล และเป็น 1 ในประตูยอดเยี่ยมของลาลีกา ในปีนั้น

วันที่ 16 สิงหาคม 2017 ลาส พัลมาส ได้ประกาศว่าได้ยกเลิกสัญญากับบัวเต็งด้วยความยินยอมทั้งสองฝ่าย ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่สามารถเปิดเผยได้

ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต
วันที่ 18 สิงหาคม 2017 บัวเต็ง ได้ย้ายไปร่วมทีม ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต ด้วยสัญญา 3 ปี

ซัสซัวโล่

ซัสซัวโล่

วันที่ 5 กรกฎาคม 2018 บัวเต็ง เซ็นสัญญาร่วมทีม ซัสซัวโล่ 3 ปี

บาร์เซโลน่า

บาร์เซโลน่า

วันที่ 21 มกราคม 2019 บาร์เซโลน่า ได้เซ็นสัญญายืมตัวบัวเต็งมาร่วมทีมจนจบฤดูกาล2018-19 โดยพ่วงสัญญาซื้อขาดในราคา 8 ล้านยูโร โดยเขามาเพื่อเป็นตัวสำรองของ หลุยส์ ซัวเรซ หลังจากนักเตะตำแหน่งนี้อย่าง มูเนียร์ เอล ฮัดดาดี ถูกขายให้กับเซบีญ่า การย้ายมาร่วมทีมครั้งนี้ทำให้เขาเป็นนักเตะกาน่าคนแรกที่ย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลน่า และได้ลงเล่นให้บาร์เซโลน่าครั้งแรกในวันที่ 23 มกราคม โดยไปเยือนเซบีญ่า และแพ้ไป 0-2 ในฟุตบอลโคปา เดล เรย์ นัดแรก ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ระดับทีมชาติ

ทีมชาติชุดเยาวชน

เยอรมนี

บัวเต็งถือพาสพอร์ตของเยอรมัน และลงเล่นให้ทีมชาติเยอรมันในชุดเยาวชน โดยลงเล่นให้ทีมชาติเยอรมนี ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ในการแข่งขัน ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน อายุไม่เกิน 19 ปี ที่เจอกับทีมชาติกรีซ รุ่นดังกล่าว โดยเยอรมนีชนะไป 3-0 และประตูยิงไกลของเขาก็ถูกโหวตให้เป็นประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน โดยผู้ชมรายการ Das Erste TV รายการกีฬาของเยอรมัน

ปี2007 สำนักข่าวเมืองเบอร์ลิน รายงานว่า โค้ชทีมชาติเยอรมัน ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี เดียเตอร์ อีลต์ส ไม่เลือกบัวเต็งและเพื่อนร่วมทีมชาติเข้าร่วมทีม เนื่องจากละเมิดข้อห้ามของทีมชาติในระหว่างซ้อมเพื่อแข่งขันรายการ ตูลง ทัวร์นาเม้น เดือนมิถุนายน 2007 ในประเทศฝรั่งเศส จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2009 บัวเต็งได้รับการเรียกติดทีมชาติเยอรมัน ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ภายใต้โค้ชคนใหม่อย่าง ฮอรส์ต ฮรูเบสต์ ในเกมส์กระชับมิตรกับทีมชาติไอร์แลนด์ และให้บัวเต็งเป็นนักเตะหลักของการแข่งขันยูฟ่า ยูโรเปี้ยน2009 อายุไม่เกิน 21 ปี ประเทศสวีเดน ในเดือนมิถุนายน 2009

เดือนมิถุนายน 2009 บัวเต็งบอกกับสมาคมฟุตบอลเยอรมันว่าไม่ต้องการลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ของเยอรมัน

ทีมชาติชุดใหญ่

ทีมชาติกาน่า

ทีมชาติกาน่า

บัวเต็งได้รับพาสพอร์ตของกาน่า และถือสัญชาติกาน่าในเดือนพฤษภาคม 2010 เขาบอกว่า เขาเป็นกาน่ามากกว่า และลงเล่นทีมชาติชุดใหญ่ให้กับทีมกาน่า ในฟุตบอลโลก 2010 โดยนัดแรกในนามทีมชาติ คือเกมส์ที่ชนะทีมชาติลัตเวีย 1-0 เดือนมิถุนายน2010

ฟุตบอลโลก2006

ปี2006 สมาคมฟุตบอลกาน่าได้ติดต่อกับบัวเต็งเพื่อให้ลงแข่งขันให้กับทีมชาติกาน่าในฟุตบอลโลก2006 แต่ทางฟีฟ่าใช้เวลาในการพิจารณาเรื่องนี้ค่อนข้างนาน เนื่องจากอายุของบัวเต็งเกินอายุที่ฟีฟ่ากำหนดในการเปลี่ยนสัญชาติไปแล้ว และตัดสินให้บัวเต็งลงเล่นให้ทีมชาติกาน่าได้ในปี2009 หลังจากได้รับไฟเขียว บัวเต็งก็ลงเล่นให้กับทีมชาติกาน่าทันที โดยเริ่มในเดือนพฤษภาคม 2010

ฟุตบอลโลก2010

หลังจากบัวเต็งได้รับเลือกให้เล่นทีมชาติกาน่าในฟุตบอลโลก2010 ที่แอฟริกาใต้ ภายใต้โค้ชอย่าง มิโลวาน ราเยวัค แทนมิชาเอล เอสเซียง ที่ได้รับบาดเจ็บ วันที่ 23 มิถุนายน เขาถูกเลือกให้ลงเล่นในเกมส์ที่เจอกับทีมชาติเยอรมนี ที่ส่งน้องชายของเขา เจโรเม่ บัวเต็ง ลงเล่น ปรากฏว่า กาน่าชนะเยอรมนีไปได้ 1-0 เป็นครั้งแรกที่นักเตะที่เป็นพี่น้องกันลงแข่งกันในทีมชาติคนละทีม ในฟุตบอลโลก ก่อนจะช่วยให้ทีมชาติกาน่า เอาชนะทีมสหรัฐอเมริกา 2-1 จากการยิงประตูด้วยเท้าซ้ายนอกเขตโทษ ในช่วง 4 นาทีแรกของเกมส์

เลิกเล่นทีมชาติ

เดือนพฤศจิกายน 2011 บัวเต็งประกาศเลิกเล่นทีมชาติ โดยอ้างว่าเขาเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ทั้งที่อายุเพียง 24 ปี ทำให้เขาพลาดการลงเล่น แอฟริกัน เนชั่นคัพ2012 ในเดือนกันยายน 2012 กองหน้าของสโมสรมาร์กเซย ชาวกาน่า เพื่อนคนสนิทของบัวเต็งอย่าง อันเดร เอยิว ได้เปิดเผยว่าเขาต้องการให้บัวเต็งพิจารณาเรื่องทีมชาติใหม่ แต่บัวเต็งก็ไม่ได้ลงเล่นใน แอฟริกัน เนชั่นคัพ ในปี2013 แต่อย่างใด

ฟุตบอลโลก2014

วันที่ 1 ตุลาคม 2013 บัวเต็งได้รับเลือกให้มีชื่อในทีมชาติกาน่า ชุดฟุตบอลโลก2014 รอบเพลย์ออฟ ที่เจอกับ อิยิปต์ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2013 เขาลงเล่นในนาทีที่ 79 และทำประตูได้ในนาทีที่ 89 ช่วยให้กาน่าผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก2014 ที่บราซิล

วันที่ 2 มิถุนายน 2014 บัวเต็งมีชื่อในการแข่งขันฟุตบอลโลกรับสุดท้ายที่บราซิล ในเกมส์เปิดสนาม เขาลงมาในช่วงครึ่งเวลาหลัง ในเกมส์ที่แพ้ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา 2-1 และลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมส์ที่เสมอกับกับทีมชาติเยอรมนี 2-2 โดยมีน้องชายของเขาลงเล่นอีกครั้ง

วันที่ 26 มิถุนายน บัวเต็งถูกส่งกลับบ้าน และห้ามลงแข่งให้ทีมชาติกาน่า ก่อนหน้าการแข่งขันกับทีมชาติโปรตุเกส ชั่วโมงเดียว ด้วยเหตุผลว่าเขาทำร้ายโค้ชของทีมในระหว่างประชุมทีม โดยบัวเต็งถูกส่งกลับบ้านพร้อมกับ ซุลลีย์ มุนตารี วันที่ 29 มิถุนายน บัวเต็งได้ตอกกลับสมาคมฟุตบอลกาน่า ว่าเป็นเหมือนมือสมัครเล่น

ชีวิตส่วนตัว

ชีวิตส่วนตัว

บัวเต็งเกิดในกรุงเบอร์ลิน แม่ของเขาคือ คริสติเน่ ราห์น เป็นชาวเยอรมัน ส่วนพ่อเป็นชาวกาน่า เขาเป็นพี่ชายคนโต มีน้องชายเป็นนักฟุตบอลอาชีพคือ เจโรเม่ บัวเต็ง บัวเต็งแต่งงานครั้งแรกกัน เจนนี่ มีลูกชาย 1 คน คือ เจอร์ไมน์ ปริ๊น เขาได้หมั้นกับนางแบบสาวชาวอิตาลี เมลิสซ่า แซตตา ในปี2011 และมีลูกด้วยกัน 1 คนที่เกิดวันที่ 15 เมษายน 2014 คือ แมดด๊อก ปริ๊น ทั้งคู่แต่งงานด้วยกันวันที่ 25 มิถุนายน 2016 ที่ปอร์โต้ เซอร์โว ซาร์ดิเนีย

เควิน-พรินซ์ โบอาเทง ชีวิตครอบครัว