ฮาแวร์ตซ์ กับช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงในเชลซี

ฮาแวร์ตซ์ กับช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงในเชลซี

ไค ฮาแวร์ตซ์ ชื่อนี้ถ้าหากคุณติดตามฟุตบอลเยอรมันมาพักใหญ่ๆ ก็บ่อมต้องรู้จักเจ้าหนูตัวรุกความสามารถสูงรายนี้อย่างแน่นอน เพราะเขาคือนักเตะที่ถือได้ว่ามีความครบเครื่องอย่างมากในการเป็นตัวรุกทำไมเราถึงเรียกว่าเป็นตัวรุก ไม่ได้พูดให้ชัดเจนไปเลยว่าเป็นนักเตะในตำแหน่งอะไร ก็เพราะว่าเจ้าหนุ่มดาวรุ่งผุ้มีเท้าซ้ายสุดฉมังรายนี้ ดันเป็นนักเตะที่เล่นได้แทบจะทุกบทบาทในแนวรุกเลยนั่นเอง บางครั้งก็เล่นเป็นกองหน้าตัวปิดสกอร์หมายเลข 9 บางครั้งก็เล่นเป็นหน้าต่ำที่คอยปั้นบอลให้ตัวเป้ายิงประตู บางครั้งก็เล่นออกริมเส้นราวกับเป็นปีกธรรมชาติทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา และนอกจากนี้ ยังมีหลายครั้งที่เขาถอยลงต่ำไปเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 หรือมิดฟิลด์ตัวรุกตรงกลางหลังหน้าเป้าอีกด้วยขนาดว่าความสามารถขนาดนี้ แต่ทำไมเจ้าหนูตัวรุกวันเดอร์คิดรายนี้ ดันทำผลงานไม่ค่อยปังกับเชลซี

ระบบการเล่นที่ไม่มีใครเป็นศูนย์กลางเกมรุก

ระบบการเล่นที่ไม่มีใครเป็นศูนย์กลางเกมรุก

ในเวลานี้ แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือของสโมสรเชลซีกำลังใช้งานระบบ 4-3-3 ที่ซึ่งเรียกว่าทุกอย่างกำลังลงตัวเลยทีเดียว แต่ทว่านักเตะแบบ ฮาแวร์ตซ์ กลับเล่นไม่ออกในระบบ 4-3-3 ที่เน้นเกมรุก เพราะเนื่องจากเจ้าตัวชินกับระบบ 4-2-3-1 มาตั้งแต่สมัยเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค หรือแม้แต่กับทีมชาติเยอรมันนั่นระบบดังกล่าวนั้น ฮาแวร์ตซ์ จะเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางในเกมรุกได้เต็มปาก บอลจังหวะโต้กลับหรือขึ้นเกมบุกจะมาเซ็ตที่เขา แต่ถ้าหากว่าเป็นเชลซีในระบบ 4-3-3 ทุกคนมีความเด่นพอกัน ช่วยกันเล่น ไมได้ฝากฝังให้ใครเป็นตัวทำเกมรุกเป็นหลัก ดังนั้นแล้วถ้าหากเขาอยากจะจูนให้เข้ากับระบบนี้ ก็ควรต้องพยายามปรับตัวให้สามารถเชื่อมเกมกับเพื่อนให้มากขึ้น

ตัวรุกฝีเท้าจัดเต็มทีมเชลซี !

ฮาแวร์ตซ์ ย้ายมาจาก เลเวอร์คูเซ่น พร้อมกับตัวของ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าเพื่อนร่วมชาติที่ย้ายมาจาก ไลป์ซิก ในเวลาไล่เลี่ยกัน รวมถึงกับตัวของ ฮาคิม ซีเยช ปีกชาวโมร็อกโกจาก อาแจ็กซ์และโจทย์นี้ก็จะเชื่อมกับโจทย์ข้อแรก ถ้าหากว่าเจ้าตัวอยากจะลงเล่นในระบบ 4-3-3 นี้ของเชลซี ก็คงต้องไปเบียดกับนักเตะตัวรุกที่กำลังผลงานได้ปังอย่าง คริสเตียน พูลิซิช ที่ตอนนี้เป็นกำลังสำคัญทางฝั่งซ้ายไปแล้ว , เมสัน เมาท์ ก็ยึดตำแหน่งในแดนกลางได้ แถมยังดันตัวเองขึ้นสูงได้, ฮาคิม ซีเยช จับจองพื้นที่ด้านขวาเพื่อเน้นการลากตัดเข้าใน , โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ระยะหลังมานี้ก็ยิงคมลืมแก่ , แทมมี่ อับราฮัม ก็เป็นตัวโจ๊กเกอร์ที่ลงสนามมาแล้วเป็นอันได้เรื่อง และแม้แต่เพื่อนร่วมชาติอย่าง ติโม แวร์เนอร์ ด้วยนั่นเองที่กำลังทำผลงานได้ดี ฮาแวร์ตซ์ จะต้องรับมือกับแรงกดดันในการแย่งตำแหน่งจากนักเตะเหล่านี้ให้ได้ และยังต้องปรับตัวให้เข้ากับแผนของ แลมพาร์ด ด้วยอีก ซึ่งเรียกว่าหินเอาเรื่อง

พรีเมียร์ลีกยังคงเป็นลีกที่อัดหนักเช่นเคย

พรีเมียร์ลีกยังคงเป็นลีกที่อัดหนักเช่นเคย

แม้ว่าภาพลักษณ์ของหลายๆสโมสรในพรีเมียร์ลีก จะเน้นเล่นบอลที่ดุเป็นระบบมากขึ้น มีแทคติกที่ชัดเจน เล่นบอลสวยมากกว่ายุคก่อนที่เข้าขั้นเถื่อนหรือเน้นแต่พลัง แต่เอาเข้าจริงในยุคนี้เวลาเข้าบอลก็ยังมีปะทะกันหนักๆอยู่ให้เห็นเช่นกันและนักเตะร่างบางที่เพิ่งจะอายุแค่ 21 ปีอย่าง ฮาแวร์ตซ์ แถมยังเพิ่งจะย้ายจากบุนเดสลีกามาอยู่กับทีมชั้นนำแบบเชลซี มันก็ย่อมต้องเป็นการรับมือกับอะไรที่หนักพอควรอยู่หลายครั้งที่ ฮาแวร์ตซ์ โดนอัดหนักจนเจ็บ หรือเริ่มมีอาการแหยงๆ กับการจะเข้าบอล ซึ่งนั่นแหละคือสิ่งที่เขาต้งพยายามปรับตัวให้เข้ากัพรีเมียร์ลีกโดยเร็ววันนักเตะแบบ ฮาแวร์ตซ์ ใช่แล้ว เขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ว่าเขาก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยในกรปรับตัวให้เข้ากับเชลซี และสามารถกลับมาระเบิดฟอร์มได้เหมือนสมัยที่เขาอยู่กับเลเวอร์คูเซ่น แต่ถ้าเขาทำไม่ได้ เขาก็คงจะมีอันเป็นไปแบบ “มาร์โก มาริน” นั่นแล