มาแรงแซงทางโค้ง สิงห์ อมควัน พันธุ์แท้

มาแรงแซงทางโค้ง สิงห์

อีกทีมที่เวลานี้หลายคนลืมยกเครดิตให้ว่าทำผลงานได้ดีไม่แพ้ลิเวอร์พูลนั่นคือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ชนะมา 3 เกมรวดเหมือนกัน แม้ชัยชนะของพวกเขาอาจไม่ได้สวยหรูด้วยการไม่เก็บคลีนชีตเลยสักเกม ทว่าเมื่อมองอันดับตารางคะแนนมันก็คือ 9 แต้มเต็มเหมือนกัน แถมยังเอาชนะทีมใหญ่อย่างอาร์เซน่อลได้อีกต่างหาก งานนี้คนที่ควรได้รับเครดิตไปเต็ม ๆ นั่นคือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือใหญ่คนใหม่ที่เข้ามาคุมทัพแทน อันโตนิโอ คอนเต้

ทว่าความน่าสนใจของกุนซือรายนี้ไม่ได้เป็นแอ็คชั่นข้างสนามที่ดุดัน ลีลาแพรวพราวเหมือนตอน คอนเต้ คุมทีม แต่มันกลายเป็นท่วงท่าพร้อมแอ็คชั่นของเขาในการคาบบุหรี่อยู่ที่ปากตลอดเวลา ซึ่งน้อยมากหรือแทบไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำว่าจะมีผู้จัดการทีมยืนข้างสนามคนไหนทำแบบที่เขาทำอยู่ ถ้าใครได้ดูเชลซีลงสนาม 3 นัดที่ผ่านมาจะพบเห็นภาพทันทีว่า ซาร์รี่ มักเอาบุหรี่มาคาบไว้ที่ปากแต่ไม่ได้จุดซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่านี่มันบุหรี่จริงหรือบุหรี่ปลอมกันแน่ แล้วทำไมเขาต้องเอามาคาบไว้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามเป็นที่รู้กันดีว่า ซาร์รี่ นั้นจัดเป็นสิงห์อมควันตัวยงคนหนึ่ง โดยเคยมีข่าวระบุออกมาว่าวันหนึ่งเขาต้องสูบบุหรี่ถึง 4 ซอง ซึ่งถือว่าหนักเอาการทีเดียว แถมตอนย้ายมาเชลซีมีการยืนยันด้วยว่าทางสโมสรทำห้องสูบบุหรี่ให้กับ ซาร์รี่ โดยเฉพาะ นั่นแสดงให้เห็นชัดเจนว่านี่มันมนุษย์ปอดเหล็กชัด ๆ กระนั้นกับประเด็นการคาบบุหรี่ของเขาหากมองในมุมปกติถ้าเขาไม่ได้จุดมันขึ้นมาก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้ว และเชื่อว่าเขาคงไม่ทำแบบนั้นด้วย

ในอดีตเราเคยเห็นกุนซือหลายรายที่เวลาเครียดจัด ๆ ก็สูบบุหรี่กันในซุ้มม้านั่งสำรองเลย ที่จำภาพได้คือสมัย อาร์แซน เวนเกอร์ หนุ่ม ๆ เวลาที่เขาเครียดมาก ๆ จากเกมในสนามเขามักจุดบุหรี่สูบกันทันที อาจเป็นไปได้ว่ามันช่วยทำให้เขาคิดอะไรออกก็ได้อยู่เหมือนกัน ขณะที่ ซาร์รี่ เขาอาจแค่เอามาคาบไว้เฉย ๆ ทำนองเมื่อได้กลิ่นนิโคตินจากบุหรี่ทั้งที่ยังไม่ได้จุดสูบ มันอาจทำให้เขามีความคิดอะไรดี ๆ ออกมาจากหัวก็ได้

ด้วยลุคข้างสนามที่ดูแปลกใหม่ของวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่สิ่งที่เขาแสดงออกมาให้เห็นตอนนี้คือศักยภาพความเก่งกาจที่หลายคนอาจมองข้ามเชลซีไป ไม่แน่นี่แหละอาจเป็นตาอยู่ของจริง

สิงห์ อมควัน พันธุ์แท้