เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา คู่เอกคงหนีไม่พ้นทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของน้องใหม่อย่าง คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และผลก็เป็นดังที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ว่ายังไงเจ้าบ้านก็น่าจะยำใหญ่ใส่สารพัดจนผู้มาเยือนหาทางกลับบ้านไม่ถูกแน่นอน ทว่านอกเหนือจากสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ยังมีเรื่องราวน่าสนใจที่แฟนบอลได้เห็นจากเกมดังกล่าวหลาย ๆ สิ่ง โดยเฉพาะการประสานงานในแนวรุกที่กลับมาผงาดฟ้าอีกครั้งหลังจากโดนบ่นอยู่หลายเกม
แม้เราจะเห็นว่าสกอร์คู่นี้จบที่ 4-1 แต่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายก็เล่นเอาแฟนบอลมีเสียวไม่น้อย เมื่อคาร์ดิฟฟ์ สามารถไล่มาด้วยสกอร์ 2-1 ตอนนั้นเป็นใครต่างก็ต้องคิดว่าไม่แน่อาจทำได้แค่เสมออีกครั้งสำหรับลิเวอร์พูล ทว่าการเปลี่ยน เซอร์ดาน ชาคิรี่ มิดฟิลด์มะขามข้อเดียวชาวสวิสลงมา กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้หงส์แดงดาหน้ายิงใส่คู่แข่งอีก 2 ประตู จนสุดท้ายจบไปด้วยสกอร์ดังกล่าว ต้องยอมรับเลยว่า 3 ประสานของลิเวอร์พูลแถมได้ ชาคิรี่ มาร่วมทีม เป็นอะไรที่ลงล็อกสุด ๆ เพราะสไตล์ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เขาชอบนักเตะประเภทความเร็วสูง ทักษะดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องตัวใหญ่ อัดคู่แข่งกระจายแต่ด้วยบอลชิ่ง 1 ไป 2 แบบนี้นี่แหละที่เขาถนัด
ชาคิรี่ กลับมาโบยบินอีกครั้ง
ซึ่ง ชาคิรี่ ไม่ทำให้ คล็อปป์ ผิดหวังจริง ๆ ยิ่งการได้เห็นลูกสุดท้ายยิ่งทำให้รู้ว่าการต่อเกมของแนวรุกลิเวอร์พูลมันดุดันมากมายเหลือเกิน เป็นอีกสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเริ่มกลับมาโบยบินอีกครั้งหลังก่อนหน้านี้ต้องเจอกับศึกใหญ่หลาย ๆ เกมจนออกอาการอ่วมเอาเหมือนกัน มาจนถึงตอนนี้ผ่านมา 10 เกมพวกเขายังไม่แพ้ใครและทำผลงานได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ กลายเป็นทีมลุ้นแชมป์เต็มตัวพร้อมก้าวขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราวเพราะแมนฯ ซิตี้ต้องทำศึกบิ๊กแมตช์กับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในคืนวันจันทร์และผลยังไม่รู้ว่าจะออกมาอย่างไร หากซิตี้พลาดท่า นั่นหมายถึงพวกเขาครองฝูงแบบยาว ๆ ไปอีก 1 สัปดาห์นั่นเอง
หากไม่มองถึงแชมป์ลีกปีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องมองปีไหนแล้วจริง ๆ สำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล การจะกลับมาผงาดให้ได้อีกครั้งมันต้องใช้เวลาและตอนนี้อาจถึงเวลาที่พวกเขากลับมาโบยบินบนท้องฟ้าอีกครั้งหลังไม่ได้สัมผัสแชมป์ลีกมายาวนานเกือบ 30 ปี กระนั้นระยะทางมันยังอีกยาวไกล ต้องรอดูต่อไปว่าสุดท้าย คล็อปป์ จะพาทีมทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่แฟนบอลหวังไว้หรือไม่ เราจะได้รู้กันแน่นอน
