การก้าวขึ้นมาเป็นทีมหัวตารางในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ของทัพ “หงส์แดง” หลายคนอาจมองถึงเกมรุกอันดุดันที่มีสามประสานแดนหน้าคอยขับเคลื่อนเกมรุกจนยิงกันอย่างสยดสยอง แต่ถ้าให้เจาะลึกลงไปแล้ว เกมรับคืออีกหัวใจที่ทำให้พวกเขาทำผลงานได้น่ารักขนาดนี้ และหนึ่งในแนวรับที่เข้ามาเติมเต็มทีมมากที่สุดคือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายด่านชาวบราซิลที่ย้ายมาจาก โรม่า
ตอนช่วงซัมเมอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจดึงนายทวารมือ 1 ทีมชาติบราซิลรายนี้เข้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลกก่อนที่ เชลซี จะทำลายสถิติในเวลาต่อมา แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญเนื่องจากการเอานายด่านรายนี้เข้ามามันคือความเสี่ยงอย่างหนึ่งของ คล็อปป์ เช่นกัน ใคร ๆ ก็รู้ว่าปัญหาในช่วง 3 ซีซั่นที่ผ่านมา มันคือแนวรับที่แก้เท่าไหร่ก็ไม่ตก พอได้ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ มา ก็ทำให้แนวรับดูมีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่มันยังไม่สุด เพราะนายทวารคือช่องโหว่รูเบ้อเริ่มที่เห็นผลชัดเจนมากตอนนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นที่ผ่านมา และเมื่อผู้รักษาประตูที่มีอยู่สองรายไม่สามารถไว้ใจได้ คล็อปป์ จึงต้องตัดสินใจทุบคลังสโมสรเพื่อนำมือกาวรายนี้มาไว้ในถิ่นแอนฟิลด์
อลิสซอน มือหนึ่งที่แท้ทรู
ตลอดระยะเวลาครึ่งซีซั่นนี้ อลิสซอน แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือตัวจริงในการก้าวขึ้นมายึดมือหนึ่งของทีมแบบถาวร เพราะเพิ่งเสียไปแค่ไม่กี่ลูก หลังนับจนถึงเกมบ็อกซิ่ง เดย์ ถือว่าเป็นสถิติที่ดีมาก ๆ ที่เขาทำกับทีมทั้ง ๆ ที่เพิ่งเข้ามาเพียงซีซั่นแรกเท่านั้น แม้ช่วงแรก ๆ อาจมีลูกเหวดจากจังหวะพยายามโชว์เหนือ แต่เมื่อ คล็อปป์ สั่งการเด็ดขาดห้ามทำอีก เราก็แทบไมได้เห็นอะไรแบบนี้จากเขาเลย แถมจุดเด่นของ เบ็คเกอร์ คือการอ่านเกมและการออกมาตัดบอลที่จัดว่ายอดเยี่ยมได้ใจแฟนหงส์ไปเต็ม ๆ หลายจังหวะเขาอ่านเกมและรีบออกมาตัดบอลก่อนที่บอลจะเข้ามาในเขตอันตราย
หากปีนี้ ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้จริง ๆ หนึ่งในนักเตะที่ต้องได้รับการชมเชยมากที่สุดคงหนีไม่พ้นนายทวารจากบราซิลรายนี้ เขาคือส่วนเติมเต็มที่ทำให้แนวรับของ ลิเวอร์พูล แข็งแกร่งขึ้นผิดหูผิดตา แต่เชื่อลึก ๆ ว่าต่อให้ทีมไม่ได้แชมป์ก็จริง แต่เขามีโอกาสสูงมากในการคว้าถุงมือทองคำประจำซีซั่นนี้ไปครองพร้อมเทียบชั้นของ ดาบิด เด เคอา ได้อย่างสบาย ๆ ในฐานะของการเป็นผู้รักษาประตูมือดี
