ผลเสมอคือคำตอบที่ดีที่สุด สิงห์ปะทะหงส์

ผลเสมอคือคำตอบที่ดีที่สุด สิงห์ปะทะหงส์

ใครที่มีโอกาสได้ดูเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์คู่สุดท้ายซึ่งเป็นคู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่าคุ้มค่ากับการถ่างตารอสุด ๆ เพราะเกมเล่นกันมันไฟแลบสนามผลัดกันรุกผลัดกันรับตามแบบฉบับของทีมเน้นบอลภาคพื้นดินเท้าสู่เท้ากันทั้งคู่ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาคือการเสมอกันไป 1-1 ทั้งที่เชลซีควรเป็นฝ่ายชนะก็ตามถือเป็นอะไรที่สมน้ำสมเนื้อมากสุดเหมาะกับการเป็นทีมแย่งแชมป์ด้วยกันทั้งคู่

สกิลในการเปิดบ้านอย่างเทพ

เปิดเกมมาต้องบอกว่าด้วยฐานะของการเป็นเจ้าบ้านเชลซีเล่นได้ค่อนข้างดีกว่ามากทั้งการต่อบอลและการวางหมากของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่เก็บปีกแนวรุกความสูง 2 ข้างของลิเวอร์พูลอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ชนิดอยู่หมัด ก่อนได้ประตูออกนำจากความสามารถของ เอเด็น อาซาร์ ในช่วงครึ่งแรก อีกจุดเด่นที่เราได้เห็นในเกมนี้นั่นคือการต่อบอลแบบเท้าสู่เท้าซึ่งมันเป็นอะไรที่เพลินตาสุด ๆ ทั้งสองทีมแทบไม่ค่อยเล่นเกมแนวอากาศเท่าไหร่ แม้แต่การเริ่มเล่นจากหน้าประตูตนเองก็จะเห็นว่านายทวารแต่ละฝั่งนิยมจ่ายบอลใกล้ ๆ มากกว่าการสาดยาว

ช่วงครึ่งหลัง จริง ๆ แล้วเชลซีแทบจะปิดช่องการเข้าทำของลิเวอร์พูลเอาไว้ได้หมด แต่ดันโดนลูกยิงผีจับยัดของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ชนิดงามหยดย้อยเล่นเอา เคปา อาร์ริซาบาลากา ก็หมดปัญญาจะช่วยเซฟเอาไว้ได้เหมือนกัน ซึ่งถ้ามองในรูปเกมนี้ ฝั่งได้เปรียบต้องบอกว่าเป็นลิเวอร์พูลเนื่องจากพวกเขาบุกมาเยือน หากอีกนัดที่เล่นในแอนฟิลด์แล้วสามารถเอาชนะได้ ถึงตอนนั้นโอกาสคว้าแชมป์ก็น่าจะสดใสมากขึ้น ซึ่งเมื่อดูจากแผนการเล่นทั้ง 2 ทีม บวกกับสไตล์การเล่นของแมนฯ ซิตี้ ที่มาในรูปแบบเดียวกัน ต้องบอกว่านี่คือพรีเมียร์ลีกสไตล์เวลานี้ขนานแท้

ประเภทบอลโยนยาวหรือบอลสาดไปข้างหน้า ยุคนี้อาจใช้ไม่ได้กับเกม พรีเมียร์ลีก แล้วเพราะทีมที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มาจากการเล่นบนพื้นด้วยกันแทบทั้งสิ้น ใครได้มีโอกาสดูเกมพรีเมียร์ลีกเกมนี้ต้องยอมรับว่าคุ้มค่ามากจริง ๆ ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์รอดูจนดึกดื่น แม้มีบางช่วงอาจง่วงไปบ้างเล็กน้อยสำหรับแฟนบอลเมืองไทยที่ไม่ค่อยนอนดึกมากนัก ทว่าเป็นเกมระดับ 5 ดาวเกมหนึ่งของซีซั่นนี้เลยก็ว่าได้ ถือว่าสนุกสุด ๆ เกมหนึ่งในปีนี้เหมือนกัน