อ็องตวน กรีซมันน์ … กับช่วงเวลาราวกับตกนรกที่คัมป์นู

อ็องตวน กรีซมันน์ ... กับช่วงเวลาราวกับตกนรกที่คัมป์นู

คนเรานั้นถ้าหากว่าอยู่ผิดที่ผิดทาง หรือแม้แต่ผิดเวลา มันก็ย่อมเจอกับช่วงเวลาที่เลวร้าย และไม่มีทางจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ตัวเองขึ้นมาผงาดได้เลยและสิ่งเหล่านี้มันกำลังเกิดขึ้นกับชายที่มีเท้าซ้ายสุดคมที่มีชื่อว่า “อ็องตวน กรีซมันน์” ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสของ บาร์เซโลนา ! ในช่วงสมัยที่เขาเล่นให้กับ แอตเลติโก มาดริด ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่เขาค้าแข้งในถิ่น ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ เขาพัฒนาตัวเองจากการเป็น “ปีกธรรมดาๆ” ขึ้นมาเป็น “กองหน้า” ที่ดีที่สุดในอันดับต้นๆของยุโรปเลยทีเดียว ทั้งทักษะการครองบอลที่เหนียวแน่น มีความคมจากการทำประตูโดยเฉพาะกับการใช้ “เท้าซ้าย” ข้างถนัดในการรังสรรค์สกอร์สุดสวยให้กับแอตเลติโก มาดริด และ ทีมชาติฝรั่งเศสจนเป็นแชมป์มาแล้วหลากหลายรายการความเร็ว ความคม เซนส์บอล ที่อัดแน่นอยู่ในตัวของ กรีซมันน์ ยิ่งเล่นกับแผน “เคาน์เตอร์แอทแทค” ที่ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ใช้กับแอตเลติโก มาดริด มันกิยิ่งทำให้ กรีซมันน์ ผงาดไดมากกว่าใครและเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกแต่ทว่าทำไมตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีครึ่งมาแล้วที่เขาอยู่กับ บาร์เซโลนา ทำไมกองหน้ารายนี้ถึงไม่สามารถทำผลงานได้ดีให้คุ้มกับค่าตัว 120 ล้านยูโรที่บาร์ซ่าจ่ายให้กับ แอตเลติโก มาดริด ในปี 2019

คุ้นเคยกับสไตล์การเล่นสวนกลับ

คุ้นเคยกับสไตล์การเล่นสวนกลับ

ในสมัยที่กรีซมันน์เล่นให้กับ แอตเลติโก มาดริด โดยส่วนใหญ่นั้น กรีซมันน์ ถูกวางตัวในฐานะ “หัวหอกคู่” เพื่อประสานงานกับกองหน้าตัวเป้าอีกรายหนึ่ง และตัวของ กรีซมันน์ ค่อนข้างจะถูกผลักดันให้รับบทบาทตัวหน้าต่ำ หรือบางครั้งก็เล่นเหมือนหมายเลข 10 เขาไม่ต้องมีหน้าที่เล่นเกมรับมากนัก และเจ้าตัวจะติดเครื่องอย่างเต็มที่ ยามที่ทีมดักบอลได้จากฝ่ายตรงข้ามและเริ่มทำการ “โต้กลับเร็ว”แอตเลติโก มาดริด ในยุคสมัยที่ กรีซมันน์ ค้าแข้งอยู่กับทีมนั้น มีสถิติใกนารทำประตูได้มากจากจังหวะเคาน์เตอร์แอทแทค ยิ่งใช้ความเร็วในการลากบอลจี้กองหลังเท่าไหร่ กรีซมันน์ ก็ยิ่งแผลงฤทธิ์มากขึ้นเท่านั้น !แต่กลับกันในบาร์ซ่า พวกเขาเน้นระบบเพรสซิ่ง เน้นต่อบอลค่อยๆหาจังหวะเข้าทำ กรีซมันน์ แทบจะไม่เคยคุ้นกับการเล่นแบบนี้ ก็คงจะยากหน่อยในการปรับตัว

ไม่ได้เล่นเป็นศูนย์กลางของเกมรุก

บทบาทศูนย์กลางเกมรุก เราอาจจะนึกถึงตัวกองหน้าที่รับบทเป็น False9 ตรงกลาง , หน้าต่ำหลังกองหน้าตัวเป้า หรือไม่เช่นนั้นก็เป้นผู้เล่นจำพวก “หมายเลข 10” ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่ กรีซมันน์ สามารถแสดงศํกยภาพได้ดีที่สุด ครั้งหนึ่งตัวของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศสเคยระบุอย่างชัดเจนว่า ฝีเท้าของกรีซมันน์จะผลิดอกออกผลเต็มที่นั่นคือการรับบทเป็นศูนย์กลางเกมรุกในบทบาทหมายเลข 10 หรือตัว False 9แต่กระนั้นแล้วการเล่นให้กับบาร์เซโลนา คนที่เล่นในบทบาทดังกล่าวนั้นคือ ลิโอเนล เมสซี่ และรวมถึงตัวของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ด้วยอีกราย การที่ตัวของกรีซมันน์จะเบียดตำแหน่งของเมสซี่ลงได้นั้น มันคือสิ่งที่ยากที่สุดตราบใดที่เมสซี่ยังอยู่ โอกาสที่กรีซมันน์จะได้ลงเล่นในตำแหน่งดังกล่าวนั้น มันแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน

เล่นปีกเป็นก็จริง แต่ไม่ได้เล่นเป็นปีกขวามาก่อน

เล่นปีกเป็นก็จริง แต่ไม่ได้เล่นเป็นปีกขวามาก่อน

เมื่อสมัยที่ยังเล่นให้กับ เรอัล โซเซียดาด และเล่นให้กับแอตเลติโก มาดริด ช่วงแรกๆ กรีซมันน์ คือนักเตะตำแหน่ง “ปีกซ้าย” ที่มีเทคนิคการเล่นดี ผ่านบอลแม่นและยิงคม เขาชอบโลดแล่นทางพื้นที่กราบซ้ายเพื่อเน้นความเร็วเป็นหลัก ก่อนจะผันตัวมาเป็นกองหน้าตัวต่ำหรือตัวกลางมากขึ้น แต่ในช่วงเวลาที่เขาได้ร่วมงานกับ โรนัลด์ คูมัน ผู้จัดการทีมบาร์เซโลนา คูมัน ดันคิดประหลาดด้วยการจับเอากรีซมันน์ ไปเล่นเป็นปีกขวาแทน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาไม่เคยเล่น ตามสมัยนิยมนั้น นักเตะตัวรุกริมเส้นถ้าหากว่าถนัดเท้าข้างไหน โค้ชก็มักจะจับไปเล่นฝั่งที่ตรงกันข้ามกับเท้าถนัด ซึ่งกรีซมันน์ที่ถนัดเท้าซ้ายนั้น คูมันจับไปเล่นทางขวาเพื่อหวังให้ใช้เท้าซ้ายลากบอลตัดเข้าในเพื่อยิงประตูแบบที่ปีกสมัยใหม่นิยมทำกัน แต่ผลคือ กรีซมันน์ เล่นไม่ออก เรียกว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ กรีซมันน์ กำลังเจอมรสุมชีวิตสุดๆ ถ้าเขาอยากจะกลับมาผงาดได้ถ้าไม่ย้ายทีม ก็ต้องรอเมสซี่อำลาทีมไปเท่านั้นจริงๆ เพียงแต่ว่าเขาจะอดทนรอถึงวันนั้นได้หรือไม่