อันแดร์สัน แข้งแซมบ้าที่ไม่ซ่ายามใส่ชุด “ผีแดง”

“อันแดร์สัน” ชื่อนี้แฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังจำกันได้หรือไม่กับอดีตนักเตะชาวบราซิลที่ครั้งหนึ่งคือเจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของสโมสร และยังได้รับการยกย่องอย่างสูงว่าจะเป็นทั้ง “โรนัลดินโญ่ คนใหม่” หรือกระทั่งเรียกว่าเป็น “ทายาทจอมทัพของ พอล สโคลส์” มีดีกรีและโปรไฟล์สูงลิ่วก่อนที่จะย้ายมายังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ว่าสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ จากวันเดอร์คิดที่แฟนบอลยกย่อง ทำไมถึงเริ่มกลายเป็นนักเตะดาดๆธรรมดาๆ ที่ไม่ค่อยจะมีใครอยากจดจำเท่าไหร่นัก มันเกิดอะไรขึ้นกับเขาที่การค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มันเต็มไปด้วยความผิดหวังปานนี้

ไม่รู้จักดูแลรูปร่างให้เหมาะสม

อันแดร์สัน ในอดีตสมัยค้าแข้งอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เสมอ และนักวิจารณ์หลายๆคนรวมถึงนักโภชนาการก็มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อันแดร์สัน เป็นนักเตะที่ปล่อยตัวให้มีน้ำหนักมากเกินไป และน้ำหนักที่โอเวอร์โหลดนี้ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการเล่นกีฬาที่ต้องอาศัยกเคลื่อนไหวของร่างกายแทบจะตลอดเวลาอย่างฟุตบอล และเมื่อน้ำหนักส่วนเกินมากไปนั้น มันก็ย่อมทำให้ร่างกายของเขาแบกรับน้ำหนักตัวไว้มากจนคุมไม่อยู่ เวลาล้ม เวลากระแทก กล้ามเนื้อมักจะเสียหายมากกว่าคนที่มีรูปร่างเฟิร์ม จึงไม่แปลกที่จะทำให้ อันแดร์สัน นอนโรงหมออยู่บ่อย

โดนจำกัดการใช้ทักษะแบบที่เคยเป็น

พรีเมียร์ลีกนั้นเป็นลีกที่เน้นใช้แรงปะทะเป็นหลัก นักเตะเทคนิคสูงๆในสมัยนั้น มักจะเอาชื่อเสียงมาทิ้งไว้ที่นี่ และแน่นอนว่าอันแดร์สันเองก็รู้ดีถึงเรื่องนี้ อีกทั้งตัวของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือในสมัยนั้นก็ไม่ได้ใช้งาน อันแดร์สัน ให้ลงเล่นในตำแหน่ง “หน้าต่ำ” หรือ “มิดฟิลด์หมายเลข 10” แบบที่เขาเล่นให้กับ ปอร์โต้ ในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ว่า “ป๋าแพนด้า” ได้จับเอา อันแดร์สัน ไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่คอยพักบอล ลำเลียงบอล เชื่อมเกมให้กับนักเตะเกมรุกรายอื่นๆแทน เมื่อโดนจำกัดหน้าที่ในการลากเลื้อย ทำเกม โชว์ลีลาสไตล์แซมบ้า ทำได้แค่แปะบอลไปมา สวิตช์บอลข้ามฟากบ้างอะไรบ้าง มันก็เลยทำให้ อันแดร์สัน ไม่ได้ปล่อยศักยภาพที่ดีที่สุดของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่

มิติในการเล่นฟุตบอลไม่ค่อยหลากหลาย

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว อันแดร์สัน เป็นนักเตะที่ถนัดในการเล่นในตำแหน่งหน้าต่ำ หรือมิดฟิลด์ตัวรุกเป็นหลัก ไม่ได้เก่งในเรื่องการอ่านเกม เชื่อมเกมในฐานะกองกลางจอมทัพตรงกลางสนาม อีกทั้งสิ่งที่เป็นปัญหาขั้นรุนแรงเลยก็คือนักเตะแบบเขานั้น ไม่ค่อยคิดที่จะหาจังหวะในการสอดพาตัวเองขึ้นไปลุ้นในการสร้างเกมรุกเท่าไหร่ ชอบที่จะผ่านบอล หรือทำให้เพื่อนเล่นง่ายๆไว้ก่อน ไม่มีความกล้าที่จะพลิกเกมอะไรเองเท่าที่ควรจะเป็นและเมื่อกองหลังฝั่งตรงข้ามจับไต๋ได้ว่า อันแดร์สัน ไม่กล้าที่จะพาบอลบุกขึ้นมาเองแน่ พวกเขาก็แทบจะไม่ค้องทำอะไรแล้ว ล็อกตายคนที่คาดว่า อันแดร์สัน จะจ่ายบอลให้ก็พอ

ยิงประตูช่วยตัดสินเกม “ไม่เป็น”

นี่ก็ยังคงต่อเนื่องมาจากข้อที่แล้ว และเป็นจุดอ่อนที่ร้ายแรงสุดๆที่นักเตะสไตล์ “หน้าต่ำ” หรือหมายเลข 10 เลยก็ว่าได้ เพราะเขาไม่มีเซนส์ในการยิงประตูเลยจริงๆ จะเป็นการยิงไกล การยิงในเขตโทษ แทบจะไม่เกิดขึ้น เขาไม่มีความคมในการยิง และไม่พอในหลายๆเกมนั้น อันแดร์สัน แทบจะไม่เคยง้างเท้าได้ยิงประตูเลยสักครั้ง อันแดร์สันค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2007 และไม่น่าเชื่อว่าการซัลโวประตูแรกในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเกิดขึ้นในปี “2009” หรือ 2 ปีหลังจากที่เขาเซ็นสัญญา ซึ่งมันเป็นการยิงประตูได้ในเกมระดับ “ปรีซีซั่น” ที่ไม่ถือว่าเป็นเกมอย่างเป็นทางการด้วยอีก โดยมันเกิดขึ้นในเกมกับ โบคา จูเนียร์ และตัวของ อันแดร์สัน ก็จัดการซัดฟรีคิกด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดจากริมเขตโทษด้านขวา ซึ่งเป็นเหลี่ยมถนัดของคนที่เล่นบอลด้วยเท้าซ้ายเวลาได้เล่นลูกตั้งเตะอยู่แล้ว ฟรีคิกลูกดังกล่าวอาจจะสวยจริง แต่อันแดร์สันก็ไม่เคยยิงประตูในลักษณะแบบนี้ได้อีกเลยในการเล่นในแมตช์อย่างเป็นทางการ